โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

รู้จักสายพันธุ์กุ้งขาวแวนนาไมใหม่ 'เพชรดา 1' และ 'ศรีดา 1' ต้านทานโรคอะไรได้บ้าง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 02 ม.ค. 2567 เวลา 10.48 น. • เผยแพร่ 02 ม.ค. 2567 เวลา 09.07 น.

กรมประมง จับมือ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ศึกษาวิจัยพัฒนาสายพันธุ์กุ้งขาวแวนนาไมสำเร็จ 2 สายพันธุ์ใหม่ “เพชรดา 1” เจริญเติบโตดี และ “ศรีดา 1” ต้านทานโรค EMS-AHPND หวังสร้างทางเลือกให้เกษตรกร ทดแทนการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ต่างประเทศ ยกระดับขีดความสามารถแข่งขัน อุตสาหกรรมกุ้งไทย

วันที่ 2 มกราคม 2567 นายประพันธ์ ลีปายะคุณ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมง ร่วมกับสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) สวก. ดำเนินการโครงการศึกษาวิจัยเรื่อง การสร้างประชากรพ่อแม่พันธุ์กุ้งขาวปลอดโรคและโตดีเพื่อการเพาะเลี้ยงในประเทศไทยและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กุ้งขาวแวนนาไมให้มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์

จนประสบผลสำเร็จ ได้กุ้งขาวแวนนาไม 2 สายพันธุ์ใหม่ คือ “เพชรดา 1” (เพ็ด-ชะ-ดา-หนึ่ง) ซึ่งมีลักษณะเด่นด้านการเจริญเติบโตดี และ “ศรีดา 1” มีลักษณะเด่นในด้านการต้านทานโรค EMS-AHPND

“กุ้งทะเลเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก โดยในอดีตสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละเกือบแสนล้านบาท เนื่องจากเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการสูงทั้งภายในและต่างประเทศ กระทั่งเมื่อปี 2555 การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลของไทยประสบวิกฤตการระบาดของโรคตายด่วน หรือ EMS-AHPND สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกุ้งไทยตลอดห่วงโซ่การผลิต ซึ่งที่ผ่านมา กรมประมงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลอย่างต่อเนื่อง”

นายคงภพ อำพลศักดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง เปิดเผยถึงรายละเอียดการศึกษาวิจัยครั้งนี้ว่า ได้นำประชากรกุ้งขาวแวนนาไมมาจาก 4 แหล่ง คือ Shrimp Improvement Systems Hawaii LLC สหรัฐอเมริกา (SIS Hawaii) , Guam, Kona Bay และสายพันธุ์ในประเทศไทย โดยประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมด้วยการใช้เครื่องหมายดีเอ็นเอไมโครแซทเทลไลท์ จำนวน 8 ตำแหน่ง และตรวจสอบการปลอดจากเชื้อก่อโรค 8 โรค

คือ โรคตัวแดงดวงขาว (WSSV) โรคทอร่าซินโดรม (TSV) โรคหัวเหลือง (YHV) โรคแคระแกร็น (IHHNV) โรคกล้ามเนื้อขาวหรือกล้ามเนื้อตาย (IMNV) โรคไวรอลโคเวร์ทมอร์ทาลิตี้ (CMNV) โรคอีเอชพี (EHP) และโรคเอเอชพีเอ็นดี (AHPND) หรือโรคตายด่วน (EMS-AHPND) ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio parahaemolyticus

ในการปรับปรุงพันธุ์ดำเนินการเลี้ยงกุ้งภายใต้ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ศึกษาเปรียบเทียบการเจริญเติบโต ควบคู่ไปกับการตรวจวิเคราะห์เปรียบเทียบความหลากหลายทางพันธุกรรมระหว่างประชากร

โดยใช้เครื่องหมายไมโครแซทเทลไลท์ ซึ่งผลการศึกษาปรากฏว่าประชากรกุ้งขาวที่รวบรวมจากแหล่งภายในประเทศเหมาะสมที่สุดสำหรับนำมาใช้เป็นประชากรพื้นฐาน (base population) ในกระบวนการคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์ เพื่อสร้างประชากรพ่อแม่พันธุ์ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะเลี้ยงและใช้ประโยชน์ในประเทศไทยอย่างยั่งยืน

หลังจากนั้น จึงดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ด้วยวิธีการคัดเลือก (selective breeding) จำนวน 6 รอบคัดเลือก หรือ 6 รุ่น/ชั่วอายุ (generations) โดยเป็นการดำเนินการบนพื้นฐานวิธีแบบมาตรฐานเดิม (conventional) ร่วมกับการพัฒนาและประยุกต์ใช้เครื่องหมายโมเลกุล (molecular markers) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความแม่นยำในกระบวนการคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์ จนสามารถพัฒนาสายพันธุ์ได้ประชากรพ่อแม่พันธุ์กุ้งขาวปลอดโรค 2 สายพันธุ์ คือ “เพชรดา 1” และ “ศรีดา 1” นั่นเอง

ทั้งนี้ ผลการศึกษาพบว่า สายพันธุ์โตดี “เพชรดา 1” ซึ่งทำการปรับปรุงพันธุ์และดำรงรักษาสายพันธุ์ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำเพชรบุรี จากผลการเลี้ยงทดสอบการเจริญเติบโตในบ่อผ้าใบภายนอกอาคาร และการเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์ภายในอาคารปรับปรุงพันธุ์ พบว่า การเลี้ยงกุ้งสายพันธุ์ “เพชรดา 1 ” ทั้ง 2 แบบ แสดงการเจริญเติบโตสูงขึ้นจากรุ่น P0 ถึงรุ่น F6

นอกจากนี้การทดสอบการเจริญเติบโตโดยการเลี้ยงเปรียบเทียบกับพันธุ์กุ้งจากแหล่งอื่น ทั้งในฟาร์มเกษตรกรและในศูนย์ฯ พบว่า สายพันธุ์โตดี “เพชรดา 1” มีค่าเฉลี่ยการเจริญเติบโตสูงกว่าพันธุ์กุ้งแหล่งอื่นที่นำมาเปรียบเทียบ และจากการเลี้ยงกุ้งรุ่น F6 ในบ่อผ้าใบความจุ 25 ลูกบาศก์เมตร พบว่า ผลการเจริญเติบโตกุ้งมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.46 กรัม/วัน น้ำหนักเฉลี่ย 43.76 กรัม/ตัว และมีอัตรารอดตายเฉลี่ย 91%

ส่วนสายพันธุ์ต้านโรค EMS-AHPND “ศรีดา 1” ทำการปรับปรุงพันธุ์และดำรงรักษาสายพันธุ์ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำนครศรีธรรมราช จากผลการทดสอบความต้านทานเชื้อก่อโรค EMS-AHPND พบว่า ค่าเฉลี่ยอัตรารอดตาย จาก 37.51±12.24% ในรุ่น P0 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 63.59±33.36% ในรุ่น F6

โดยผลการทดสอบความต้านทานเชื้อก่อโรค EMS-AHPND ในรุ่น F4, F5 และ F6 เปรียบเทียบกับกุ้งจากแหล่งพันธุ์อื่น พบว่า กุ้งทุกรุ่นมีอัตรารอดตายเฉลี่ยไม่แตกต่างกับทุกแหล่งพันธุ์ที่นำมาเปรียบเทียบ อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบกุ้งสายพันธุ์ต้านโรค EMS-AHPND “ศรีดา 1” ในรุ่น F6 ได้แสดงถึงความสามารถในการต้านเชื้อก่อโรค EMS-AHPND ของกุ้งกลุ่มคัดเลือกรุ่นล่าสุดว่ามีเพิ่มสูงขึ้นมากกว่ากุ้งกลุ่มควบคุมในรุ่นเดียวกันและกุ้งจากแหล่งพันธุ์เอกชนบางแหล่ง

“ขณะนี้กุ้งขาวแวนนาไมทั้ง 2 สายพันธุ์ ยังอยู่ในระยะการวิจัยเพื่อต่อยอดเพิ่มเติม โดยกรมได้นำกุ้งขาวที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์จากโครงการ ดังกล่าว มาทำการทดสอบในเชิงพาณิชย์ ทั้งในด้านการใช้พ่อแม่พันธุ์ การเพาะฟักและอนุบาล รวมถึงการนำไปเลี้ยงให้ได้ขนาดที่ตลาดต้องการในบ่อเลี้ยงกุ้งของเกษตรกรที่มีรูปแบบและสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลทางวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อการนำกุ้งขาวทั้ง 2 สายพันธุ์ ไปเลี้ยงให้เกิดผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ”

หากการพัฒนาสำเร็จ จะเป็นทางเลือกให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลได้ใช้ประโยชน์ในการทดแทนการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์กุ้งทะเลจากต่างประเทศ ลดการใช้พ่อแม่พันธุ์กุ้งขาวจากบ่อดินซึ่งมีความเสี่ยงกับเชื้อก่อโรค ลดการสูญเสียผลผลิตของเกษตรกรจากโรคระบาด อีกทั้งผลผลิตได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการ ซึ่งจะยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ส่งผลให้อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งของไทยมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...