เมียช็อกร่ำไห้ ครูสอนฟุตบอล วัยเกษียณ มาออกกำลังกาย เกิดอาการหน้ามืด หัวทิ่มจมอ่างเก็บน้ำประปา จ.นครปฐม เสียชีวิต ด้าน ผู้เห็นเหตุการณ์เผยนาทีสลด
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 24 ต.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุมีคนตกลงไปในน้ำ บริเวณอ่างเก็บน้ำประปา เขตเทศบาลนครนครปฐม ที่บริเวณหน้าเครื่องสูบน้ำแรงต่ำ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม และหน่วยประดาน้ำจากมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
เมียช็อกร่ำไห้ ครูสอนฟุตบอล วัยเกษียณ มาออกกำลังกาย เกิดอาการหน้ามืด หัวทิ่มจมอ่างเก็บน้ำประปา จ.นครปฐม
ที่เกิดเหตุบริเวณอ่างน้ำประปา มีขนาดกว้างโดยรอบวงกลม 1.3 กิโลเมตร หรือกว่า 90 ไร่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาศพโดยมีการจุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะลงทำการค้นหา นักประดาน้ำได้ลงไปยังจุดเกิดเหตุประมาณ 6 นาย ใช้เวลางมค้นหาประมาณ 10 นาทีจึงพบร่างผู้เสียชีวิตชื่อ นายเรืองเดช (ขอสงวนนามสกุล) หรือ อาจารย์บิลลี่ ซึ่งเป็นครูเกษียณอายุราชการ ปัจจุบันผันตัวมาเป็นครูสอนฟุตบอลฟรีให้กับเด็ก ๆ สภาพศพสวมใส่เสื้อสีเหลือง กางเกงขายาวสีแดง ไม่พบบาดแผลและร่องรอยจากการถูกทำร้าย
จากการสอบถาม ส.ต.อ.วุฒิชัย ทรงทอง อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้มาวิ่งออกกำลังกายยามเช้ากับแฟน ซึ่งตนเห็นว่ามีหญิงกับชายคู่หนึ่งนั่งอยู่ที่บริเวณขอบสะพาน จังหวะที่มองมามีป้ายบังอยู่พอดีแต่ได้ยินเสียงดังตู้ม คล้ายกับมีคนตกลงไป จึงหันไปบอกแฟนว่าใช่คนตกน้ำหรือเปล่า เห็นหรือเปล่า
ส.ต.อ.วุฒิชัย กล่าวต่อว่า แต่เมื่อมองไปแล้วปรากฏว่า เห็นหมวกไหมพรมและหน้ากากอนามัยลอยแล้ว จึงคิดว่าต้องใช่แน่ ๆ ตนจึงได้กระโดดลงไปช่วยทันที ประกอบกับจังหวะนั้นมีพี่อีกคนหนึ่งลงไปช่วยเช่นกัน และคลำพบร่างแต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้
ด้าน นายวิษณุ ภาคีมุข อายุ 47 ปี คนขับแท็กซี่ กล่าวว่า ขณะนั้นตนกำลังเดินออกกำลังกายอยู่บนขอบทาง ปรากฏว่าเห็นมีคนตกลงไปในน้ำซึ่งในขณะที่เห็นห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร จึงได้วิ่งมาแล้วกระโดดลงเข้าช่วยทันที ตอนที่ลงไปงมสัมผัสได้ว่า น้ำมีความลึกมากมากกว่า 2 เมตร แต่ทางสโลปลงไปมาก เท้าของตนสามารถแตะร่างผู้เสียชีวิตได้แล้ว เจอตัวแล้วแต่อยู่ที่ก้นบ่อ แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า เนื่องจากหากนำขึ้นมาต้องใช้เวลา ประกอบกับไม่มีอุปกรณ์ในการช่วยเหลือ ไม่มีเชือกดึงที่จะสามารถคล้องตัวแล้วนำร่างขึ้นมาได้ จะเห็นได้ว่าเหลือเพียงหมวกไหมพรมและหน้ากากอนามัยที่ลอยอยู่บริเวณผิวน้ำ นั่นคือของผู้ตาย เพราะปกติแล้วในจุดที่ตกลงไปในน้ำนั้นจะมีป้า และลุงที่คอยยืนอยู่ เนื่องจากจะเดินมายืดเหยียดร่างกาย คาดว่าอาจจะเป็นลมหน้ามืดแล้วตกหัวทิ่มลงไป
ขณะเดียวกัน นางจันทร์ดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ภรรยาของผู้ตาย ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมกล่าวว่า ปกติทุกเช้าจะชวนมาเดินออกกำลังกายด้วยกันทุกวัน แต่วันนี้ตนได้บอกกับสามีว่าขอกลับไปทำกับข้าวที่บ้านก่อน แต่สายแล้วก็ยังไม่กลับบ้าน เมื่อได้ข่าวว่ามีคนตกน้ำจึงเดินกลับมาดู และรอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่นำศพขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสามีของตัวเอง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นลมหน้ามืด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำประปานคร ปกติแล้วในทุก ๆ วันทั้งเช้าและเย็นจะมีชาวบ้าน มาเดินออกกำลังกายยามเช้าของทุกวัน ซึ่งจะมีระยะทางวิ่งโดยรอบประมาณ 1.3 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเนื้อที่กว่า 90 ไร่โดยรอบ
โดยบริเวณหน้าจุดเกิดเหตุที่มีคนตกลงไปในน้ำนั้นอยู่ด้านหน้าบริเวณโรงสูบน้ำแรงดันแรงต่ำพอดี โดยด้านหน้าจะมีป้ายติดไว้ว่า เป็นเขตอันตรายห้ามเข้า เนื่องจากโรงสูบน้ำแห่งนี้คือที่ผลิตน้ำประปานาสร้าง เมื่อสูบน้ำขึ้นมาแล้วจะส่งต่อไปยังโรงกรองน้ำเพื่อแจกจ่ายเป็นน้ำกินน้ำใช้ส่งต่อไปยังบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลนครปฐม
