เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 27 มี.ค.ที่วัดมหาบุศย์ (แม่นาคพระโขนง) มีบรรดาญาติและเพื่อนสนิทมาร่วมพิธีรดน้ำศพ ของนางสาวนพราวพิลาศ พละดร อายุ 30 ปี หรือ น้องมีนนี่ ผู้เสียชีวิตถูกหมกศพไว้ในโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท 39 ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทางครอบครัวโดยเฉพาะแม่และพี่สาวผู้เสียชีวิตยังคงร่ำไห้ตลอดเวลา และไม่สะดวกให้ข้อมูลใด ๆ กับสื่อมวลชนอีก โดยจะมีกำหนดพิธีสวดอภิธรรมศพเป็นเวลา 2 คืน ระหว่างวันที่ 27-28 มี.ค.68 และมีกำหนดฌาปนกิจศพในวันที่ 29 มี.ค.นี้
นางสาวหลิง อายุ 30 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิตและเป็นผู้ที่เข้าไปพบศพ เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า ตนมีโอกาสคุยกับผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้าย เมื่อเวลาประมาณสี่ทุ่ม ของวันที่ 23 มี.ค. หลังจากที่ผู้เสียชีวิตลงไอจีสตอรี่รูปนาฬิกาปาเต๊ะ ซึ่งเป็นนาฬิกาที่แฟนหนุ่มที่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุซื้อให้ในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันเกิดของเธอ โดยตนเองได้ตอบกลับสตอรี่บอกผู้เสียชีวิตว่า นาฬิกาสวย และพูดคุยเกี่ยวกับสารทุกข์สุกดิบทั่วไป แต่ตนไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดประเด็นนี้ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนกระทั่งตนเริ่มเอะใจ เนื่องจากตนมีนัดแนะกับผู้เสียชีวิตในวันที่ 28 มี.ค. เพื่อจัดงานเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังให้กับผู้เสียชีวิต
ตนจึงตัดสินใจไปดูที่คอนโดพร้อมนิติบุคคล เพราะรู้สึกสังหรณ์ใจ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ กลัวเพื่อนจะได้รับอันตราย โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อตนเข้าไปถึงที่ห้อง ก็พบว่าประตูไม่ได้ล็อกแอร์ภายในห้องเปิดอยู่ และพบร่างของผู้เสียชีวิตคลุมผ้าเอาไว้อยู่ภายในห้องน้ำ ตนเลยพยายามเปิดช่วงบน ก็พบว่าเพื่อนของตนที่เสียชีวิตแล้ว โดยที่บริเวณใบหน้ามีผ้าคลุมที่เต็มไปด้วยเลือด ซึ่งตนก็ไม่กล้าเปิดผ้า เพราะทำใจไม่ได้
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายและแฟนหนุ่มผู้ต้องสงสัย ทั้งคู่คบหามาได้ประมาณ 3 ปี ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ตายก็เคยมาเล่าปัญหาปรึกษาชีวิตรักให้ตนฟังบ่อยครั้ง เนื่องจากมักจะถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง หนักสุดถึงขนาดบีบคอจนสลบ สาเหตุที่ทำร้ายร่างกายมักจะเกิดจากเรื่องที่ฝ่ายชายไปมีผู้หญิงคนอื่นบ่อยครั้งและเรื่องทั่ว ๆ ไป ซึ่งคุณหลินบอกอีกว่า ตนยังเคยเจอฝ่ายชายควงแขนหญิงสาวรายอื่น โดยตนก็เคยตักเตือนผู้ตายบ่อยครั้งว่าให้เลิกรากับผู้ชายคนนี้ แต่ตนก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไรฝ่ายหญิงถึงยังทนคบกับแฟนหนุ่มคนนี้ ตนจึงได้แนะนำเพียงแค่ว่า หากถูกทำร้ายร่างกายอีกให้แกล้งสลบ จะได้ไม่ต้องเจ็บหนักมาก
ทั้งนี้ ผู้ตายเคยเลิกกับแฟนหนุ่มคนนี้มาแล้วเมื่อปีที่แล้ว และไปแจ้งความเนื่องจากเคยถูกแฟนหนุ่มปาโซฟาใส่ แต่สุดท้ายฝ่ายชายก็ตามมาง้อแล้วก็กลับมาคบกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่เคยพบพฤติกรรมรุนแรงของฝ่ายชายต่อหน้าต่อตา เพราะเวลาฝ่ายชายอยู่กับเพื่อน เขาก็ดูมีนิสัยที่ดีและรักเพื่อนตนมาก แต่เท่าที่ทราบจากผู้เสียชีวิตเอง บอกว่าฝ่ายชายมักมีอาการเหมือนคน 2 อารมณ์ กล่าวคือ เวลารักกันก็รักกันดีมาก แต่เวลาอารมณ์แรงก็ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย รวมทั้งชอบหึงหวงผู้ตาย ถึงขนาดให้ผู้ตายไล่อันฟอล IG ผู้ชายคนอื่นทิ้งทั้งหมด
อีกทั้งตนทราบมาว่า ฝ่ายชายมีประวัติทานยารักษาเกี่ยวกับอาการจิตเวชด้วย แต่เหมือนว่าระยะหลัง ๆ ได้หยุดยาไป ตนไม่ทราบว่าฝ่ายชายเคยมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดหรือไม่ ทราบเพียงแค่ว่าฝ่ายชายเคยเปิดร้านกัญชาอยู่ใกล้ ๆ คอนโดที่เกิดเหตุ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเชื่อแน่นอนว่าผู้ก่อเหตุคือแฟนหนุ่มคนนี้ ตนจึงอยากฝากความหวังให้ทางตำรวจช่วยให้ความเป็นธรรมให้กับเพื่อนของตนด้วยการจับแฟนหนุ่มคนนี้มาดำเนินคดีและอยากฝากถึงแฟนหนุ่มคนนี้ว่า ให้มารับผิดชอบรับกรรมในสิ่งที่ทำเอาไว้ด้วย