โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

"5 ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม" ที่โปรยเสน่ห์ได้ในทุกโอกาส

Beauty Hunter

อัพเดต 09 ส.ค. 2561 เวลา 08.20 น. • เผยแพร่ 09 ส.ค. 2561 เวลา 08.20 น.
“5 ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม” ที่โปรยเสน่ห์ได้ในทุกโอกาส

ข้อดีของหน้าฝนก็คือความเย็นฉ่ำใจ แถมให้บรรยากาศสุดโรแมนติกโดยเฉพาะถ้าเราได้กุมมือกับใครสักคนมองสายฝน ที่สำคัญถ้าได้ซุกตัวอยู่ในผ้าห้มบนเตียงในวันฝนโปรยนี่มันช่างฟินจนไม่มีอะไรมาแทนได้ แต่อย่าหาว่าเจ้ดับฝันเลยนะคะซิส เพราะสิ่งที่มากับสายฝนแล้วทำร้ายทำลายความมั่นใจสาว ๆ อย่างเราขั้นสุดก็คือ “กลิ่นอับ” นั่นเอง

นอกจากการรักษาความสะอาดเป็นพิเศษแล้ว “น้ำหอม”ก็เป็นอีกตัวช่วยสำคัญของสาว ๆ อย่างเราเลยทีเดียว แต่ถ้าเรายังไม่เข้าใจเรื่องระดับความเข้มข้น ก็อาจทำให้เลือกน้ำหอมมาใช้ผิดประเภทได้ เพื่อไม่ให้พลาดอีก วันนี้เรามารู้จักความเข้มข้นของน้ำหอมทั้ง 5 ระดับไปพร้อม ๆ กันดีกว่าค่ะ

Parfum : ความเข้มข้น 20-30%

Perfume ไม่ได้แปลว่าน้ำหอมรวม ๆ อย่างที่เราเข้าใจเท่านั้นนะคะซิส เพราะมันมีระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเข้ามาข้องเกี่ยวด้วยค่ะ โดยน้ำหอมที่มีความเข้มข้นราว ๆ 20-30% ก็จะมีชื่อชิค ๆ ติดบนฉลากข้างขวดว่า Parfum หรือ Perfume ซึ่งถ้าซิสได้ขวดนี้มาครองก็บอกเลยว่าหอมทน หอมนาน หอมยาว 8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำแน่ ๆ ดังนั้นวันไหนที่ต้องเผชิญศึกหนักไม่ว่าจะการเรียน การเดินทาง หรือการงาน แล้วไม่มีเวลาเติมกลิ่นหอมระหว่างวันอีกแล้ว ก็เลือกใช้ความเข้มข้นระดับนี้ได้เลยค่ะ แต่ข้อเสียก็คือหาซื้อค่อนข้างยากและราคาค่อนสูง

Eau De Parfum (EDP) : ความเข้มข้น 15-20%

ความเข้มข้นระดับที่รองลงมาก็คือเจ้า Eau de Parfum นี่แหละค่ะซิส ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมอยู่ที่ประมาณ 15-20% ซิสฉีดพรมบนร่างกายแล้วจะอยู่ได้ราว ๆ 6 ชั่วโมง ก็ถือว่าไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป เหมาะกับวันเบา ๆ ไม่ยาวนานมาก 6 ชั่วโมงแรกกลิ่นจะชัดเจนหน่อย แต่หลังจากนั้นไปแล้วก็จะหอมอ่อน ๆ โปรยเสน่ห์ไปได้อีกระยะค่ะ

Eau de Toilette (EDT) : ความเข้มข้น 5-15%

ถ้าจะพูดถึงน้ำหอมที่ซิสเห็นทั่ว ๆ ไปตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านเครื่องสำอางในไทยก็คือ เจ้า Eau de Toilette นี่แหละค่ะ เป็นความเข้มข้นระดับกลาง ๆ ไม่ฉุนเกิน กลิ่นชัด มีกลิ่นให้เลือกหลากหลายกลิ่น หลากหลายแบรนด์ แถมราคาดีต่อเงินในกระเป๋าสาว ๆ อย่างเรา ความเข้มข้นอยู่ที่ 5-15% ฉีดแล้วจะติดตัวซิสไปได้ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งก็เป็นระยะเวลาที่กำลังดีสำหรับเช้าวันที่ต้องการความมั่นใจอย่างการไปประชุมงาน ไปสัมภาษณ์งาน จากนั้นกลิ่นก็จะค่อย ๆ จางลง ๆ ผสมกลิ่นเหงื่อให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ยวนใจเบา ๆ

Eau de Cologne (EDC) : ความเข้มข้น 2-4%

Eau de Cologne มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมน้อยเหลือเกินค่ะซิส เพราะมีความเข้มข้นอยู่ที่ 2-4% เท่านั้น โดยเจ้า Eau de Cologne ให้กลิ่นหอมอ๊อนอ่อน บ๊างบาง และติดตัวเราได้เพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะเหมาะกับช่วงหน้าหนาวที่เหงื่อไม่ออกหรือวันที่นั่งอยู่ในห้องแอร์ แต่ถ้าเป็นวันฝนพรำ แล้วสาว ๆ อย่างเราต้องปลุกปล้ำกับกลิ่นอับจากความชื้นก็อาจจะยังไม่เหมาะเท่าไหร่ หรือไม่ซิสก็อาจต้องพก Eau de Cologne ไว้และฉีดซ้ำใหม่ทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อความคงทนของกลิ่นค่ะ

Eau Fraiche : ความเข้มข้น 1-3%

น้ำหอมที่มีความเข้มข้นต่ำเตี่ยเรี่ยหญ้าก็คือ Eau Fraiche นี่แหละค่ะซิส ถ้าซิสชอบความหอมคงทนระดับหลายชั่วโมงก็ขอให้มองข้ามเจ้า Eau Fraiche ไปได้เลย ด้วยความเข้มข้นเพียง 1-3% เท่านั้น ทำให้กลินหอมจะฟุ้ง ๆ อยู่รอบตัวเราแค่เพียงชั่วโมงเดียวเท่านั้น (นั่งรถเมล์ก็ยังไม่ถึงที่หมายเลยค่ะคุณขา) แต่ถ้าไม่ชอบให้กลิ่นหอมติดตัวนาน ชอบแค่ความหอมสดชื่นชั่วครั้งชั่วคราว Eau Fraiche ก็อาจจะเหมาะกับซิสก็เป็นได้นะคะ

ผู้หญิงที่เลือกใช้ของด้วยข้อมูลและความรู้ความเข้าใจนี่เจ้ว่าชิคไม่หยอกเลยนะคะ โดยเฉพาะน้ำหอมที่ซื้อทีก็ใช้ได้เป็นปี เจ้ก็อยากให้สาว ๆ เลือกใช้ได้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ยิ่งหน้าฝนที่มาของความชื้นและกลิ่นอับแล้วด้วย ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0