โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘ดวงจันทร์’ ถูกคุกคามจากท่องเที่ยวและสำรวจอวกาศ ขึ้นเป็นมรดกโลกเสี่ยงอันตราย

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 21 ม.ค. เวลา 21.55 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. เวลา 04.55 น.

กองทุนเพื่ออนุสรณ์สถานโลก หรือ WMF (World Monuments Fund) ประกาศรายชื่อแหล่งโบราณคดีใหม่ 25 แห่ง ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังว่าจะได้รับความเสียหาย ในโครงการ World Monuments Watch ประจำปี 2025 โดยแหล่งโบราณคดีเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่ในโลกเท่านั้น เพราะ “ดวงจันทร์” ของโลกก็ได้รับการคัดเลือกในปีนี้เช่นกัน

พื้นผิวดวงจันทร์เป็นที่ตั้งของโบราณวัตถุจำนวนมากจากการสำรวจดวงจันทร์ของมนุษย์ เช่น ฐานของยานอพอลโล 11 ที่ลงจอดบนดวงจันทร์ และรอยเท้านอกโลกรอยแรกของมนุษย์ที่ฝากไว้ตั้งแต่ปี 1969 แต่ด้วยการแข่งขันทางอวกาศในปัจจุบันที่กลับมาดุเดือดจะทำให้ขยะอวกาศเพิ่มมากขึ้น อีกคนร่ำรวยที่เดินทางไปอวกาศเพิ่มมากขึ้นและรัฐบาลจำนวนมากขึ้นที่มุ่งหวังให้มนุษย์เดินทางสู่อวกาศ อาจทำให้วัตถุที่มนุษย์ทิ้งไว้เป็นมรดกบนดวงจันทร์ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะฐานทัพทรานควิลลิตี้ จุดลงจอดของยานอพอลโล 11 ที่นีล อาร์มสตรอง นักบินอวกาศเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก

แหล่งโบราณคดีทั้ง 25 แห่งที่ได้รับคัดเลือกในปีนี้ครอบคลุม 29 ประเทศใน 5 ทวีป (และ 1 ดวงจันทร์) เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์จากความท้าทายต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การท่องเที่ยว ความขัดแย้ง และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ได้แก่ ฉนวนกาซา อาคารประวัติศาสตร์ที่ได้รับความเสียหายในกรุงเคียฟ และแนวชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะในเคนยาและสหรัฐ

WMF ให้เหตุผลในการนำดวงจันทร์เข้าเป็นแหล่งอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ เพื่อเชิญชวนให้สาธารณชนได้พูดคุยกันในวงกว้าง เกี่ยวกับความหมายของการสำรวจอวกาศยุคใหม่ว่ามีความหมายต่อวัฒนธรรมและภูมิทัศน์ธรรมชาติของดวงจันทร์อย่างไร อีกทั้งถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนข้อตกลงระหว่างประเทศและการคุ้มครองแหล่งมรดกบนดวงจันทร์

“เป็นครั้งแรกที่ดวงจันทร์ถูกรวมอยู่ในรายชื่อแหล่งอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ เพื่อสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการรับรู้และรักษาโบราณวัตถุที่เป็นเครื่องยืนยันถึงก้าวแรกของมนุษย์ในการเดินทางออกไปนอกโลก นับเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ร่วมกันของเรา” เบเนดิกต์ เดอ มงต์ลอร์ ประธานและซีอีโอของ World Monuments Fund กล่าว

วัตถุต่าง ๆ เช่น กล้องโทรทรรศน์ที่ถ่ายทอดรอยเท้าของอาร์มสตรองและบัซซ์ อัลดริน มนุษย์สองคนแรกที่เหยียบบนดวงจันทร์ แผ่นบันทึกความทรงจำที่นักบินอวกาศของยานอพอลโล 11 ทิ้งไว้บนโลก และสิ่งอื่น ๆ อีกหลายร้อยชิ้นเป็นสัญลักษณ์ของมรดกนี้ กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการสำรวจต่าง ๆ ของนานาประเทศที่เกิดขึ้นบนดวงจันทร์บ่อยขึ้น โดยไม่มีมาตรการอนุรักษ์ที่เหมาะสม

“การรวมดวงจันทร์เข้ามาด้วยนั้นเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้กลยุทธ์เชิงรุกและความร่วมมือระดับสากล เพื่อปกป้องมรดกที่สะท้อนและดำรงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ร่วมกันของเรา ไม่ว่าจะบนโลกหรือนอกโลกก็ตาม” เดอ มงต์ลอร์กล่าวในแถลงการณ์

รอยเท้านีล อาร์มสตรองบนดวงจันทร์
เครดิตภาพ: นาซา

มรดกบนดวงจันทร์

เบธ โอเลียรี ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวเม็กซิโกกล่าวว่า “เรามีมรดกทางดวงจันทร์ที่น่าทึ่งและกำลังมีมากขึ้นเรื่อย ๆ มรดกเหล่านี้เป็นของมนุษยชาติทั้งหมด ตั้งแต่ยานอวกาศหุ่นยนต์ลำแรก ลูน่า 2 ที่ส่งไปโดยอดีตสหภาพโซเวียตในปี 1959 ไปจนถึงการเดินบนดวงจันทร์ครั้งแรกของนักบินอวกาศชาวอเมริกัน 2 คน ณ ฐานทัพทรานควิลิตี้ในปี 1969 รวมไปถึงการเดินทางสำรวจบริเวณขั้วโลกใต้ของดวงจันทร์โดยหลายประเทศเมื่อไม่นานนี้”

โอเลียรียกย่องว่าการลงเดินบนดวงจันทร์ของโครงการอพอลโล เทียบเท่ากับการย้ายถิ่นฐานของบรรพบุรุษของมนุษย์ออกจากแอฟริกาเมื่อกว่า 300,000 ปีก่อน

“เป็นเวลากว่า 20,000 วันแล้วที่มนุษย์สองคนเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก ในช่วงเวลากว่า 55 ปี มนุษย์ได้ประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการสำรวจและใช้งานอวกาศ” โอเลียรีชี้ให้เห็น

คณะกรรมการวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศว่าด้วยมรดกอวกาศของสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ หรือ อิโคโมส (ICOMOS) กลุ่มที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์อนุสรณ์สถานและสถานที่ต่าง ๆ ของโลก เป็นผู้เเสนอชื่อดวงจันทร์ให้เป็นอนุสรณ์สถานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

ในฐานะที่โอเลียรีเป็นสมาชิกของ ICOMOS เธอกล่าวว่า “ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่กองทุนอนุสรณ์สถานโลกได้เลือกดวงจันทร์ ซึ่งเสนอชื่อโดยพวกเราเข้าโครงการ ฉันมองว่าการดำเนินการนี้เป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนการอนุรักษ์ที่ต้องใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศ”

โอเลียรีกล่าวว่า นานาประเทศสามารถร่วมกันอนุรักษ์ดวงจันทร์ร่วมกันได้ โดยใช้รูปแบบเดียวกับ “ระบบสนธิสัญญาแอนตาร์กติก” ที่ทุกประเทศตกลงกันว่าจะไม่ครอบครองทวีปแอนตาร์กติกา และใช้ในการรอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ห้ามกิจกรรมทางทหารบนทวีป

“ทรัพยากรทางวัฒนธรรมบนดวงจันทร์ได้รับการอนุรักษ์ไว้ด้วยความห่างไกล แต่ก็เสี่ยงต่อความเสียหายและการทำลายล้างจากกิจกรรมทางอวกาศที่เพิ่มขึ้น ทั้งในระดับประเทศและเชิงพาณิชย์” โอเลียรีกล่าวเสริม เธอกล่าวว่าโครงการ World monument Watch เรียกร้องให้มีการร่วมมือระดับโลกเพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ของดวงจันทร์

ขณะที่ เดอ มงต์ลอร์กล่าวว่า “ไม่มีใครเป็นดวงจันทร์ และดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและอนาคต”

โดยทั่วไปแล้วการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมนั้นกำหนดโดยแต่ละประเทศ ซึ่งทำให้ภารกิจในการดูแลสถานที่สำคัญระดับนานาชาติ เช่น ดวงจันทร์ ยากขึ้น ตั้งแต่ปี 2020 สหรัฐและอีก 51 ประเทศได้ลงนามใน “ข้อตกลงอาร์เทมิส” เป็นการระบุบรรทัดฐานที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอวกาศ กฎดังกล่าวรวมถึงการเรียกร้องให้อนุรักษ์มรดกทางอวกาศ รวมถึงจุดลงจอดด้วยหุ่นยนต์ สิ่งประดิษฐ์ ยานอวกาศ และหลักฐานอื่น ๆ ที่บ่งชี้ถึงกิจกรรมบนวัตถุท้องฟ้า ส่วนสหประชาชาติร่างข้อตกลงผูกพันของแยกต่างหาก กำหนดให้มีการคุ้มครองสถานที่บนดวงจันทร์ แต่แทบไม่มีความคืบหน้าในการขอให้ประเทศสำคัญ ๆ ลงนามในข้อตกลงดังกล่าว

ที่มา: ABC, Space, The New York Times

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0