สรุป 6 ธีมเทคโนโลยีสำคัญในงาน CES 2023 เมื่อมนุษย์จะกลายเป็นสิ่ง ‘nice to have’ แต่เทคโนโลยีจะเป็นคำตอบ
เป็นประจำทุกต้นปีกับ CES งานเทคโนโลยีระดับโลกที่จัดขึ้นที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ที่จะมีการเผยเทรนด์เทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงอุปกรณ์ล้ำๆ ที่ได้เผยโฉมครั้งแรกที่งานนี้ ซึ่ง Techsauce ได้เข้าร่วมงานฟัง Session : Tech Trend to Watch 2023 โดย Steve Koenig VP Research ของ Consumer Technology Association (CTA) ที่มานำเสนอ 6 เรื่องสำคัญด้านเทคโนโลยีได้แก่ Enterprise Technology Innovation, Metaverse / Web 3.0, Transportation / Mobility, Health Technology, Sustainability, Gaming and Services โดยมีรายละเอียดดังนี้
Enterprise Technology Innovation
Enterprise Technology Innovation มีการจัดแสดงอยู่ในงาน CES จำนวนมาก ซึ่ง Enterprise Technology เหล่านี้ จะเปลี่ยนสู่เทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งไม่ได้มาจากบริษัทใหญ่เท่านั้น แต่รวมถึง Startup โดยในขณะนี้โลกกำลังเผชิญความท้าทายหลายอย่างทั้ง ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ความต้องการด้าน Semiconductor ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ทุกอุตสาหกรรมประสบปัญหา ภาวะเงินเฟ้อจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2022 ซึ่ง Koenig ให้ความเห็นว่า สุดท้ายแล้วเทคโนโลยีจะเป็นคำตอบเรื่องการขาดแคลนแรงงาน และอุตสาหกรรมถึงเวลาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี Enterprise 4 อย่างคือ 5G , Connected Intelligence , Autonomous Systems , Quantum Computing โดยเขาคิดว่าเครือข่าย 5G เป็นรากฐานในการเปิดใช้งานนวัตกรรมในวงกว้างมากขึ้น โรงงานอัจฉริยะมีประสิทธิผลมากขึ้น และนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ยั่งยืน
Metaverse
Metaverse เปรียบเหมือน Internet ในยุคก่อนที่เราไม่รู้ว่าคืออะไรในเวลานั้น ซึ่งในอนาคต Metaverse จะกลายเป็นประสบการณ์ใหม่ให้กับโลก และเป็น Generation ถัดไปของ Intertenr ที่ Koenig นิยามว่า The Metaverse of Thing [MoT] โดยใน CES มี 2 ตัวอย่างสำคัญ ได้แก่
- Virtualization ไม่ว่าจะเป็น Virtual Spaces , Digital Twin ยกตัวอย่าง Touchcast ของ Microsoft
- Immersion ไม่ว่าจะเป็น Virtual Scenarios , Full Immersion ยกตัวอย่าง OVR Technology
โดย Metaverse Strategies สำหรับธุรกิจ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Consumer และ Enterprise
Transportation Themes
เรื่องของการขนส่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของงาน CES โดยหลังจากนี้เราจะได้เห็นความก้าวหน้าของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ การเปลี่ยนแปลงของประสบการณ์ในรถยนต์ และวิวัฒนาการของระบบนิเวศพลังงานไฟฟ้า ภายในรถยนต์อนาคต จะมีการปรับเปลี่ยนมากมาย จอต่างๆจะถูกนำมาใช้ในการควบคุมมากขึ้น และเราจะสามารถควบคุมด้วยเสียง และใช้ฟีเจอร์ในรูปแบบบริการ (FaaS) บนรถยนต์ได้ รวมถึงความบันเทิงอื่นๆ ที่จะมีเข้ามามากขึ้น
Health Technology
ในบริการด้านสุขภาพ Koenig มองเห็นขอบเขตใหม่ของนวัตกรรม ได้แก่
- On-Demand Network : การพบแพทย์ได้ตลอดเวลา หรือซื้อยาผ่านออนไลน์ พร้อมยังยกตัวอย่างเทคโนโลยี Essence Group Care @ Home
- Mental Wellness : นอกจากเทคโนโลยีที่เปิดใช้งาน telehealth แล้ว เขายังสนับสนุนการบำบัดแบบดิจิทัล ซึ่งเป็นวิธีการใหม่ในการจัดการโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความเครียดและความวิตกกังวล
- Virtual Reality : Fintess แบบ VR นอกจากนี้ยังยกตัวอย่าง SK Zero Glasses เทคโนโลยีด้านสุขภาพดิจิทัลที่ เห็นในงานมาจาก SK Biopharmaceuticals ของเกาหลี ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัล CES 2023 Innovation Awards เป็นสวมใส่เพื่อตรวจจับอาการชักสำหรับโรคลมบ้าหมู
Sustainability and ESG
Sustainability เป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงในทุกที่ ซึ่งในงานครั้งนี้ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ว่าจะเป็น Water Purification , Clean Power Tech , Battery Tech Innovations
นอกจากนี้เขายังได้เผยถึงการทำฟาร์มแห่งอนาคต ซึ่งรวมถึงไซโลอัจฉริยะ โดรนและเซ็นเซอร์ตรวจดิน หุ่นยนต์ทำฟาร์ม เกษตรกรที่เชื่อมต่อถึงกัน และการเชื่อมต่อ 5G ผ่านดาวเทียม นวัตกรรมด้านการเกษตรที่สำคัญอย่างหนึ่งคือรถแทรกเตอร์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของจอห์น เดียร์ที่เราเขียนถึงในงาน CES ครั้งล่าสุด รถแทรกเตอร์คันนั้นเป็นผู้ชนะรางวัล CES Innovation Award สาขาวิทยาการหุ่นยนต์ในปีนี้
Gaming and Services
ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกา มี Gamer จำนวนกว่า 164 ล้านคน โดยมีอายุตั้งแต่ 13-64 ปี แบ่งเป็น 45% บน Mobile 18% บน PC และ 37% บน Console การเล่นเกม เข้ามากินเวลาของนักเล่นเกมมากกว่าเดิม โดยเกมนั้นมีไว้เพื่อความบันเทิง และการแข่งขัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีไว้เพื่อเข้าสังคมด้วย