Business Today Thai Politics 24 กันยายน 2567
“แพทองธาร” รับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ปรับขึ้นไม่ทัน 1 ตุลาคมนี้
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นเป็น 400 บาท เกิดการสะดุดและขับเคลื่อนต่อไปไม่ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกิดการสะดุดแต่ว่าในตอนนี้ นโยบายดังกล่าวจะมีการนำเข้าที่ประชุมอีกครั้ง โดยผู้สื่อข่าวได้ถามต่อไปว่านโยบายดังกล่าวจะสามารถทำได้ภายในปีนี้อย่างแน่นอนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ควรจะเป็นอย่างนั้น
“แพทองธาร” เผย ครม.งดเก็บค่าไฟ-ค่าน้ำ เดือน ก.ย.ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ในเรื่องของมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับค่าไฟฟ้าในเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม 2567
โดยที่เดือนกันยายน จะไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้า และในเดือนตุลาคมจะให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม. ยังได้อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เรื่องของมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาลระยะที่ 2 และระยะที่ 3 และการพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ ธกส. เพื่อให้เกษตรกรผู้เข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 ระยะที่ 3 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า จากการเปิดรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร จึงได้สั่งการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะอนุกรรมการ คอส. และ ศปช. ดำเนินการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ เพื่อใช้สำหรับการรายงานตัวของอาสาสมัคร เพื่อแบ่งหน้าที่ และความรับผิดชอบ และใช้ในการรายงานเหตุการณ์ฉุกเฉิน
ซึ่งได้รับคำแนะนำมาว่า การรายงานตัวของอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน มีการรายงานซ้ำซ้อน ทำให้เสียเวลา และเตรียมจะใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวในการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ให้เกิดการบูรณาการกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในส่วนของภาครัฐ ภาคประชาชน รวมถึงเร่งรัดให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย หรือ ปภ. เร่งดำเนินการใช้ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน หรือ Cell Broadcast Service เพื่อให้การเตือนภัยให้ประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
‘นายกฯ’ ผวาดาบ ‘ศาลรธน.’ ปมจริยธรรม สั่งตรวจสอบเข้มข้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองที่จะเห็นได้ว่า 2 สัปดาห์แล้ว ที่ไม่สามารถนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ได้
โดยนายกฯสั่งการว่าสืบเนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องกับมาตรฐานจริยธรรม รวมทั้งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ.2545 ระบุคุณสมบัติของข้าราชการการเมืองไว้ จึงต้องมีการตรวจสอบที่ใช้เวลานานขึ้น เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ให้ความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 14 หน่วยงาน เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ป.ป.ช.) เป็นต้น ซึ่งนายกฯกล่าวในครม.ว่า การแต่งตั้งในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องใช้เวลานานขึ้น และในโอกาสต่อไปจะขอให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ได้ตรวจสอบคุณสมบัติก่อนจะส่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(สลน.)
“ในที่ประชุมครม. มีรัฐมนตรีหลายท่านสอบถาม ว่า จะต้องทำแบบไหนอย่างไร ซึ่งในอดีตก็จะส่งแค่รายชื่อ และเอกสารการศึกษาต่างๆมายัง ครม.เพื่อกลั่นกรอง แต่คราวนี้อยากให้ต้นสังกัดได้นำไปพิจารณาอย่างถี่ถ้วนตามที่นายกฯสั่งการ”
“บิ๊กป้อม” นำธงค้านแก้รธน. ม.112 ลั่นไม่ลดมาตรฐานจริยธรรม
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)หัวข้อพรรคพลังประชารัฐตรวจสอบนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา
จากนั้นพล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงผลประชุมพรรค ว่า ที่ประชุมได้มีการ ตั้งศูนย์นโยบายและวิชาการพรรคพลังประชารัฐ มีหน้าที่สนับสนุนและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ก้าวสู่การเป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคงและมีบทบาทในการขับเคลื่อนประเทศและการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่เชื่อมโยงกับบุคคลภายนอกทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อตรวจสอบการทำงานการปฏิบัติงานของรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และศูนย์นี้จะเป็นเครื่องมือในการจัดทำข้อมูล เพื่อให้ทราบถึงปัญหาและความต้องการ และเชื่อมโยงกับประชาชนในพื้นที่เพื่อให้สส.ของพรรคพลังประชารัฐใกล้ชิดกับประชาชนได้มากขึ้น และที่สำคัญสามารถนำข้อมูลไปอภิปรายในสภาฯได้
โดยศูนย์นี้ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่สำคัญเช่น นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และบุคคลอื่นๆที่สำคัญ ของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงนอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการพูดคุยถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของพรรค เพื่อรองรับการรับสมัครสมาชิกพรรคแบบออนไลน์ ที่กำลังพัฒนาผ่านกฎและกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
มติ ‘ภูมิใจไทย’! ไม่เอาด้วย ‘แก้รัฐธรรมนูญ’ ปม ‘มาตรฐานจริยธรรม’
เมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 24 กันยายน 2567 ที่พรรคภูมิใจไทย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังประชุมสส.ประจำสัปดาห์ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
โดยต้องเดินหน้าสู่การทำประชามติ ขณะนี้กฎหมายประชามติได้ผ่านชั้นสส.เป็นที่เรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาของสว. คาดว่าอีกไม่นานจะมีการบังคับใช้ พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่ารัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องได้รับการยอมรับจากคนในสังคม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับผ่านสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือสสร. จะเป็นวิธีการที่ทำให้สังคมเกิดการยอมรับในกติกาการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม
“เราคิดว่าถ้าจะแก้รัฐธรรมนูญ ควรที่จะแก้ไขทั้งฉบับ โดยทางที่ดีที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญควรจะเป็นคนกลางจากทุกภาคส่วน ในรูปแบบของสสร.ที่เคยทำกันมา ยืนยันว่า หากแก้ไขรัฐธรรมนูญควรจะเดินไปสู่การแก้ไขมาตรา 256 และยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นการแก้ไขในหมวด1และหมวด 2 ที่ไม่ควรจะแตะต้อง”