ไฟป่าเชียงใหม่โหมหนัก ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 2 อำเภอ เหนือตอนบนวิกฤต ควันพิษคลุมเมือง คุณภาพอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีไฟป่าที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์เกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและการดำรงชีวิตของประชาชน ล่าสุดวันนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า รวม 5 ตำบล ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เชียงดาว และ อ.อมก๋อย
โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อการเฝ้าระวัง ป้องปราม และจับกุมผู้ลักลอบกระทำผิดตามกฎหมาย เป็นการประกาศภัยพิบัติเฉพาะเท่าที่จำเป็น รายพื้นที่หมู่ ตำบล อำเภอ และเพื่อการควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัด
พร้อมสั่งการเร่งให้ความช่วยเหลือจากสถานการณ์ไฟป่าที่ยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ ทำให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์เกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและการดำรงชีวิตของประชาชน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว
สำหรับพื้นที่อำเภออมก๋อยได้เกิดเหตุไฟป่าเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ซึ่งภัยดังกล่าวเป็นสาธารณภัย/ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและการดำรงชีวิตของประชาชน จึงประกาศให้พื้นที่หมู่ 10, 16 ตำบลยางเปียง หมู่ที่ 5 ตำบลแม่ตื่น และหมู่ที่ 2, 6 ตำบลม่อนจอง เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
ส่วนพื้นที่อำเภอเชียงดาว ได้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 โดยประกาศให้พื้นที่หมู่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16 ตำบลปิงโค้ง และหมู่ที่ 11 ตำบลเชียงดาว เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
โดยสั่งการให้ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด
ด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 สรุปสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่รับผิดชอบ (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน) ซึ่งพบว่าในวันที่ 24 มีนาคม 2568 คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้ง 4 จังหวัด พบพื้นที่ที่ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” ดังนี้ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย PM 2.5 = 71.2 มคก./ลบ.ม. ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ PM 2.5 = 60.3 มคก./ลบ.ม. ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ PM 2.5 = 62.1 มคก./ลบ.ม.
ขณะที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “มีผลกระทบต่อสุขภาพ” ในพื้นที่ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย PM 2.5 = 89.3 มคก./ลบ.ม. ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ PM 2.5 = 90.0 มคก./ลบ.ม. ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ PM 2.5 = 83.3 มคก./ลบ.ม. ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ PM 2.5 = 80.4 มคก./ลบ.ม. ต.หางดง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ PM 2.5 = 86.5 มคก./ลบ.ม.
ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน PM 2.5 = 110.2 มคก./ลบ.ม. ต.ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน PM 2.5 = 76.9 มคก./ลบ.ม. ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน PM 2.5 = 116.1 มคก./ลบ.ม. ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน PM 2.5 = 89.5 มคก./ลบ.ม. ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน PM 2.5 = 96.4 มคก./ลบ.ม.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ไฟป่าเชียงใหม่โหมหนัก ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 2 อำเภอ เหนือตอนบนวิกฤต
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net