ปี 2564 เป็นปีที่ประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ” เพราะมีผู้ที่อายุมากกว่า 60ปีขึ้นไปเกิน 20% แล้ว แต่อายุเป็นเพียงตัวเลข และการเกษียณสมัยนี้ถือว่าเป็นเพียงการไม่มีงานประจำทำแต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะอยู่เฉยๆ ต่อไปนะคะ “อาชีพที่สอง” หลังเกษียณน่าสนใจ ช่วยสร้างรายได้ เพิ่มเงินในกระเป๋าเหมาะสุดๆ กับใครที่เกษียณแล้ว แต่ยังไม่หมดไฟทำงานและยังทำให้มีความกระฉับกระเฉงมากขึ้นด้วย
อาชีพที่สามารถทำหลังจากเกษียณจากงานประจำ ขอแบ่งออกเป็นกลุ่ม 4กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้
1.ด้านการใช้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเขียน งานแปลล่าม การเป็นที่ปรึกษา หรือวิทยากรพิเศษ
“การเขียน” เป็นอาชีพที่หลายคนสามารถทำได้จากสิ่งที่เป็นความถนัดออกมากลั่นกรองเป็นหนังสือหรือการเขียนประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานจัดว่าเป็นอาชีพที่หลายคนสามารถทำกันได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเขียนหนังสือ เขียน Blog หรือเขียนรีวิวสินค้าต่างๆ เพราะเชื่ออยู่แล้วว่าทุกคนคงมีสิ่งที่ถนัดและสนใจแตกต่างกันไป ยิ่งบวกกับประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้ “อาชีพนักเขียน” เหมาะกับคนวัยเกษียณเป็นที่สุด
“หรือถ้าใครมีจินตนาการบรรเจิดก็ยังสามารถเขียนการ์ตูน หรือนิยายสนุกๆ โพสต์ขายในอินเทอร์เน็ตได้ด้วยอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถทางภาษา ก็เป็นอีกสิ่งที่เหมาะกับคนวัยเกษียณเช่นกัน เพราะเป็นงานที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความละเอียดรอบคอบสูง โดยมีให้เลือกทั้งการรับจ้างแปลงาน ที่สามารถทำที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องออกเดินทาง หรือใครชอบเที่ยว อยากออกไปพบปะผู้คนและได้ท่องเที่ยวไปด้วยก็อาจจะลองดูพวกงาน ‘ล่าม’ หรือ ‘ไกด์ท่องเที่ยว’ อีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจเปิดประสบการณ์ตัวเองเพิ่มเติม”
นอกจากนี้ การเป็น “อาจารย์” หรือ “วิทยากรพิเศษ” ต่างๆ เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ทางเลือกที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ยังจำเป็นต้องมีทั้งประสบการณ์และความน่าเชื่อถืออีกด้วยการเผยแพร่ความรู้ ประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าต่างๆ ให้คนรุ่นใหม่ถือได้ว่า เป็นคลังความรู้เคลื่อนที่ ที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิต ได้ถ่ายทอดสู่รุ่นลูกหลานต่อไป
2.ด้านการเป็นที่ปรึกษาต่อจากบริษัทเอกชนที่เคยทำงานหรืองาน part time
แม้อายุจะถึงวัยเกษียณแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องออกจากงานไปเลย เพราะมีบริษัทเอกชน หรือโรงงานหลายๆ แห่ง หันมาจ้างคนวัยเกษียณทำงานต่อกันเยอะมาก เพราะได้ทั้งประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน และไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกพนักงานใหม่มาทดแทนอีกด้วย ในแต่ละปีมีห้างร้านหลายแห่งประกาศจ้างงานผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อย ซึ่งหน้าที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องใช้แรงงานมาก อย่างเช่น แคชเชียร์ พนักงานประจำจุดบริการลูกค้า พนักงานขาย พนักงานครัว พนักงานเสิร์ฟ พนักงานบริการต่างๆ
“ซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างได้กำหนดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับอัตราค่าจ้างรายชั่วโมง (Part Time) ไม่ต่ำกว่า 45 บาท/ชั่วโมง เท่ากันทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยทำงานไม่เกิน 7 ชั่วโมง/วัน และไม่เกิน 6 วัน/สัปดาห์ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการทำงานหลังเกษียณได้และสามารถเลือกเวลาในการทำงานด้วยตัวเองอีกด้วย”
3.ด้านการเป็นเจ้าของกิจการต่างๆ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โฮมเสตย์ ตู้ยอดเหรียญหรือ ขายของออนไลน์
การเปิดร้านค้าขายของ ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ ก็เป็นอีกช่องทางสร้างรายได้ที่น่าสนใจสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีทำเลดีๆ เป็นของตัวเอง โดยอาจจะไม่ต้องเปิดร้านใหญ่โตมากมายก็ได้ แค่เป็นร้านเล็กๆ พอให้มีรายได้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแต่หากจะทำกิจการประเภทใด ควรคำนึงถึงความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจด้วย หากไม่มีความสามารถและความชำนาญที่เพียงพอ และการเปิดร้านขายของยังดีตรงที่ทำให้เราได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับลูกค้ามากหน้าหลายตา ช่วยให้ชีวิตไม่น่าเบื่อ ดีต่อสุขภาพกายสุขภาพใจอีกด้วย
“ใครที่ปกติชื่นชอบการเข้าครัว ทำอาหาร ทำขนม ให้ลูกหลานเป็นประจำอยู่แล้ว อาจจะลองนำเงินเก็บที่มีมาลงทุนทำอาหารขายก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ไม่แน่ถ้ารสชาติอร่อยมีแฟนเจ้าประจำ คงช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงวัยเกษียณได้ด้วย ยุคนี้ที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว การขายของออนไลน์จึงเป็นหนทางสร้างรายได้ที่คนสนใจอย่างมาก ด้วยความที่เริ่มต้นง่าย ใช้เงินลงทุนไม่มาก มีโอกาสทำรายได้สูง”
หากมีพื้นที่ในบ้าน มีห้องพักเหลือ ไม่ได้ใช้ประโยชน์ลองเอามาปล่อยเช่าสร้างรายได้ เป็นแนวบ้านพัก โฮมสเตย์ ก็เป็นแนวคิดที่ดียิ่งถ้าใครมีบ้านอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวด้วยแล้ว ก็จะมีลูกค้าแวะเวียนมาได้ตลอดค่ะนอกจากนี้ ตู้หยอดเหรียญตามจุดต่างๆ อาจแบ่งเงินบางส่วนมาลงทุนในธุรกิจตู้หยอดเหรียญเพราะไม่ต้องดูแลมาก ลงทุนทีเดียว รอรับผลตอบแทนต่อเนื่อง ธุรกิจตู้หยอดเหรียญสมัยนี้ก็มีให้เลือกลงทุนมากมาย เช่น ตู้กดน้ำ ตู้เติมเงินหรือตู้เติมลมยางรถ ถ้าคิดว่าทำเลของเราเหมาะกับการติดตั้งตู้ สามารถหาข้อมูลลงทุนเพิ่มเติมได้
4.ด้านการเป็นนักลงทุนอิสระ
ส่วนคนเกษียณที่มีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่งแล้วเพระได้เงินก้อนที่เกษียณจากงานประจำ อยากนำเงินที่มีไปต่อยอดให้เพิ่มพูน อาจเลือก “การลงทุน” มาเป็นตัวช่วย แต่สิ่งสำคัญของการลงทุนวัยเกษียณคือ ต้องไม่เลือกการลงทุนที่เสี่ยงเกินไป และเงินต้นไม่หาย อาจลงทุนใน “สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ” เช่น พันธบัตรรัฐบาล สลากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ หรือตราสารหนี้
“แต่ถ้ามีความรู้มีประสบการณ์ในการลงทุนและความเข้าใจเรื่องการลงทุนอย่างดี อาจจะเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นมาหน่อย แต่ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น หรือมีการจัดพอร์ตการลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ และเลือกที่มีเงินปันผล เพื่อจะได้มีเงินปันผลออกมาไว้ใช้จ่ายประจำได้ซึ่งต้องขอย้ำว่าการลงทุน ต้องรู้จักศึกษาข้อมูลอย่างดี ติดตามข่าวที่มีผลกระทบการลงทุนอยู่เสมอนอกจากนี้ อาจมีการแบ่งสัดส่วนในการงทุนที่มีความเสี่ยงเพื่อให้เงินงอกเงยให้ชัดเจนจากเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุน ต้องไม่ลืมว่าเงินก้อนนี้เป็นเงินก้อนสุดท้ายสำหรับการดำรงชีวิตต้องเพิ่มความรอบคอบในการลงทุนให้มาก”
โดยสรุปการเลือก “อาชีพหลังเกษียณ” เป็นอาชีพที่สามารถทำให้เรามี “อิสรภาพทางการเงิน” และ “มีความสุขในการใช้ชีวิต” ที่เหลืออยู่ สิ่งสำคัญคือควรวางแผนจัดการอย่างมีสติ เลือกทำในสิ่งที่เราถนัดมีความเชี่ยวชาญ มีความรู้และศึกษาอย่างรอบคอบถี่ถ้วนที่สุด ทำแล้วมีความสุข ทั้งนี้ ทำให้เราภูมิใจในการใช้ชีวิตได้คุ้มค่า ในบั้นปลายของชีวิตได้อย่างดีค่ะ
ติดตามความรู้และข่าวสารสมาคมนักวางแผนการเงินไทย ได้ที่ LINE@cfpthailand,สมาคมนักวางแผนการเงินไทย Facebook Fanpageและ www.tfpa.or.th