“ ตั้ง 5 เซนติเมตรต่อวินาทีเลยนะ
อะไรเหรอ?
ความเร็วที่ดอกซากุระร่วงลงพื้นไง
5 เซนติเมตรต่อวินาที ”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา แอนิเมชั่นจากแดนญี่ปุ่นอย่าง Your Name (2016) สร้างปรากฎการณ์ต่อผู้ชมในไทยมากพอสมควร (จนดูเป็นเรื่องชวนเซอร์ไพรซ์ที่หนังทำเงินได้ขนาดนั้น) แน่นอนว่าชื่อ มาโกโตะ ชินไค กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และทำให้ผลงานล่าสุดของเขาอย่าง Weathering With You กลายเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่ผู้คนรอคอยมากที่สุดของปีนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ชินไค ไม่ได้เริ่มทำแอนิเมชั่น Your Name เป็นเรื่องแรก หากแต่มีผลงานก่อนหน้านั้นพอสมควร เช่นเดียวกับงาน โรแมนติก-ดราม่า อย่าง “5 Centimeters Per Second” ที่พูดถึงความสัมพันธ์ระยะไกล (Long-Distance Relationship) ของหนุ่มสาวสองคนตลอดช่วงระยะเวลาหลายปี ซึ่งเป็นแอนิเมชั่นจาก มาโกโตะ ชินไค ที่ทำงานกับเรามากที่สุด
บทที่ 1 | รถไฟแห่งความไม่แน่นอน
ทะกะกิ และ อะกะริ เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ประถม พวกเขาเป็นเพื่อนที่สนิทสนมและเติมเต็มให้กันในแบบที่คนอื่นๆทำไม่ได้ ทั้งด้วยทัศนคติความคิด นิสัย และความชื่นชอบส่วนตัว พวกเขามักจะถูกเพื่อนๆในห้องล้อเรื่องนี้อยู่เสมอแต่ก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งความผูกพันที่เกิดขึ้นได้ ทั้งสองยังคงไปไหนมาไหนด้วยกันเรื่อยๆ จนกระทั่งปลายมัธยมต้น อะกะริ จำเป็นจะต้องย้ายโรงเรียน (และบ้าน) ไปยังจังหวัดอื่นตามครอบครัวของเธอ ชีวิตประจำวันที่มีกันและกันจึงเปลี่ยนแปลงไป จากบทสนทนาผ่านคำพูด กลายเป็นตัวอักษรจากจดหมาย จากความใกล้ชิดตัวติดกัน เกิดเป็นระยะห่างที่ทำให้คิดถึงและโหยหา กระนั้น อุปสรรคทั้งหมดนี้ยังไม่สิ้นสุด เพราะในเวลาต่อมา ทะกะกิ เองก็ต้องย้ายไปเรียนที่จังหวัดอื่นเช่นกัน เมื่อระหว่างเขากับเธอไกลห่างมากขึ้น ความเป็นไปได้ของเรื่องทั้งหมดจึงยิ่งน้อยลง ทะกะกิ จึงตัดสินใจเดินทางไปหา อะกะริ ก่อนที่พวกเขาจะไม่มีโอกาสไปมาหาสู่กันอีกต่อไป
“ เวลาเป็นสิ่งที่ช่างโหดร้าย มันค่อยๆ เสียดแทงผ่านตัวเราไปอย่างเชื่องช้า ”
ฉาก ทะกะกิ นั่งรถไฟไปหา อะกะริ เป็นหนึ่งในซีนสำคัญที่สุดของ 5 Centimeters Per Second มันช่วยอธิบายปัญหาทางความรู้สึก และอุปสรรคของระยะทางได้เป็นอย่างดี (บนความสัมพันธ์แบบ Long Distance Relationship) เขาไม่เพียงแต่ต้องใช้เวลาอันยาวนานบนรถไฟข้ามจังหวัดเพื่อไปหาใครสักคน แต่ยังต้องเผชิญหน้ากับพายุหิมะที่ขัดจังหวะการเดินทางของเขาให้ถดถอยหมดกำลังใจ ความล่วงเลยของวินาทีที่ค่อยๆเกินเวลานัดหมาย จดหมายความในใจที่ปลิวไปกับสายลม และความพยายามที่ถูกสั่นคลอน แม้การที่ท้ายสุด ทะกะกิ และ อะกะริ เจอกันจะดูเป็นเรื่องที่ดี แต่พวกเขา (และคนดู) ต่างก็รู้ว่าความสัมพันธ์นี้มันยากจะเป็นจริงเพียงใดและเวลาของการรอคอยสามารถทำร้ายพวกเขาได้รุนแรงแค่ไหน การนัดเจอครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการทักทายและบอกลาพร้อมๆกัน เพราะพวกเขาเองต่างก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าวันข้างหน้าจะมีโอกาสได้กลับมาเจอกันอีกครั้งหรือเปล่า บทสนทนาในตอนท้ายจึงเป็นเรื่องของความหวังและการเข้าใจ แม้ว่า ทะกะกิ และ อะกะริ จะอยู่ห่างไกลกันมานานก่อนหน้าเป็นปี แต่จังหวะที่ทำให้รู้สึกว่าพวกเขาไกลห่างกันจริงๆ กลับเป็นวินาทีที่ทั้งสองบอกลากันตรงชานชาลา วินาทีที่ใจของทั้งคู่เริ่มเกิดช่องว่างขึ้น อันเต็มไปด้วยคำถาม ความเป็นไปได้ และอนาคตที่แสนไม่แน่นอน
บทที่ 2 | อวกาศที่ไม่มีวันเอื้อมถึง
“ สิ่งนั้นราวกับการเอื้อมมือไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดจนสุดกำลัง
และกำลังมองหาอะไรสักอย่างที่อยู่อีกฟากอันแสนไกลอย่างเหม่อลอย ”
ทะกะกิ ตอนนี้อยู่ในช่วงปลายมัธยม เนิ่นนานผ่านจากช่วงเวลานั้นมาหลายปี ความน่าสนใจของบทนี้คือการที่เรื่องทั้งหมดถูกเล่าผ่าน คะนะเอะ เพื่อนร่วมชั้นของ ทะกะกิ ที่เธอแอบชอบตั้งแต่แรกพบแต่ยังรวบรวมความกล้าได้ไม่มากพอที่จะสารภาพความรู้สึกออกไป สำหรับเธอ ทะกะกิ คือหนุ่มแสนดีที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง เขาเป็นคนนิสัยดี และมักจะทำดีแก่เธอเสมอ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นได้จากความเข้ากันได้เวลาพูดคุย แต่แล้วเธอก็พบว่า ทะกะกิ ไม่ได้สนใจเธอขนาดนั้น และยังใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหมกมุ่นอยู่ในโทรศัพท์เพื่อพิมพ์ข้อความถึงใครสักคน (ซึ่งเปิดเผยที่หลังว่าเป็น อะกะริ เพียงแต่เขาไม่เคยส่งไปหาเธอจริงๆสักครั้งเดียว)
“ ผมเริ่มพิมพ์ข้อความโดยไม่มีปลายทางตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ”
จากคำสัญญาและความหวังในวันนั้น กลายเป็นความว่างเปล่าในวันนี้ ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยใช้จดหมายในการบอกเล่าเรื่องราว และใช้รถไฟในการเดินทางไปหา แต่วันนี้ ทะกะกิ กับ อะกะริ ไม่ได้ติดต่อกันอีกแล้ว แม้ว่าข้อความในโทรศัพท์จะสามารถส่งหาถึงกันได้ง่ายขึ้น ถี่ขึ้น แต่ชีวิตและใจของพวกเขาห่างไกลเกินกว่าสัญญาณและความรู้สึกจะไปถึง ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากรถไฟเลยกลายเป็นยานอวกาศตามความห่างไกลของทั้งสอง ณ วันนี้ ทะกะกิ คือนักบินอวกาศที่เชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะพบกับ อะกะริ บนท้องฟ้ามืดมิดแห่งนั้น
เพราะเขาสนใจแต่ท้องฟ้าและมองหาสิ่งที่ยากจะเอื้อมถึง คะนะเอะ จึงไม่เคยอยู่ในสายตาของ ทะกะกิ จริงๆสักวินาทีเดียว เขาเป็นชายที่นิสัยดี ทำดีต่อเธอเสมอมาก็จริง แต่เขาไม่ได้สนใจเธอหรอก มอเตอร์ไซค์ที่ช่วยดูอาการตอนมันพังเป็นเพียงความใจดีฉันมิตรของเขาที่มีติดตัวมา เพราะสิ่งที่เขาสนใจและปรารถนาจริงๆคือยานอวกาศ และท้องฟ้าบนนั้นต่างหาก ซึ่งเป็นสิ่งที่หญิงสาวแอบรักคนนี้ไม่สามารถเติมเต็มได้
คะนะเอะ ตัดสินใจจะไม่บอกความรู้สึกในใจแก่ ทะกะกิ ตามที่วาดฝันไว้ และเลือกจะเก็บเรื่องทั้งหมดไว้แต่เพียงผู้เดียวเพราะเธอรู้คำตอบของทุกสิ่งไปหมดแล้ว แน่นอนว่าเธอไม่สามารถเลิกรักชายหนุ่มคนนี้ได้ เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ไม่สามารถลืมหญิงสาวจากตอนประถมคนนั้นได้เช่นกัน เธอคิดมาเสมอว่าเธออยู่ใกล้เขา คิดมาตลอดว่ามันอาจจะเป็นจริงได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทะกะกิ ก็เป็นหนึ่งในอวกาศของเธอ อันเป็นท้องฟ้าแสนไกลนิรันดร์อันมืดมิดที่เราเอื้อมสุดกำลังแค่ไหน..ก็เหมือนจะไปไม่ถึงอยู่ดี
บทที่ 3 | เสี้ยววินาทีซากุระกับเวลามนุษย์
“ ขนาดในชีวิตประจำวันธรรมดา ความโศกเศร้าก็ยังมีอยู่ทั่วไปหมด ”
เนิ่นนานผ่านมาอีกหลายปี ตอนนี้ ทะกะกิ เติบโตเป็นผู้ใหญ่เรียบร้อย (หากเราวัดกันที่อายุ) เขาทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งโดยมีสาวคนหนึ่งในออฟฟิศคอยส่งข้อความหาเขาอยู่เสมอๆ ชีวิตเหมือนหยิบยื่นโอกาสให้เขาอีกครั้ง โอกาสที่เขาจะลืมเรื่องในอดีต และเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนในปัจจุบัน แต่เขากลับตัดสินใจแบบเดิมเช่นที่ผ่านมา เรื่องของ อะกะริ ยังคงวนเวียนและมีอิทธิพลกับชีวิตของเขา มากเสียจนทำให้ ทะกะกิ กลายเป็นชายอมทุกข์ ใช้ชีวิตอย่างไร้หัวจิตหัวใจราวกับซังกะตายไปวันๆ โดยไม่รู้เลยว่าในขณะเดียวกันนั้น อะกะริ กำลังจะเข้าวิวาห์กับชายคนอื่นที่เธอพบ เพราะสำหรับเธอ เรื่องของเขา คำสัญญาวันนั้น และความพยายามที่เคยให้กันมันจบลงไปแล้ว เป็นเพียงเรื่องราวดีๆที่จะทำให้คิดถึง แต่ไม่ได้เลือกจะกลับไป
5 Centimeters Per Second จบลงด้วยฉากธรรมดาๆที่ อะกะริ และ ทะกะกิ ต่างพูดถึงเรื่องๆเดียวกัน นั่นคือความสัมพันธ์ในอดีตและบทสนทนาถึงดอกซากุระ พวกเขาฝันถึงครั้นอายุ 13 ที่ทั้งคู่เดินด้วยกันบนกองหิมะสีขาว ต่างเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะได้ไปดูซากุระด้วยกันอีกครั้ง สำหรับ อะกะริ มันเป็นความฝันที่สำคัญชั่วคราว อาจเพราะการเจอจดหมาย (ที่เคยเขียนให้ ทะกะกิ) โดยบังเอิญเลยทำให้เธอหวนนึกถึงวัยเยาว์ช่วงหนึ่ง สุดท้ายเมื่อตื่นขึ้นทั้งหมดก็จะเป็นเพียงเรื่องเด็กๆ ที่ต้องปล่อยไป ตรงกันข้ามกับ ทะกะกิ ที่เรื่องเหล่านี้ยังคงเป็นจริงมาจนถึงปัจจุบัน ความรู้สึกที่ติดค้างผ่านคำสัญญาที่คนให้ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป กลายเป็นพันธการที่ยึดเขาไว้กับวันนั้นจนไม่สามารถสลัดออกไปไหนได้ หรืออย่างน้อยๆกระบวนการในการก้าวต่อไปสำหรับ ทะกะกิ มันคงช้ามากๆ แม้จะเริ่มต้นพร้อมกับ อะกะริ แต่ผลลัพธ์และปลายทางมันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“5 เซนติเมตรต่อวินาที” คือระยะเวลาที่กลีบซากุระร่วงหล่นถึงพื้น มันฟังดูเป็นตัวเลขที่คงที่และมีความน่าเชื่อถือ แต่สำหรับความสัมพันธ์ของ ทะกะกิ และ อะกะริ หรือกระทั่งชีวิตของมนุษย์ทุกคน ระยะเวลาในการร่วงโรยจากต้นไม้ลงสู่พื้นของคนเรานั้นไม่เท่ากันเลย เรื่องๆหนึ่งที่เกิดขึ้นต่อผู้คนล้วนมีผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไป ไม่มีใครเหมือนกันอย่างแท้จริง เฉกเช่นชีวิตของทั้งสองที่แม้จะเริ่มต้นนับหนึ่งพร้อมกันแต่พวกเขากลับมีปลายทางที่ต่างกันอย่างน่าใจหาย
5 Centimeters Per Second คือภาพยนตร์ที่ตั้งคำถามถึงชีวิตบนองค์ประกอบสำคัญอย่าง เวลา และ ระยะทาง ผ่านความสัมพันธ์ที่กินระยะเวลาหลายปี หนังไม่ได้บอกว่าการรอคอยนั้นเป็นเรื่องที่น่าสิ้นหวัง หากแต่เชื้อเชิญให้เราช่างน้ำหนักและคุณค่าของชีวิตที่วนเวียน (จนถึงหมกมุ่น) อยู่กับเรื่องบางเรื่องว่ามันเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแก่ตัวเราจริงๆหรือไม่ แน่นอนว่าแอนิเมชั่นของ ชินไค เรื่องนี้ค่อนข้างใจร้ายหากเทียบกับหลายๆเรื่อง มันเต็มไปด้วยบรรยากาศเหงาๆ กับบทสนทนาเศร้าๆของชีวิตที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ กระนั้น บทสรุปของเรื่องจริงๆก็ยังเพียงพอที่จะทำให้เรายิ้มอย่างมีกำลังใจขึ้นมา(บ้าง) เมื่อวันหนึ่ง ทะกะกิ ได้เดินผ่านรางรถไฟสมัยวัยเด็กและสวนทางกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาเชื่อว่าเธอคือ อะกะริ , ทั้งสองพลาดการมองเห็นกันจากขบวนรถไฟที่บดบังสายตา ชายหนุ่มยืนนิ่งรอคอยรถไฟสิ้นสุดขบวนเพื่อที่เขาจะได้เห็นหน้าเธอคนนั้น แต่สุดท้ายเขาก็พบว่าตัวเองเป็นเพียงคนๆเดียวที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน
หากการร่วงหล่นของซากุระที่ว่าคือระยะเวลาที่ใครสักคนก้าวข้ามจากความทรงจำ คำสัญญา และความรู้สึกบางอย่างในอดีต สำหรับ ทะกะกิ มันคงเป็น 5 เซนติเมตรต่อวินาทีที่ “ยาวนานดั่งเป็นนิรันดร์” เฉกเช่นที่เขาเคยบอกว่าเวลาเป็นสิ่งที่แสนโหดร้าย แต่สำหรับ ณ ตอนนี้ วินาทีที่รถไฟหายไปพร้อมๆกับหญิงสาวคนนั้น ดอกซากุระอันแสนเจ็บปวดนี้ก็ได้ตกลงถึงพื้นเสียที
ความเห็น 14
Aeyyeye
รีวิวดีมากๆเลยค่ะ
06 ก.ย 2562 เวลา 15.38 น.
น่าประทับใจกับในความผูกพันธ์.
05 ก.ย 2562 เวลา 01.31 น.
POM
ดูแล้วงงหน่อยๆคับ อีกเรื่องที่ชอบแนวคิดแนะนำเรื่อง"สู่ป่าแห่งแสงหิ่งห้อย" คับ
04 ก.ย 2562 เวลา 23.23 น.
Goh_Te
เรื่องนี้เคยทำมังงะ 2 เล่มจบ เรื่อง เมื่อดอกซากุระโปรยปราย (ชื่อไทย)
04 ก.ย 2562 เวลา 23.14 น.
❄️Bowji❄️
พออ่านแล้ว หนังลึกกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย
04 ก.ย 2562 เวลา 17.38 น.
ดูทั้งหมด