โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กทม.เฝ้าระวังโรคไอกรนระบาดในสถานศึกษา เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล

เดลินิวส์

อัพเดต 18 พ.ย. 2567 เวลา 15.12 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2567 เวลา 08.05 น. • เดลินิวส์
สนอ.-สนศ. กำชับหน่วยงานในสังกัดปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไอกรนในสถานศึกษา เบื้องต้นยังไม่พบการแพร่ระบาดหรือพบผู้ป่วยในโรงเรียนสังกัดกทม.

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รักษาราชการแทนผอ.สำนักอนามัย (สนอ.) กล่าวถึงกรณีพบการระบาดของโรคไอกรนในนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตปทุมวัน ว่า สนอ. ได้รับรายงานผู้ป่วยยืนยันไอกรนจากรพ.จำนวน 1 ราย และศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) กทม.ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด และเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจจากผู้ใกล้ชิดส่งตรวจ พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มเติมรวม 20 ราย โดยผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มนักเรียนที่มีการสัมผัสใกล้ชิดและทำกิจกรรมร่วมกัน จึงได้ให้ยารักษาผู้ป่วยและยาป้องกันผู้สัมผัสใกล้ชิดที่มีอาการทุกราย แยกกักผู้ป่วยจนรับประทานยาครบ 5 วัน เน้นย้ำการปฏิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการติดเชื้อโรคไอกรน รวมทั้งให้แนวทางและมาตรการการป้องกันควบคุมโรคกับผู้บริหารโรงเรียน พร้อมดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันโรคไอกรนในสถานศึกษาสำหรับโรงเรียนทุกสังกัด เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง

ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับลักษณะอาการและวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคไอกรน รวมถึงคำแนะนำการสังเกตอาการและเน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคสำหรับประชาชน การรับวัคซีนให้ครบ หากมีประวัติใกล้ชิดผู้ป่วย หรือมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไอกรนควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งมีความเสี่ยงติดเชื้อได้ง่ายและหากบุคคลกลุ่มเสี่ยงนี้เป็นโรคไอกรนจะมีอาการรุนแรงได้มาก

ด้าน น.ส.พิศมัย เรืองศิลป์ ผอ.สำนักการศึกษา (สนศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานพบการระบาดและผู้ป่วยโรคไอกรนในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้งจากโรงเรียนสังกัด กทม. สำนักงานเขต 50 เขต โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. หรือสถานพยาบาลสังกัด กทม. อย่างไรก็ตาม สนศ. เล็งเห็นความสำคัญในสุขภาพและความปลอดภัยของนักเรียน กทม. เป็นสำคัญ จึงได้จัดทำแบบสำรวจข้อมูลสถานการณ์โรคไอกรน ในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้ง 437 แห่งในรูปแบบออนไลน์ (Google Form) เพื่อให้ทราบข้อมูลเชิงพื้นที่รายโรงเรียนแบบทันท่วงที หากพบกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย หรือการระบาดดังกล่าว

กำหนดให้โรงเรียนรายงานจำนวนนักเรียนที่มีความเสี่ยง หรือพบการติดเชื้อ พร้อมทั้งกำชับให้โรงเรียนเฝ้าระวังและสังเกตอาการของนักเรียนในโรงเรียนทุกคน ดำเนินการตามมาตรการทางการแพทย์และการสาธารณสุข รวมถึงให้โรงเรียนตรวจสอบความพร้อมอาคารเรียน ห้องเรียน เครื่องเล่นเด็ก ด้านสภาพแวดล้อม ความสะอาด สุขาภิบาล วัสดุการเรียนการสอน กำชับให้จัดการเรียนการสอนในบรรยากาศพื้นที่ที่โปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...