17 ม.ค. – อดีตนักโทษเสพติดชีวิตในคุก หลังพ้นโทษ ก่อเหตุซ้ำ ระบุใช้ชีวิตโลกภายนอกลำบาก อยู่ในคุกมีที่ซุกหัวนอน มีอาหาร 3 มื้อ มีหมอรักษา มีเพื่อนให้การยอมรับ ออกมาชีวิตโดดเดี่ยว
เวลา 15.10 น. พันตำรวจเอกเจษฎา สวยสม รักสาวราชการแทน ผู้บังคับการนครบาล 2 แถลงผลการจับกุม นายประเวศ อายุ 53 ปี หลังก่อเหตุลักทรัพย์ ภายในคลินิกดังย่านจตุจักร 2 ครั้ง กวาดทรัพย์สินได้ไปกว่า 1 ล้านบาท โดยคดีแรกเกิดขึ้น คืนเมื่อวันที่ 6 มกราคม คนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ คลินิกดูแลเส้นผม กวาดทรัพย์สินไปมากกว่า 191 รายการ มูลค่ากว่า 500,000 บาท คดีที่ 2 วันที่ 14 มกราคม 68 ก่อเหตุลักทรัพย์ในคลินิกอีกแห่ง ได้ทรัพย์สินไป อีก 4 รายการ มูลค่าประมาณ 1,300,000 บาท
จากการสืบสวนและตรวจกล้องวงจรปิดจึงพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ ลักทรัพย์ทั้ง 2 คลินิก เป็นคนเดียวกัน ก่อนนำภาพผู้ต้องหาไปตรวจสอบ พบว่าคนร้ายดังกล่าว คือนายประเวศ ซึ่งเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำมาเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวนสนพหลโยธิน และ ตำรวจฝ่ายสืบสวนกรมบังคับการตำรวจนครบาล 2 จึงตรวจสอบเส้นทาง การหลบหนีของคนร้าย พบหลังก่อเหตุ คนร้ายเรียกรถแท็กซี่ หลบหนีไปพักอาศัย สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ นำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปจำนำในโรงรับจำนำ นำเงินออกมาเช่าโรงแรม เป็นที่พักอาศัย ตำรวจจึงขออำนาจศาลออกหมายจับ
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้กระทำทั้ง 2 ครั้ง และยังยอมรับอีกว่า ตนเองเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ก่อนต้องโทษเคยพักอาศัยอยู่ในพื้นที่สำโรงเหนือ ย่านสมุทรปราการ เมื่อพ้นโทษจะมาขอพักอาศัยกับเพื่อนชั่วคราวก่อนหางานทำ แต่ไม่พบเพื่อนทราบว่าได้ย้ายไปแล้ว จึงอาศัยนอนตามบ้านร้าง และทนไม่ไหวที่ต้องอยู่ในบ้านร้างไร้อาหาร น้ำดื่ม จึงตัดสินใจนั่งรถเมล์ จากสำโรงมาย่านบางเขน หวังมาพึ่งพาใบบุญเพื่อนอีกคน แต่ก็หาไม่เจอ ตัดสินใจเดินเลาะถนนมาเรื่อยๆ และสบโอกาสในช่วงกลางคืน ประมาณ 22.00 น. พบกับคลินิก ดูแลเส้นผมจึงใช้ก้อนหินทุบกระจก และปีนเข้าไปค้นหาทรัพย์สินได้ทรัพย์สินไปกว่า 190 รายการ
นั่งรถแท็กซี่ กลับสำโรงเหนือ นำทรัพย์สินบางรายการไปจำนำ แต่เนื่องจากบัตรประชาชนหมดอายุไปแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งช่วงนั้นยังถูกลงโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ เมื่อออกมาจึงยังไม่มีบัตรประชาชนใหม่ จึงจ้างคนเร่ร่อนในพื้นที่ จำนำทรัพย์สินแทน โดยให้ค่าตอบแทน 500 บาท ได้เงินจากการจำนำทรัพย์สินครั้งนั้น ประมาณ 10,000 บาท นำเงินไปเปิดห้องพักในโรงแรมและซื้อของใช้ส่วนตัว รวมถึงออฟสาวมาให้บริการ เมื่อเงินใกล้หมด จึงตัดสินใจนั่งรถเมล์เข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง โดยนั่งรถเมล์มาลงที่จุดเดิม (บางเขน) และตระเวนเดินไปเรื่อยๆ กระทั่งมาพบคลินิกอีกแห่ง แต่ประตูหน้าและหลังถูกล็อก เดินสำรวจดูจนพบว่า เพราะว่าประตูเหล็กด้านหน้า ไม่ได้ปิดไว้ จึงตัดสินใจปีนกำแพง ด้านหลังเข้าไป และงัดประตูลูกบิดเข้าไปภายใน และขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องพักของคุณหมอเจ้าของคลินิก ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ชาร์จแบตโทรศัพท์ นั่งรับแอร์เย็นๆ ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินไปกว่า 1,300,000 บาท
นายประเวศ ยังรับสารภาพอีกว่า ทรัพย์สินที่ได้จากคลินิก เป็นเงินสดเกือบ 1 ล้านบาท เป็นเรื่องโชคดีมาก ตนจึงนำเงินสดดังกล่าว ไปหาความสุขจ่ายค่าห้องพักในโรงแรมรวมถึงใช้บริการอาบอบนวด โดยใช้เงินหมดไปแล้วประมาณ 200,000 บาท แต่ในที่สุดก็ถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ ผู้ต้องหารายนี้ยังระบุว่า รู้สึกสบายใจที่ถูกจับกุมตัวได้แล้ว เพราะการกลับเข้าไปอยู่ในคุก ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะมีซุกหัวนอน มีอาหารการกิน 3 มื้อ เจ็บไข้ได้ป่วย มีหมอรักษา และที่สำคัญมีเพื่อนฝูงที่เข้าใจ และยอมรับ
ด้านรักษาการผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุว่าจากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ต้องโทษในคดีลักทรัพย์ ถูกจำคุกตั้งแต่ ปี 2565 และเพิ่งออกมา ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ก่อนออกมาก่อเหตุซ้ำ ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าที่ต้อง ลงมือก่อเหตุอีกเพราะไม่มีที่อยู่อาศัยไม่มีอาหาร ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และลำบากกว่าอยู่ในคุก.-414-สำนักข่าวไทย
ความเห็น 0