โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

มัดรวม 7 ทุนเรียนต่อ ‘อินเดีย’ ประเทศการศึกษาล้ำ อารยธรรมเลิศ!

Dek-D.com

เผยแพร่ 31 พ.ค. 2565 เวลา 10.31 น. • DEK-D.com
มัดรวม 7 ทุนเรียนต่อ ‘อินเดีย’ ประเทศการศึกษาล้ำ อารยธรรมเลิศ!
อยากเรียนต่ออินเดีบ รีบเช็กเลย!

Namaste! สวัสดีค่ะชาว Dek-Dทุกคน เชื่อว่าในช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงได้ดูและติดตามกระแสของ “คังคุไบ”หนังอินเดียฟอร์มยักษ์ที่กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในชั่วข้ามคืน บอกเลยว่าดูแล้วก็อินไม่ไหวจนอยากพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกับประเทศอินเดียให้มากขึ้น~

และหนึ่งในจุดเด่นที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศแห่งนี้ก็คือเรื่องของระบบการศึกษาดีที่พร้อมไปด้วยหลักสูตรการเรียนการสอนคุณภาพสูง แถมยังมีทุนสนับสนุนค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้อีกเพียบ ใครสนใจก็รีบตาม พี่ปุณไปส่อง “7 ทุนเรียนต่อสำหรับชาวต่างชาติจากรัฐบาลและมหาวิทยาลัยในอินเดีย”กันได้เลย!

อ้างอิงจากเรตเงิน INR1 = 0.44 บาท ณ วันที่ 31 พ.ค. 65

เรียนต่อ “อินเดีย” ดียังไง?

“อินเดีย”ถือเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและจีน มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมาย มีการเรียนการสอนที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งมีผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์ชื่อดังหลายคนสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ด้วย

หลักสูตรการเรียนการสอนของจะใช้เป็น “ภาษาอังกฤษ”ทั้งหมด ผู้เรียนทุกคนจะได้อัปสกิลภาษาแบบปังๆ แถมยังได้แลกเปลี่ยนความรู้และวัฒนธรรมกับเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ เรียกว่าเป็นโอกาสในการสร้างคอนเน็กชันเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเลยค่ะ เพราะทั้งค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพของอินเดียก็ถือว่าถูกกว่าไทย(อาจยกเว้นเมืองใหญ่ๆ)

นอกจากนี้นอกรั้วมหา’ลัยก็ยังมีเรื่องตื่นตาตื่นใจให้ได้ค้นหา ทั้งอารยธรรมสำคัญของโลก โบราณสถาน โบราณวัตถุ และสถาปัตยกรรมหลายยุคสมัย แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเอาใจคนรักธรรมชาติ ทั้งภูเขา แม่น้ำ และทะเลทราย ใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ก็ปักหมุดประเทศอินเดียไว้ได้เลย!

1. General Scholarship Scheme (GSS)

เริ่มต้นกันด้วย ‘General Scholarship Scheme (GSS)’ทุนการศึกษาจากรัฐบาลอินเดียที่มอบให้กับชาวต่างชาติที่มาเรียนต่อในหลักสูตรปริญญาตรี บัณฑิตศึกษา และโปรแกรมการวิจัย โดยผู้ที่มีสิทธิได้รับทุนจะต้องเป็นนักศึกษาจากประเทศในทวีปเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา อีกทั้งยังต้องมีความสามารถด้านภาษาอยู่ในระดับดี เพราะการเรียนการสอนของจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

ผู้ที่สมัครทุนทุกคนจะสามารถเลือกคณะและมหา’ลัยที่ต้องการเข้าเรียนได้สูงสุด 3 แห่งซึ่งถ้าใครอยากศึกษาต่อในสาขาเกี่ยวกับศิลปะการแสดงก็อาจต้องส่งพอร์ตผลงาน เช่น คลิปเสียงหรือวิดีโอ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ส่วนถ้าใครจะเลือกเรียนในหลักสูตรบัณฑิตศึกษา (ป.โท/เอก) ก็ต้องส่งหัวข้อวิจัยควบคู่ไปกับเอกสารที่ทางมหา’ลัยกำหนดไว้ด้วย // แอบกระซิบว่าทุนนี้ให้เยอะมากกก ครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน, ค่าที่พัก, ค่าวิทยานิพนธ์, ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์, และยังมีเบี้ยเลี้ยงรายเดือน พร้อมเงินสนับสนุนรายปีให้อีกด้วยจัดหนักจัดเต็มขนาดนี้ห้ามพลาดเลยนะ!

2. Indira Gandhi Institute of Development Research (IGIDR) Scholarship

ใครชื่นชอบงานวิจัยต้องห้ามพลาดทุนจาก ‘Indira Gandhi Institute of Development Research (IGIDR)’สถาบันชั้นนำที่ได้รับเงินสนับสนุนจากธนาคารทุนสำรองของอินเดีย ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการค้นหานักศึกษาเรียนดี มีความสามารถ มาร่วมพัฒนางานวิจัยที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในสังคมได้ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าผู้ที่จะมีสิทธิได้รับพิจารณาทุนจะต้องเก่งภาษาอังกฤษและฟัง พูด อ่าน เขียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังต้องเลือกเรียนต่อใน “ระดับป.ตรีและป.โททางด้านปรัชญา (MPhil Studies)” เท่านั้น

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทุนที่มีมูลค่าสูงมาก ครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน, ค่าที่พัก, ค่าหนังสือ, ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์, และค่าเครื่องบินไป-กลับ น้องๆ คนไหนสนใจก็สามารถสมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของทางสถาบันได้เลย

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

3. KIIT University International Scholarship Program (KUISP)

มาต่อกันกับอีกหนึ่งทุนจาก ‘Kalinga Institute of Industrial Technology University (KIIT)’มหา’ลัยเอกชนที่โด่งดังในด้าน “อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี”ซึ่งผู้ที่จะมีสิทธิได้รับทุนนี้จะต้องสมัครเรียนและได้รับตอบรับเข้าเรียนแล้ว โดยสามารถเลือกเรียนในคณะใดก็ได้ ยกเว้นคณะพยาบาลศาสตร์, สถาปัตยกรรมศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์ และแพทยศาสตร์

ส่วนประเภทของทุนก็จะมีทั้ง ทุนเต็มจำนวนและทุนส่วนลด 50%ซึ่งจะใช้ได้กับทั้งค่าเล่าเรียนและค่าที่พักเลยล่ะค่ะ ใครสนใจอยากเรียนต่อด้านวิศวกรรมและไอทีก็รีบศึกษาข้อมูลกันไว้ให้ดีเลย เพราะทุนนี้จะปิดรับสมัครในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้แล้ว (สำหรับรอบปี 2022)

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

4. Indian School of Business (ISB) International Scholarships

ว่าที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงทั้งหลายมารวมตัวกันตรงนี้! ใครที่อยากเรียนป.โทใน
“หลักสูตรธุรกิจและการจัดการ”พี่ก็ขอแนะนำ ‘Indian School of Business (ISB)’โรงเรียนธุรกิจเอกชนชื่อดังของอินเดียที่มีทุนหลากหลายประเภทให้นักศึกษาทั่วโลกได้เลือกสรร ซึ่งแต่ละทุนก็จะมีมูลค่าแตกต่างกันไป ดังนี้

  • ISB Merit Waivers:ทุน 25% - 100%
  • ISB-AIESEC Scholarship:ทุนมูลค่า INR 1,000,000 หรือประมาณ 440,000 บาท
  • Bridge to India Scholarship:ทุนมูลค่า INR 500,000 - INR 1,000,000 หรือประมาณ 220,000 - 440,000 บาท
  • La Caixa and Casa Asia Scholarship:ทุนครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • Talentia Scholarship:ทุนครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ส่วนเกณฑ์การพิจารณาก็จะมีทั้งเรื่องของประสบการณ์การทำงาน, ผลสอบ Graduate Record Examination (GRE) หรือGraduate Management Admission Test (GMAT), รวมไปถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้สมัครโดยทุนนี้จะปิดรับสมัครในวันที่ 15 ตุลาคมของทุกปี เตรียมตัวให้ดีแล้วส่งใบสมัครกันได้เลย!

รายละเอียดทุน

5. ITEC/SCAAP Government of India Fully Funded Scholarships

‘ITEC/SCAAP Government of India Fully Funded Scholarships’เป็นทุนที่ทางรัฐบาลอินเดียร่วมกับ the National Institute of Entrepreneurship and Small Business Development (NIESBUD) มอบให้แก่นักศึกษาต่างชาติที่อยากมาหาประสบการณ์และเข้าร่วม“โปรแกรมการฝึกอบรมในอินเดีย”ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมเกี่ยวกับการตลาดและความสามารถในการแข่งขันระดับโลก, การบริหารวิสาหกิจชุมชน หรือแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาสุขาภิบาลและการจัดการน้ำ

โดยทุนนี้จะครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียน, ค่าที่พัก, ค่าหนังสือ, ค่าทำโพรเจกต์, ค่าทัศนศึกษา, ค่าวีซ่า, ค่าเครื่องบินไป-กลับ แถมยังมีเบี้ยเลี้ยงรายเดือนให้ INR 25,000 หรือประมาณ 1,100 บาท อีกด้วยค่ะ ถือเป็นทุนที่คุ้มค่าน่าสมัครสุดๆ ใครสนใจเรียนต่อปีนี้ก็ยังสมัครทัน รีบเตรียมเอกสารแล้วยื่นก่อนหมดเขตกันได้เลย (ทุนนี้ปิดรับสมัครทุกสิ้นเดือนมิถุนายนของทุกปีค่ะ)

6. Nalanda University Master Fellowship

‘Nalanda University’ เป็นมหา’ลัยชั้นนำในเมืองนาลันทาของอินเดียที่มี ทุนค่าเล่าเรียน 100% พร้อมค่าอาหารและค่าที่พักมอบให้กับชาวต่างชาติที่มาเรียนต่อใน ‘Master Fellowship Programme’หรือหลักสูตรบัณฑิตศึกษาในสาขาใดก็ได้ อาทิเช่น สาขาประวัติศาสตร์, ปรัชญา, นิเวศวิทยา, สิ่งแวดล้อม และศาสนาเปรียบเทียบ

โดยเกณฑ์ที่ถูกนำมาใช้ในการพิจารณาทุนก็คือผลการเรียนในระดับป.ตรีและประกาศนียบัตรหรือใบรับรองความสามารถด้านภาษา ใครมั่นใจว่าสกิลภาษาอังกฤษของตัวเองเจ๋งไม่แพ้ใครก็สามารถสมัครทุนพร้อมกับสมัครเรียนได้ง่ายๆ ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้! (สำหรับรอบปี 2022)

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

7. SIU-ICCR Joint Scholarships

ปิดท้ายกันไปด้วยทุนจาก‘Symbiosis International University (SIU)’และองค์กรส่งเสริมความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมกับต่างประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลอินเดีย (The Indian Council for Cultural Relations) ที่มอบให้กับนักศึกษาต่างชาติในประเทศกำลังพัฒนาที่อยากศึกษาต่อในระดับป.ตรีและป.โท

โดยผู้ที่จะมีสิทธิได้รับทุนจะต้องเป็นนักศึกษาเต็มเวลาของทางสถาบันและต้องมีใบรับรองความสามารถทางภาษาอังกฤษมาด้วย ใครอยากเป็นเจ้าของทุนดีๆ ที่ครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน, ค่าอาหาร และค่าที่พักแบบนี้ ก็รีบศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์แล้วไปสมัครให้ไวเลย

รายละเอียดทุน

และนี่ก็คือ “7 ทุนเรียนต่ออินเดียจากรัฐบาลและมหาวิทยาลัยชั้นนำ” ที่พี่มัดรวมมาฝาก บอกเลยว่าแต่ละทุนคือมูลค่าสูงมากกก แถมยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้แทบทั้งหมด แต่แน่นอนว่า ‘Nothing comes easy’ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ถ้าน้องๆ คนไหนอยากได้ทุนก็ต้องเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมฝึกสกิลภาษาอังกฤษกันไว้ให้ดี ที่สำคัญต้องอย่าลืมวางแผนการเรียนและเช็กวันปิดรับสมัครของแต่ละทุนกันด้วยนะ :D

สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"

ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D

Website: www.dek-d.com/studyabroad

Twitter: @tornokandcourse

IG: @tornokandcourse

Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0