โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

คัพท์แสงและคำสแลงใหม่ในภาษาอังกฤษที่เกิดขึ้นเพราะโควิด-19

becommon.co

อัพเดต 18 พ.ค. 2563 เวลา 14.23 น. • เผยแพร่ 16 เม.ย. 2563 เวลา 07.49 น. • common: Knowledge, Attitude, make it Simple

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอารมณ์ขันหรือความตลกร้ายกันแน่ที่ทำให้เกิดคำสแลงเหล่านี้ขึ้นมาท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

แต่ในทางภาษาศาตร์ คำสแลง คือ ภาษาพูดที่ใช้สื่อสารกันเฉพาะกลุ่มโดยในชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักภาษา

common จึงได้รวบรวมคำสแลงใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้รู้จัก และอัพเดตว่าอีกฟากหนึ่งของโลกอย่างประเทศในตะวันตก เขาพูดจาภาษาสแลงอะไรกันในช่วงนี้

ฉันเกิดและอยู่ในยุคโควิด-19

นี่คือยุคสมัยที่เรียกว่า coronials หมายถึงเจเนอเรชันที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในช่วงโควิด-19 ระบาดทั่วโลก

ในช่วงเวลานี้ หากครอบครัวที่มีสมาชิกใหม่เป็นทารก เด็กคนนั้นจะถูกเรียกว่า coronababiesส่วนคำว่า quaranteensเอาไว้ใช้เรียกบรรดาวัยรุ่นที่ออกไปไหนไม่ได้ เพราะต้องกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน 

สำหรับพ่อ แม่ หรือผู้ปกครองส่วนใหญ่ ก็กลายเป็นผู้ประสบภัยในภาวะที่เรียกว่า coronacationกันถ้วนหน้า ซึ่งหมายถึงการทำหน้าที่เลี้ยงดูลูก ไปพร้อมๆ กับwork from home(ทำงานที่บ้าน) โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้

ด้านความรักความสัมพันธ์ หากคู่รักคู่ไหนต้องเลิกรากันเพราะพิษจากวิกฤตโควิด-19 เราจะเรียกว่า covidivorceมาจากคำว่า divorce(หย่าร้าง) 

Photo: Louis Janmot, Poem of the Soul – Sunrays (c.1854)
Photo: Raphael, Madonna with Beardless St. Joseph (c.1506)
Photo: Pere Borrell del Caso, Escaping criticism (c.1874)
Photo: Paul Delaroche, Young Mother and Her Children
Photo: Belmiro de Almeida, Arrufos (c.1887)

ยาวไปไม่ขอพูด

ก็เหมือนคนไทยที่มีชื่อเล่นหรือฉายาไว้เรียกแทนชื่อจริงนั่นแหละ เมื่อชีวิตประจำวันต้องพูดคำศัพท์ยาวๆ อยู่บ่อยๆ คำเหล่านี้จึงถูกเปลี่ยนให้เป็นภาษาพูด โดยใช้วิธีตัดบางเสียงทิ้ง หรือปรับบางเสียงเสียใหม่ แต่ยังคงใช้สื่อความหมายเดิม

อย่างคำว่าไวรัสโคโรนาจาก coronavirusก็ย่อให้เหลือแค่ rona

หรือคำว่า hand sanitizerที่หมายถึงเจลทำความสะอาดมือ ก็เปลี่ยนมาเรียกอย่างสั้นๆ ว่า sanny นอกจากจะฟังดูน่ารักแล้วยังแฝงความรู้สึกน่าใช้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย 

ส่วนคำว่า self-isolationหรือการแยกตัวออกมาเพื่อกักโรคและติดตามอาการในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็เรียกอย่างย่อๆ ว่า iso

Photo: Josse Lieferinxe, Saint Sebastian Interceding for the Plague Stricken (c.1497-1499)
Photo: Michelangelo, Creation of Adam (c.1511)
Photo: Edward Hopper, Cape Cod Morning (c.1950)

ทำตัวเช่นไรมีคำสแลงเรียกเช่นนั้น

สำหรับคนที่ชอบทำอะไรเพี้ยนๆ หรือเกิดพฤติกรรมใหม่ๆ ซึ่งแตกต่างจากการใช้ชีวิตในยามปกติ เพราะมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็มีคำสแลงแปลกๆ ไว้เรียกคนเหล่านี้โดยเฉพาะ แต่การใช้คำกลุ่มนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะคำบางคำอาจสร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้คนที่ถูกเรียกได้ 

เริ่มต้นจากคำสแลงที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในโซเชียลมีเดีย นั่นคือ covidiotซึ่งเกิดจากการรวมคำระหว่าง COVID-19(โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) และ idiot(คนโง่) เพื่อเอาไว้ใช้เรียกใครก็ตามที่ไม่สนใจเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) ไม่ยอมกักตัวเองอยู่ในที่พัก (quarantine) และคนที่กักตุนของมากเกินจำเป็น

หรือจะใช้คำว่า moronavirus แทนก็ได้ เพราะสื่อความหมายทำนองเดียวกัน รวมถึงเกิดจากการรวมคำที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย คือคำว่า moron(คนโง่) และ coronavirus(ไวรัสโคโรนา)

ตรงกันข้ามกับคำว่า covidientซึ่งหมายถึงคนที่ปฏิบัติตามนโยบายการป้องกันโรคของรัฐได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

ส่วนคำว่า prepper มากจาก prep(พร้อม) ใช้เรียกคนที่เตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 ได้ในทุกสถานการณ์ 

นอกจากนี้ยังมีคำว่า the mail หมายถึงเพื่อนที่ขยันมาหาเราที่บ้านทุกวัน ต่อให้พร่ำบอกว่าช่วงนี้ควรห่างกันสักพัก แต่เพื่อนก็ไม่สนใจ เหมือนกับจดหมายที่จ่าหน้าถึงเรา ต่อให้ไม่อยากรับแค่ไหน สุดท้ายจดหมายทุกฉบับจะมาอยู่ในตู้ไปรษณีย์หน้าบ้านเสมอ

อีกคำที่น่าสนใจ คือ corona baeปกติ baeเป็นคำหวานๆ สำหรับใช้เรียกคนรักหรือแฟน แต่คำสแลงนี้หมายถึงคนที่เราบังเอิญเห็นในโซเชียลมีเดียแล้วหลงรักขึ้นมาทันที เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างกักตัวอยู่คนเดียวอย่างเหงาๆ

Photo: Adriaen van der Werff, The Banishment of Hagar (c.1696-1697)
Photo: Jan Matejko, Stańczyk (c.1863)
Photo: Johannes Vermeer, The Milkmaid (c.1660)
Photo: Carl Bloch, Two women talking (c.1874)
Photo: Caravaggio, Narcissus (c.1594-1596)

คำประดิษฐ์เฉพาะกิจ

เพื่อคลายความเบื่อหน่ายระหว่างกักตัวอยู่บ้าน หลายคนจึงเลือกวิธีสร้างความบันเทิงให้ชีวิตอย่างง่ายที่สุด นั่นคือเปิดหนังและซีรีส์ดูติดต่อกันจนจบซีซัน เราเรียกวิธีการแบบนี้ว่า quarantine and chill 

เพื่อเพิ่มอรรถรส บางคนอาจหาขนมขบเคี้ยว ข้าวโพดคั่ว หรืออาหารสำเร็จรูปอื่นๆ ไว้กินไปดูไป แต่ถ้าเป็นเครื่องดื่มประเภทค็อกเทลอย่าง martiniและ margaritaเราจะเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันเป็น quarantini และ coronarita แทน

เมื่อเปลี่ยนมาเข้าสู่โหมดทำงานจริงจัง ก็มีคำสแลงจำนวนหนึ่งที่คนนิยมใช้กันมาก เช่น doom-scrollingหมายถึงการเลื่อนฟีดในสื่อสังคมออนไลน์จนไปเจอข่าวหรือข้อมูลที่ทำให้รู้สึกหดหู่ใจ

หรือระหว่างประชุมงานหรือคุยกับคนอื่นผ่านวิดีโอคอล แล้วมีใครทำบางสิ่งบางอย่างจนกลายเป็นจุดสนใจของทุกๆ คนไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม เราจะเรียกว่า zoom-bombing 

ยังมีอีกคำที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน คือ zoom roomหมายถึงพื้นที่เล็กๆ หรือมุมใดมุมหนึ่งของห้องถูกจัดเตรียมไว้อย่างเป็นระเบียบและเรียบร้อยที่สุด เพื่อใช้สำหรับวิดีโอคอลเท่านั้น ทั้งๆ ที่มุมอื่นๆ รกไปด้วยของสารพัดสิ่ง

Photo: Charles James Lewis, Reading by the Window (c.1980)
Photo: Philippe Mercier, Portrait of a Girl with a Bottle and a Glass (c.1760)
Photo: Ernst Anders, Ein stiller Moment (c.1878)
Photo: Sandro Botticelli, The Birth of Venus (c.1484–1486)/Artemisia Gentileschi, Penitent Magdalene (c.1625)
Photo: Sandro Botticelli, St Augustin dans son cabinet de travail (c.1490-1494)

ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างคำสแลงในภาษาอังกฤษที่เกิดขึ้นเพราะโควิด-19 หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายในเร็ววัน อาจมีคำสแลงใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาให้เราได้เรียนรู้ผ่านความสนุกของภาษากันอีก

 

อ้างอิง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...