“ความรักคืออะไร” เชื่อว่าคำตอบของแต่ละคนน่าจะแตกต่างกันออกไป ด้วยความที่เราอยากได้คำตอบของความรักที่เป็นรูปธรรม เลยไปเจอ TED Talk อยู่เรื่องหนึ่ง ชื่อว่า The brain in love ของ Helen Fisher นักมานุษยวิทยา ที่ศึกษาการทำงานของสมองระหว่างมีความรักและระหว่างอกหัก ซึ่งเธออธิบายความรักไว้ได้ค่อนข้างน่าสนใจ เราเลยอยากเอามาแบ่งปันกัน
ไม่มีชนใด ที่ไร้ซึ่งความรัก
ถ้าใครที่กำลังเจอกับปัญหาความสัมพันธ์ เราอยากจะบอกว่าคุณไม่ใช่คนเดียวที่กำลังเผชิญกับความทุกข์นี้หรอก "โลกใบนี้เต็มไปด้วยความรัก หลายคนทำอะไรมากมายเพราะความรัก หลายคนโศกเศร้าเพราะความรัก หลายคนมีชีวิตอยู่ได้เพราะความรัก และหลายคนยอมทำอะไรบ้าๆ เพราะความรัก บางคนถึงขนาดตายเพราะความรักก็ยอม นักมนุษยวิทยาค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับความรักโรแมนติกในกว่า 170 กลุ่มสังคมทั่วโลก และไม่เคยพบกลุ่มสังคมไหนเลยที่ไม่มีหลักฐานเรื่องความรัก"
เฮเลนเล่าให้ฟังว่า มีงานวิจัยหนึ่งที่ทำโดยกลุ่มนักศึกษา เป็นงานวิจัยที่พวกเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับความรักไว้มากมาย "สองคำถามที่น่าสนใจที่สุดสำหรับฉันคือ คุณเคยถูกปฏิเสธโดยคนที่คุณรักหรือไม่ และคำถามที่สองคือ คุณเคยทิ้งคนที่รักคุณหรือไม่ ซึ่งเกือบ 95 เปอร์เซ็นต์ของทั้งชายและหญิง ตอบว่า เคย ทั้งสองคำถาม" เฮเลนถึงกับสรุปว่า แทบจะไม่มีใครเลยที่รอดพ้นจากความรัก
Romantic love is one of the most powerful sensations on Earth
- Helen Fisher -
สมองที่มีความรัก เหมือนสมองที่กำลังมีความสุขจากโคเคน
ก่อนที่เฮเลนจะทำการศึกษาสมองในตอนอกหัก เธอได้ศึกษาการทำงานของสมองที่กำลังมีความสุขจากความรัก "เราพบกิจกรรมในเซลล์บางกลุ่ม ที่เรียกว่าเซลล์ A10 ซึ่งเป็นเซลล์ที่ผลิตโดปามีน และฉีดพ่นไปยังหลายๆ ส่วนของสมอง Ventral Tegmental Area เป็นส่วนหนึ่งของระบบการให้รางวัลของสมอง ซึ่งอยู่ลึกกว่ากระบวนการคิดอย่างมีเหตุมีผลและอยู่ลึกกว่าอารมณ์ต่างๆ ไปมาก" เธอพูดทิ้งท้ายว่า "กิจกรรมในสมองที่เกิดขึ้นนี้ เป็นแบบเดียวกันกับสมองตอนที่อยู่ในระหว่างเสพโคเคน"
มาถึงตรงนี้แล้ว น่าจะพอเห็นภาพกันแล้วใช่มั้ย ว่าทำไมบางคนถึงยอมทุ่มเทอะไรตั้งมากมายเพื่อความรัก ถึงขนาดที่หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่ยอมเสียรักครั้งนี้ไป ทั้งที่บางทีเนี่ยมันก็ดูไม่เมคเซนส์ในสายตาเราเอาซะเลย ซึ่งถ้าจะบอกว่าความรักก็เหมือนกับสารเสพติดก็คงจะไม่ผิดนัก แต่แค่การลุ่มหลงในความรักมันมีอะไรที่ซับซ้อนกว่าการเมาโคเคนเยอะ
"อย่างน้อยเรายังสร่างเมาจากโคเคนได้ แต่ความรักโรแมนติกเป็นความหมกมุ่น ครอบงำให้เราสูญเสียความเป็นตัวเอง จนเราไม่สามารถหยุดคิดถึงใครอีกคนได้ เหมือนกับว่าเค้าเข้ามาอาศัยอยู่ในหัวเราอย่างไรอย่างนั้น และการถูกครอบงำนี้ก็จะยิ่งเลวร้ายขึ้นเมื่อเราถูกปฏิเสธ" เฮเลนกล่าว
The less my hope, the hotter my love
- Terence, Roman Poet -
สมองที่อกหัก คือสมองที่กำลังลงแดง
เฮเลนเล่ามาถึงโปรเจคต์ล่าสุดที่เธอทำ เกี่ยวกับการสแกนสมองของคนที่เพิ่งจะถูกทิ้งมาหมาดๆ เพื่อดูการทำงานของสมอง "เราพบกิจกรรมในสมองสามส่วน ส่วนแรกเป็นสมองส่วนเดียวกันกับส่วนที่เกี่ยวข้องกับรักโรแมนติก เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะตอนที่เราถูกทิ้ง สิ่งเดียวที่เราอยากทำคือลืมคนๆ นั้นไปซะ แล้วก็มูฟออนสักที แต่มันไม่ใช่เลย เรากลับยิ่งรักเค้ามากขึ้นกว่าเดิมซะอีก"
สมองอีกสองส่วนที่พบความผิดปกติคือ สมองส่วนการคำนวณ ตอนที่เราอกหัก เราจะสูญเสียความสามารถในการคำนวณไป "ไม่ว่าเราจะพยายามไตร่ตรองมากแค่ไหน เราไม่มีทางได้คำตอบเลยว่าทำไมเค้าถึงทิ้งเราไป" และส่วนสุดท้ายคือส่วนของความผูกพัน สิ่งนี้แหละที่อธิบายว่าทำไมคนทั่วโลกถึงจมอยู่กับความทุกข์ "เมื่อถูกปฏิเสธ เราไม่เพียงถูกกลืนด้วยความรักเท่านั้น เรายังกลับรู้สึกผูกพันลึกซึ้งกับคนๆ นั้นมากขึ้นไปอีก"
Romantic love is one of the most addictive substances on Earth
- Helen Fisher -
สมองในตอนที่มีความรัก ก็เหมือนกับสมองที่กำลังได้รับรางวัล แต่เมื่อใดที่ความรักนั้นหายไป สมองที่เคยได้รับรางวัลอยู่ทุกวัน จะยิ่งทำงานหนักมากขึ้น เพื่อให้มันได้สิ่งที่มันเคยได้กลับมา จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงสามารถทำอะไรบ้าๆ เพราะความรัก จะว่าเป็นอาการเดียวกับการลงแดงเวลาขาดสารเสพติดก็ไม่ปาน ถ้าให้มองย้อนกลับไป เชื่อว่าหลายคนน่าจะต้องขำกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำเมื่อครั้งอกหักในอดีต และคิดในใจว่า ทำไมตอนนั้นเราถึงทำอะไรแบบนั้นนะ
ใครที่อยากเข้าใจสมอง ความรัก และอาการอกหักแบบทะลุปรุโปร่งมากขึ้น ลองตามไปฟัง TED Talk เรื่องนี้ดูนะ
" Romantic love is an addiction:
a perfectly wonderful addiction when it's going well,
and a perfectly horrible addiction when it's going poorly "
ความเห็น 0