โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

น้ำคาวปลาหลังคลอด แม่มือใหม่ควรรู้ แบบไหนผิดปกติ

Motherhood.co.th

เผยแพร่ 18 ก.พ. 2563 เวลา 08.05 น. • Motherhood.co.th Blog

น้ำคาวปลาหลังคลอด แม่มือใหม่ควรรู้ แบบไหนผิดปกติ

สำหรับคุณแม่มือใหม่ ในการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งแรกย่อมมีอะไรให้กังวลและเรียนรู้มากมาย เรื่องของ "น้ำคาวปลาหลังคลอด" ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน วันนี้ Motherhood จะพาคุณแม่ไปทำความรู้จักน้ำคาวปลา พร้อมทั้งเรียนรู้ที่จะสังเกตดูหากอะไรสิ่งใดผิดปกติ

น้ำคาวปลาคืออะไร?

น้ำคาวปลา (Lochia) คือ ของเหลวชนิดหนุ่งที่ถูกขับออกมาทางช่องคลอดหลังจากคลอดลูก  จากแผลภายในโพรงมดลูกบริเวณที่รกเคยเกาะอยู่ มีลักษณะคล้ายกับประจำเดือน โดยมีส่วนประกอบคือ เลือด น้ำเหลือง น้ำคร่ำหรือขี้เถ้า น้ำหล่อลื่น เศษเนื้อเยื่อหรือเยื่อบุโพรงมดลูก เศษรก เศษไขที่ติดตามเนื้อตัวของลูก เม็ดเลือดขาว และไขมันที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในตัวของแม่ ในบางครั้งอาจมีกลิ่นเหม็นอับ ซึ่งลักษณะและสีของน้ำคาวปลาอาจแตกต่างกันไปตามสภาพของแผลที่มีการซ่อมแซมในช่วงวันหลังคลอด ดังนี้

น้ำคาวปลาตามช่วงวัน

ในช่วงแรก น้ำคาวปลาส่วนใหญ่อาจมีลักษณะคล้ายเลือด แต่หลังจากนั้น 3-4 วัน หรือ 1 สัปดาห์ขึ้นไปอาจเริ่มเปลี่ยนไปมีลักษณะคล้ายเมือกแทน โดยภายในช่วง 24 ชั่วโมงหลังคลอด แม่ที่คลอดแบบธรรมชาติจะมีน้ำคาวปลาออกมามากกว่าแม่ที่คลอดด้วยวิธีผ่าคลอด

เป็นสิ่งที่ปกติหรือไม่?

การมีน้ำคาวปลาถือเป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติหลังคลอดของผู้หญิงซึ่งนับเป็นเรื่องปกติ โดยในช่วงวันแรก ๆ หลังคลอดอาจมีน้ำคาวปลาในลักษณะคล้ายเลือดออกมาค่อนข้างมาก เพราะในช่วงที่ตั้งครรภ์ ปริมาณเลือดในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสูญเสียเลือดตอนคลอด

แบบไหนที่ผิดปกติ?

น้ำคาวปลาลักษณะดังต่อไปนี้หมายถึงเกิดอาการผิดปกติ หากมีแล้วควรรีบไปพบแพทย์ทันที

  • น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นเน่า พร้อมกับมีอาการปวดมดลูกมาก อาจมีไข้ร่วมด้วย ซึ่งแสดงถึงการติดเชื้อ
  • น้ำคาวปลามีปริมาณมาก แม้จะสวมใส่ผ้าอนามัยรองรับไว้ก็ยังต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1 ชั่วโมง ส่วนการมีสีแดงสด มีก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดออกมา จะเป็นภาวะเลือดออกผิดปกติหลังคลอด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการรับประทานยาขับเลือด การมีชิ้นส่วนรกติดค้างอยู่ในมดลูก การติดเชื้อในเยื่อบุโพรงมดลูก ความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น
  • น้ำคาวปลาที่จางไปแล้วในตอนแรกกลับมามีสีแดงสดอีกครั้งตลอด 4 วันหลังคลอดหรือนานกว่านั้น และอาการไม่ดีขึ้นแม้นอนหรือพักผ่อนแล้ว
  • มีน้ำคาวปลาออกมาก ร่วมกับมีอาการไข้ วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว
หากมีนานเกิน 4-6 สัปดาห์หลังคลอด เป็นสัญญาณความผิดปกติ

ควรดูแลตัวเองอย่างไร?

ในช่วงที่มีน้ำคาวปลา คุณแม่หลังคลอดควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

  • รักษาความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และดูแลอวัยวะเพศให้สะอาดอยู่เสมอ แต่ไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่ในบริเวณนี้
  • หากมีแผลฝีเย็บ ควรดูแลบริเวณดังกล่าวเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ใช้ผ้าอนามัยชนิดใหญ่พิเศษของโรงพยาบาลที่เหมาะสำหรับผู้หญิงหลังคลอด และจัดเตรียมไว้เผื่อใช้ในปริมาณมาก เพราะในช่วงแรกจะมีน้ำคาวปลาลักษณะคล้ายเลือดไหลออกมาค่อนข้างมาก
  • ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมม อับชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมเชื้อโรคต่าง ๆ ได้
  • ล้างมือให้สะอาดก่อนเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
  • ห้ามใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือถ้วยอนามัยจนกว่าจะถึงเวลานัดตรวจหลังคลอด 6 สัปดาห์ เพราะช่องคลอดและมดลูกอาจยังไม่ฟื้นตัวหรือหายดี ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
  • ไม่แช่อ่างน้ำหรือว่ายน้ำ เนื่องจากปากมดลูกยังเปิดอยู่ อาจทำให้มีน้ำเข้าไปในโพรงมดลูก ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  • ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงหลังคลอด อย่างน้อย 3 เดือน
  • ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่ควรใส่กางเกงรัดรูป เพราะอาจทำให้เกิดการอับชื้นสะสมได้
  • หลีกเลี่ยงการทำงานหนักและยกของหนัก
  • เลือกรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อบำรุงร่างกายที่มีการเสียเลือดในปริมาณมาก
  • ดื่มน้ำสะอาดให้มากเข้าไว้ และนอนพักผ่อนมาก ๆ
ควรเตรียมซื้อผ้าอนามัยมาใช้ให้เหมาะสม

เมื่อไหร่น้ำคาวปลาจะหมด?

น้ำคาวปลาควรลดน้อยลงภายใน 2-3 สัปดาห์ และหมดไปภายใน 4-6 สัปดาห์หลังคลอด แต่อาจมีปัจจัยบางอย่างทำให้น้ำคาวปลาถูกขับออกมามากกว่าปกติในบางช่วง เช่น

  • ขณะให้นมลูก เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) ออกมา ซึ่งอาจช่วยเร่งการรักษาและกระตุ้นการหดตัวของมดลูก
  • ตื่นนอนตอนเช้า
  • ออกกำลังกาย
  • ขณะขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระ

ทั้งนี้ คุณแม่อาจพบลิ่มเลือดเป็นก้อนขนาดเล็กกว่าลูกกอล์ฟปะปนออกมากับน้ำคาวปลา ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่ก็ควรระวังและสังเกตอาการตนเองอยู่ตลอดเวลา เพราะความผิดปกติต่าง ๆ ของน้ำคาวปลา อาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดอย่างการตกเลือดหรือการติดเชื้อได้

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...