สำหรับใครที่อ่าน รวบครบจบที่นี่! มหากาพย์ข่าวบันเทิงประจำปี 2563 ตอนที่ 1 แล้ว บอกได้เลยว่าประเด็นร้อน ๆ ของข่าวบันเทิงในปี 2563 ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะดรามาเป็นขบวน LINE TODAY ได้รวบรวมไว้แล้วที่นี่
ม้า อรนภา” ตกงานเพราะคอมเมนต์
การเมืองเป็นเรื่องของทุกจริง ๆ เมื่อ “ม้า อรนภา” ไปคอมเมนต์เรื่องการออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา ว่า "นอนแหกXXอยู่บ้านไป ไม่ต้องมาเรียน เด็กเปรต" จนกลายเป็นประเด็นบนโซเชียลอยู่หลายวัน โดยทุกฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการคอมเมนต์ที่รุนแรงมาโดยตลอดของ “ม้า อรนภา” แต่ครั้งนี้ถือว่าทั้งรุนแรงและหยาบคาย จนทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้แบนสินค้าที่สนับสนุนรายการที่ “ม้า อรนภา” เป็นพิธีกร รวมถึงแบนทุกรายการที่ “ม้า อรนภา” ทำหน้าที่พิธีกรอยู่
หลังจากกระแสดังกล่าว “หนุ่ม กรรชัย” พิธีกรร่วมในรายการ “ข่าวใส่ไข่” ได้ชี้แจงกลางรายการว่า ต่อไปนี้ “ม้า อรนภา” จะไม่ได้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการอีก ซึ่งหลังจากทราบข่าวก็มีแฟนคลับจำนวนหนึ่งเข้าไปให้กำลังใจในไอจี โดย “ม้า” ได้ตอบคอมเมนต์หนึ่งที่บอกว่ารู้สึกใจหาย จะรอดูในรายการสามแซ่บว่า “ก็ไม่รู้ว่าจะไม่ได้ไปอีกหรือเปล่า”
จากนั้นไม่กี่วัน เพจเฟซบุ๊ก Polyplus Entertainment ได้โพสต์ประกาศแจ้งว่าเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ม้า อรนภา” มีความไม่สบายใจและไม่สะดวกใจ จึงขอหยุดการทำหน้าที่พิธีกรในรายการ 3 แซ่บ ซึ่งหลังจาก “ม้า อรนภา” หลุดจากการเป็นพิธีกรทั้งสองรายการก็มีหลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หรือแถลงข่าวใด ๆ แต่เป็น “มดดำ คชาภา” น้องคนสนิทที่ได้คุยกับ “ม้า อรนภา” และนำคำพูดของเจ้าตัวมาพูดในรายการ “แฉ” ว่า “ฉันเข้าใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับฉัน มดดำ ฉันรู้แค่ว่าหลังจากนี้จะต้องทำอย่างไร ฉันไม่อยากเป็นคนตกงาน ฉันรู้ว่าจะเกิดขึ้น แต่ไม่คิดว่าจะแรงขนาดนี้”
ไฮโซแชมป์ x ความสัมพันธ์น้ำหวาน x ทะเลาะวิวาทรัศมีแข
A post shared by Namwan Raknapak Wongtanatat (@namwan_raknapak)
ประเด็นร้อน ๆ ของไฮโซแชมป์ หรือ แชมป์ จิรัฏฐ์ ที่เริ่มต้นเป็นข่าวจากการมีความสัมพันธ์กับดาราสาว “น้ำหวาน เดอะเฟซ” ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำหวานนั้นมีประเด็นเรื่องหย่ากับสามี ดร.ณัฐวุฒิ โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ฝ่ายชายได้โพสต์ลงอินสตาแกรมว่าโดนแย่งแฟน จนชาวเน็ตสืบสาวราวเรื่องได้พบว่า น้ำหวานนั้นได้ซุ่มปลูกต้นรักกับไฮโซแชมป์อยู่นั่นเอง จึงกลายเป็นมหากาพย์วาทกรรมบนโลกออนไลน์อยู่พักใหญ่ จนท้ายที่สุดสาวน้ำหวานก็เปิดตัวว่าคบไฮโซแชมป์อยู่จริง ๆ
และหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ก็มีประเด็นว่าไฮโซแชมป์นั้นได้ทำร้ายร่างกายรัศมีแข โดยมีสาเหตุมาจากความหึงหวงน้ำหวาน จึงนำขวดไปตี รัศมีแข ที่กำลังจะเข้ามาทักทายน้ำหวานในสถานบันเทิงในฐานะคนรู้จักกัน หลังเกิดเหตุการณ์รัศมีแขจึงเดินทางไปแจ้งความ และตามมาด้วยการเปิดโต๊ะแถลง จนทำให้เกิดแฮชแท็ก #SAVEรัศมีแข ขึ้น
มหากาพย์ ซาร่า - ไมค์ ชิงสิทธิการเลี้ยงลูก
เรื่องราวความสัมพันธ์ของนักร้องชื่อดังอย่าง ไมค์ พิรัชต์ กับ นางแบบสาว ซาร่า คาซิงกินี ถือว่าเป็นมหากาพย์เลยทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ทุกคนคงจะทราบกันว่าไมค์ได้มีความสัมพันธ์กับซาร่า จนให้กำเนิดลูกชายอย่างน้อง แม็กซ์เวลล์ โดยความรับรู้ของสังคมก็คือ ซาร่านั้นรับหน้าที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูกชายมาคนเดียวตลอด จนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไมค์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อที่จะขอสิทธิในการเลี้ยงดูบุตร โดยคำร้องแรกเป็นการขอปกครองบุตรร่วมกับซาร่า หลังจากไมค์ได้เดินหน้าไปยื่นคำร้อง ซาร่าก็ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าจะไม่ยอมให้ใครมาพรากลูกไป จึงเกิดเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ โดยในตอนแรกนั้นไมค์เป็นฝ่ายที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะที่ผ่านมาผู้คนจะรับรู้ว่าซาร่านั้นเลี้ยงลูกมาคนเดียวตลอด
หลังจากนั้นไมค์ก็ได้ออกมาชี้แจงว่าทำไมตนถึงเดินทางไปยื่นคำร้องสิทธิดังกล่าว เหตุเกิดเพราะว่าเขาไม่ได้พบลูกมา เพราะถูกกีดกันจากซาร่าไม่ได้ให้เจอกับลูก ตามมาด้วยซาร่าได้ไปออกรายการหนึ่งเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยชี้แจงว่าเหตุผลที่พาลูกหนีกลับบ้านที่ภูเก็ตนั้น เพราะว่าไมค์มาขอลดคุณภาพชีวิตลูก ด้วยการขอย้ายโรงเรียน ลดค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการจะให้ย้ายออกจากคอนโดที่เคยอยู่ โดยให้เหตุผลว่าได้รับผลกระทบจากโควิด19 เพราะขาดรายได้เรื่องงานจึงขอลดค่าใช้จ่าย และยืนยันว่าตนนั้นไม่ได้กีดกันการพบกันของพ่อ-ลูก
ทางไมค์ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ยอมรับว่าลดค่าใช้จ่ายจริง พร้อมเปิดหลักฐานทางการเงินและรายละเอียดเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกชาย และอีกเหตุผลที่ให้ย้ายออกจากคอนโดเพราะพบว่ามีคนอื่นมาอาศัยอยู่ในห้อง ตามด้วยข้อเรียกร้องของซาร่าต่อไมค์ ซึ่งหลังจากได้เปิดเผยออกไป ชาวเน็ตก็ก่อทัวร์ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ซาร่าอย่างมากมาย จึงกลายเป็นว่าภาพลักษณ์แม่เลี้ยงเดี่ยวของซาร่านั้นได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมด้วย
เวลาต่อมา ซาร่าได้ออกมาแถลงข่าวอีกครั้ง พร้อมยอมรับทั้งในเรื่องข้อเสนอว่าได้เรียกร้องแบบนั้นจริง ๆ แต่ทำไปด้วยเพราะความโกรธ รวมไปถึงยอมรับว่ามีลูกสาวเพิ่มอีกหนึ่งคนจากแฟนใหม่ รวมไปถึงโต้แย้งว่าไม่เคยสอนลูกให้เกลียดไมค์แต่อย่างใด และเรื่องราวจบลงที่ไมค์นั้นได้ถอดคำฟ้อง เพราะไม่อยากให้ลูกชายตนเองเจ็บปวดกับกระแสข่าวนี้เวลาที่เขาโตขึ้นมาแล้ว รวมไปถึงยังยืนยันจะเก็บเงินไว้เพื่อลูก
ดราม่าเวทีประกวดนางงาม
ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เรียกได้ว่าเวทีประกวดนางงามนั้นร้อนแรงมาก ๆ เพราะนอกจากการประกวดที่เข้มข้นแล้วนั้น ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ทำให้แฟน ๆ แทบไม่ได้ เพราะต้องสแตนบายรอดรามากันตลอดเวลา ทำเอาแฟน ๆ นางงามอดหลับอดนอนกันเลยทีเดียว เรื่องเก่ายังไม่ทันเคลียร์ ก็มีอีกเรื่องมาให้ตามสืบตามติดกันรัว ๆ
เริ่มต้นจากเวที Miss Grand Thailand ที่ปีนี้ดูจะเข้มข้น เพราะการประกวดเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การเมืองไทยค่อนข้างที่จะร้อนแรง จึงเป็นที่มาของการออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองของสาวงาม อย่างที่ทราบกันดีว่า คนสาธารณะของประเทศไทยนั้นมีเส้นบาง ๆ ว่าควรจะเป็นกลาง แต่ในสถานการณ์บ้านเมืองที่การเมืองเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้คนให้ความสนใจแล้ว แม้จะเป็นดารา นักร้อง หรือนางงาม ก็มีสิทธิที่จะแสดงออกจุดยืนทางการเมืองของตัวเองเช่นกัน และ “น้ำ พัชรพร” สาวงามเจ้าของตำแหน่ง Miss Grand Thailand 2020 เป็นหนึง่ในนั้น เธอเป็นหญิงสาวที่ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองตั้งแต่ตอนประกวด จนได้ตำแหน่ง จึงทำให้เธอต้องรับมือกับกระแสที่ถูกผู้มีจุดยืนแตกต่างกันเข้าไปด่าทอ บุลลี่ แต่สาวน้ำนั้นก็สตรอง และคิดบวก ไม่ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด
ตามด้วยเรื่องราวจากเวที Miss Universe Thailand ที่มีประเด็นทั้งปีเก่าปีใหม่ เริ่มต้นจากประเด็นสะเทือนเวทีในปี 2020 เมื่อผู้เข้าประกวดสายสปีชอย่าง เฌอเอม หนึ่งในผู้เข้าประกวดที่ผู้คนจบตามอง เพราะความโดดเด่นในการตอบคำถามของเธอ แต่แล้วก็เกิดดรามา เพราะมีมือดีปล่อยแชตหลุดว่าผู้ดูแลของเธอนั้นเป็นหนึ่งในทีมงานกองประกวด ทำให้ผู้คนเกิดข้อสงสัยว่าที่เธอตอบคำถามได้เป๊ะปังถูกใจประชาชนนั้นมาจากการได้เปรียบหรือเปล่า
เมื่อเกิดเรื่องราว ปฏิกริยาแรกของทางกองประกวดก็ไม่ได้เอ่ยปากตรง ๆ ว่าให้เฌอเอมออกจากกอง แต่อยากให้ตัวนางงามนั้นสมัครใจลาออกเอง จึงเกิดเป็นเหตุการณ์แถลงข่าวจากตัวเฌอเอมที่ออกมาเคลียร์เรื่องราวว่าเป็นมาอย่างไร ตามด้วยกองประกวดก็แถลงเช่นกัน ผลก็คือเฌอเอมได้ลาออกจากการประกวด แม้ว่าเหตุการณ์อาจจะไม่สามารถฟันธงได้ว่าใครถูกหรือผิด เฌอเอมได้เอาเปรียบผู้เข้าประกวดคนอื่นหรือไม่ แต่เชื่อว่าตอนนี้เฌอเอมก็ได้พิสูจน์ตัวเองผ่านการออกสื่อแสดงทัศนคติต่าง ๆ ของเธอ ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่แฟน ๆ จะต้องตัดสินกันเอาเอง
อีกประเด็นที่เกิดขึ้นก็คือกรณีมงกุฎของ ฟ้าใส ปวีณสุดา เจ้าของตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2019 ตัวแทนของประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ที่พาประเทศได้เข้าไปถึง TOP5 บนเวที Miss Universe แต่ก็เกิดดรามาเมื่อวันอำลาตำแหน่งนั้น ฟ้าใสไม่ได้สวมมงกุฎประจำตำแหน่ง จึงกลายเป็นที่สงสัยของแฟน ๆ ว่ามงหายไปไหน จนสืบสาวราวเรื่อง รวมกับทางเวทีประกวด และฟ้าใสได้ออกมาแถลง จึงพบว่า ฟ้าใสกับกอง มีความไม่ลงรอยกัน มีปัญหาเรื่องสัญญาเช่นเดียวกัน แต่หลังจากเคลียร์กันแล้ว ผลก็คือฟ้าใสได้มงคืนตามสัญญา และมีการจัดมีตติ้งกับแฟนคลับด้วยในเวลาไล่เรี่ยกัน
ปิดท้ายด้วยเวที Miss Tiffany Thailand 2020 ที่ประกวดกันไป และได้สาวงามคนใหม่อย่าง “ร็อก ขวัญลดา” อดีตนางรองที่กลับมาลงประกวดอีกครั้ง และได้ตำแหน่งไปครอบครองในที่สุด แต่ด้วยความที่ปีนี้เวที Miss Tiffany ได้ยกระดับ พร้อมีคอนเซปNext Level นางงามต้องมีมากกว่าความสวย ต้องเป็นกระบอกเสียงให้กับสังคม ฯลฯ จึงเกิดความคาดหวังจากแฟน ๆ และเรื่องราวดรามาก็ได้เกิดขึ้นเมื่อร็อกได้ไปให้สัมภาษณ์กับรายการหนึ่ง เมื่อเจอคำถามเกี่ยวกับประเด็นสังคมแต่เธอกลับตอบไม่ได้ จึงเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอนั้นมีแต่ความสวย แต่อย่างไรก็ตามเธอยังมีเวลาพัฒนาศักยภาพต่อไปเช่นเดียวกัน
คนดัง x การแสดงออกจุดยืนทางการเมือง
อย่างที่ทราบกันดีว่าปีนี้นั้นประเด็นทางการเมืองนั้นร้อนระอุเป็นอย่างมาก เมื่อเกิดความเคลื่อนไหวของสังคมเพื่อเรียกร้องอะไรบางอย่าง คนดังก็จะถูกจับจ้องเช่นเดียวกัน เพราะด้วยเงื่อนไขการมีเสียงที่ดังกว่าคนอื่น จึงเกิดเป็นประเด็นเรียกร้องให้ดาราออกมาสนับสนุนฝั่งประชาธิปไตยจากชาวเน็ต โดยเฉพาะดาราที่เป็นตัวท็อปของประเทศจะถูกกดดันมากเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น ลิซ่า / แบมแบม / นิชคุณ ฯลฯ (จนเกิดกระแสแบนแทกุกไลน์ (คนไทยในวงการเคป็อป) เลยทีเดียว เป๊ก ผลิตโชค , แก้ม วิชญาณี หรืออื่น ๆ อีกมากมาย
ในอีกด้านหนึ่งก็มีดาราที่ออกตัวแสดงจุดยืนสนับสนุนประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มาก่อนกาล (ก่อนเกิดการเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการของกลุ่มประชาชนปลดแอก) อย่าง ทราย เจริญปุระ ,ฟลุ๊ค เดอะสตาร์ ,ใบเฟิร์น อัญชสา เป็นต้น ตามมาด้วยวงการเพลงที่นอกจากการการไม่สนับสนุนเผด็จการแล้ว ยังมีการหาหนทางในการแสดงออกจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นในผับบาร์ที่ตนเองแสดง หรือว่างานอย่าง Big Mountain ที่มีการแสดงออกเชิงสัญญะเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางการเมืองอีกด้วย
กิจกรรมทางการเมืองยังดำเนินต่อไป แม้จะเป็นคนดัง ดารา หรืออะไรก็ตาม ทุกคนล้วนมีสิทธิที่จะแสดงออกจุดยืนทางการเมืองของตนเอง
//////////////////////
เป็นอย่างไรบ้างกับข่าวบันเทิงเด่นดังในปี 2563 อย่าลืมอ่าน รวบครบจบที่นี่! มหากาพย์ข่าวบันเทิงประจำปี 2563 ตอนที่ 1