โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

รวบครบจบที่นี่! มหากาพย์ข่าวบันเทิงประจำปี 2563 (ตอนที่ 1)

LINE TODAY

เผยแพร่ 28 ธ.ค. 2563 เวลา 04.42 น. • LINE TODAY TEAM

เป็นปีที่ร้อนแรงในหลากหลายประเด็นเลยทีเดียว สำหรับปี 2563 วงการบันเทิงของเราก็ไม่น้อยหน้ายกพาเหรดเรื่องราวต่าง ๆ มากเป็นระยะ ๆ ไม่ขาดสาย ตามไปดูกันว่ามีอะไรเกิดขึ้นในปีนี้บ้าง LINE TODAY ได้รวบยอดสรุปไว้ให้ทุกคนแล้ว และนี่เป็นเพียงแค่ครึ่งแรกเท่านั้น ตามไปอ่านกันได้เลย!

#เมียหลวงลวงสังหาร คัมแบ็ก

View this post on Instagram

A post shared by Sanchai Engtrakul (@pegliyah)

พีกที่สุดในปีนี้ขอยกให้ดราม่าหนัก ๆ ขององค์แม่ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ที่อยู่ดี ๆ ก็มีสาวปริศนาทักมาพูดคุยกับ “น้องลียา” ลูกสาวสุดที่รักของเธอ ซึ่งข้อความที่ทักมาดูแปลก ๆ เหมือนมีอะไรแอบแฝง ทำเอา “ธัญญ่า” เดือดหนักจนต้องโพสต์ในเฟซบุ๊กพร้อมแคปชั่น “องค์แม่ไม่ได้ลงซะนาน..ยุ่งกับลียา คิดว่าจะรอดมั้ย” พร้อมตอบคอมเมนต์คนที่มาทักด้วยว่า “ยุ่งกับพี่ยังพอทน แต่มายุ่งกับลูกคือมึงตาย !!!” พร้อมการโชว์เชือดนิ่ม ๆ ด้วยการปรึกษา “ทนายเจมส์” เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการคุกคามเด็กทางโซเชียล โดยทนายทิ้งท้ายว่าตอนนี้ระบุตัวตนคนที่ส่งข้อความมาได้แล้ว แต่รอ “ธัญญ่า” ตัดสินใจอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไร

ทำเอาชาวเน็ตอดรนทนไม่ไหว ขุดกันว่าสาวปริศนาคนนั้นคือใคร และได้โยงไปถึง “อิงอิง อิงณภัสร์” ซึ่งเธอได้ออกมาชี้แจงกับชาวเน็ตว่า บริสุทธิ์ใจพอ ไม่มีประโยคไหนที่คุกคาม แต่สุดท้ายก็ทนกระแสถล่มไม่ไหว เธอได้ลงรูปพร้อมโพสต์ข้อความ nonsense (ไร้สาระ) ชาวเน็ตก็ยังแห่เข้าไปถามให้เจ้าตัวชี้แจงความจริง เจ้าตัวสวนกลับอย่าอินกับแคปชั่น สติค่ะ

จากนั้น “ธัญญ่า” ออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่ารู้เรื่องนี้มาประมาณ 3 ปีแล้ว เขาอยู่ในสถานะที่รับรู้มาตลอด แต่เรื่องมันเกิดเพราะว่าเขาอยู่ในจุดที่เขาควรจะอยู่ไม่เป็น แล้วมายุ่งกับลูก ก็เลยทนไม่ไหว ซึ่งเรื่องนี้ได้คุยกับสามีแล้วให้ไปจัดการและเคลียร์ให้เรียบร้อย แต่เหมือนทุกอย่างจะไม่เคลียร์ก็เลยต้องออกมาจัดการเอง

ที่ผ่านมา “ธัญญ่า” บอกว่ารู้มาตลอดว่าสามีมีผู้หญิงหลายคน แต่ทุกคนอยู่เป็น เข้าใจสถานะของตัวเอง แต่กับคนนี้เขาอยู่ไม่เป็นแล้วพยายามก่อกวนเราและลูก ก็เลยต้องจัดการเรื่องนี้ในแบบของเราเอง ส่วนเรื่องคดีความถ้าน้องเขาออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และออกมาบอกว่าจะไม่ยุ่งกับเราและลูก ก็จะให้อภัย และจบเรื่องนี้ พร้อมฝากถึงน้องคนดังกล่าวด้วยว่า "อย่าไปทำแบบนี้กับครอบครัวไหน น้องควรอยู่ให้เป็น จะได้มีเงินมากกว่านี้" พร้อมยืนยันว่าผู้หญิงที่ตอนนี้ชาวเน็ตพุ่งเป้าไปคือคนที่กำลังมีปัญหากันจริง

View this post on Instagram

A post shared by INGNAPAT O. (@ing_ingnapat)

ด้าน “อิงอิง” หลังจากที่ธัญญ่าออกมาให้สัมภาษณ์ ก็มีทวิตเตอร์ที่คาดว่าจะเป็นของ “อิงอิง” โพสต์ข้อความว่า “อายุเยอะ มาดน่าเชื่อถือ ไม่ได้แปลว่าจะพูดความจริง เฮ้ออออออ อ่านข่าวแล้วอยากพูดเรื่องจริงบ้างจัง แต่ขออยู่เงียบ ๆ ก่อน” ส่วนคุณแม่ของน้องอิงก็ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ต้องขอดูก่อนว่าเหตุเกิดจากอะไร แรกเริ่มเป็นยังไง ตนถามลูกแล้วแต่ลูกไม่ตอบ แต่จะเป็นยังไงก็ให้เป็นอย่างนั้น ถึงยังไงลูกก็คือลูก ลูกใครใครก็รัก ตนทำงานหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียวมาตั้งแต่แรก ไม่มีเวลามานั่งเฝ้าลูก 24 ชม. คนที่มารุมถล่มว่าตน ให้เอาเวลาไปดูแลครอบครัว ดูแลลูกตัวเองให้ดีเถอะ อย่าให้เป็นเหมือนลูกตนก็แล้วกัน

หลังจากนั้น “ทนายเจมส์” ที่ปรึกษาด้านคดีของ “ธัญญ่า” และ “เป๊ก สัณณ์ชัย” ก็ได้ออกมาโพสต์ภาพคู่ “เป๊ก” พร้อมข้อความที่บอกถึงข้อสรุปเรื่องนี้ไว้ว่า "'มายุ่งกับเมียที่เคารพ คบไม่ได้' พี่ชายท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ แสวงหาความสุขจากสิ่งที่มี ดีกว่าแสวงหาความสุขจากสิ่งที่ขาด พี่เป๊กและพี่ธัญญ่า แก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ยอมยุติทุกเรื่องที่อาจจะมีผลกระทบต่อจิตใจลูก และเห็นแก่ประโยชน์ของลูกเป็นสำคัญอันดับหนึ่ง 'อยู่ให้เป็น เย็นให้ได้' #คนดูแลสามี2020" งานนี้ทำเอาแฟน ๆ ต่างก็โล่งอก พร้อมกับเข้ามาอวยพรให้ทั้งคู่ต่างดูแลลูกและนึกถึงจิตใจลูกมาก ๆ

ระหว่างนั้น “อิงอิง” ก็ยังโพสต์ข้อความและรูปลงในโซเชียลส่วนตัวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ทำเอาในช่วงนั้นมีข่าวเกี่ยวกับเธอออกมาไม่เว้นแต่ละวัน โดย “ธัญญ่า” เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่าที่น้องเขายังโพสต์เรื่อย ๆ ก็ต้องปล่อยเขาไป เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขา ถ้าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ และไม่ได้คุกคามหรือล้ำเส้น “ธัญญ่า” และลูกก็ไม่ได้ใส่ใจ ส่วนเรื่องคดี ถ้าหลังจากนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มายุ่งกันอีก ก็โอเค ในส่วนของธัญญ่าก็ถือว่าจบ ได้พูดในสิ่งที่ไม่โอเคไปแล้ว และกับสามีก็ไม่ได้ทะเลาะกัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ “ธัญญ่า” จะจบด้วยการไม่มายุ่งกันอีก แต่ด้าน “อิงอิง” ก็ยังโพสต์พาดพิงถึง “เป๊ก” และครอบครัวตลอด ซึ่ง “ธัญญ่า” ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้คิดหรือมีปัญหาอะไร เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น เคลียร์ไปหมดแล้ว ซึ่งสามีจะรู้ว่าอะไรที่ทำให้ “ธัญญ่า” ไม่สบายใจและไม่โอเค

เป็นอันว่าจบเรื่องราว #เมียหลวงลวงสังหาร คัมแบ็กที่กลับมาพีกอีกครั้งไปแบบหายข้องใจ ด้าน “อิงอิง” ก็กลายเป็นคนในข่าวไปเรียบร้อย ล่าสุดเดินหน้าฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดที่ไม่ยอมจบกับดราม่าที่เกิดขึ้น เข้าไปคอมเมนต์หยาบคาบกับ “อิงอิง” ทุกช่องทาง ซึ่งเธอบอกเลยว่าไม่ได้ขู่ ให้เตรียมเงินค่าเสียหายรอไว้เลย แม้จะมีเกรียนสำนึกผิด ขอโทษไปหลายราย แต่ “อิงอิง” ก็บอกว่า “ยกโทษให้ แต่ไม่ยกเลิกการฟ้อง ทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับสิ่งนั้น”

‘ศรราม-ติ๊ก’ บ้านแตกเพราะหนี้พนันออนไลน์

View this post on Instagram

A post shared by sornram_theappitak (@sornram_theappitak)

ส่วนคู่ของ “หนุ่ม ศรราม” กับ “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ก็ดราม่าหนักหน่วงไม่แพ้กัน หลังจากแต่งงาน มีลูกสาว “น้องวีจิ” ด้วยกันก็ดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นดี แต่กลับมีกระแสข่าวเมาท์ออกมาเรื่อย ๆ ว่าทั้งคู่เลิกกันแล้ว จนกระทั่งความจริงปรากฏเมื่อ “หนุ่ม ศรราม” โพสต์รูปใบหย่าผ่านไอจีส่วนตัว พร้อมแคปชั่นว่าทั้งคู่ได้หย่าขาดจากกันตั้งแต่เดือนมกราคม และหากจะติดต่อ “ติ๊ก” ให้ติดต่อกับเจ้าตัวโดยตรง ไม่ต้องมาที่บ้านเพราะติ๊กไม่ได้พักอยู่ที่นี่แล้ว กลายเป็นว่าใบหย่าที่ “ติ๊ก” พูดมาตลอดว่าหย่าแก้เคล็ดคือการหย่าร้างกันจริง ๆ

หลังจากนั้น “หนุ่ม ศรราม” ได้โพสต์คลิปเสียงที่ตัวเขาโทรศัพท์ติดต่อไปที่ผู้จ้างงานรายหนึ่งเพื่อทวงถามเรื่องเงินค่าจ้าง ที่ยังไม่ได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน แต่ก็ได้รับคำตอบสุดเซอร์ไพรส์เมื่อทางผู้จ้างแจ้งว่าได้โอนเงินค่าจ้างส่วนหนึ่งดังกล่าวไปให้ทางภรรยา หรือ “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” แล้ว เนื่องจากฝ่ายหญิงบอกทีมงานไปว่าจะเป็นผู้รับเงินก้อนนี้ไว้เองและจะไปบอก “หนุ่ม ศรราม” ให้เอง แต่ตัวเขากลับไม่รู้เรื่องการโอนเงินดังกล่าว ทำให้ “หนุ่ม-ศรราม” ตัดสินใจเด็ดขาดให้ “ติ๊ก” ออกจากบ้าน

ระหว่างนั้นทั้งคู่ก็ตอบโต้กันผ่านไอจีและคอมเมนต์แฉกันรัว ๆ ที่เดือดสุดก็คือเมื่อ “หนุ่ม ศรราม” ตอบคอมเมนต์ "มอส ปฏิภาณ" ที่เข้ามาให้กำลังใจว่า แม้แต่ทองที่คนรับขวัญน้องวีจิก็หมดไปแล้ว ส่วนล็อกเก็ตทองคำรูปน้องวีจิที่มอสสั่งทำให้นั้น โชคดีที่มีคนซื้อไว้และเอามาคืนให้ จนกระทั่ง “ติ๊ก” มาคอมเมนต์ว่า "ระวังความหายนะกลับไปหาตัวพี่เอง ถ้าไม่หยุด เดี๋ยวสังคมจะรู้ว่าเล่นบทบาทรักเมียรักลูกมากจะเป็นยังไง"

View this post on Instagram

A post shared by @mama.veeji

ท่ามกลางกระแสฮือฮาถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "โหนกระแส" ในประเด็นร้อนแรงดังกล่าว โดยในรายการเธอได้ยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไป และยังยอมรับว่าตนเองติด "พนันออนไลน์" จนทำให้เป็นหนี้จำนวนมากและเป็นสาเหตุให้ครอบครัวพัง และต้องหย่า พร้อมย้อนเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามีหนี้สินก่อนแต่งงาน ซึ่งช่วงแรก ๆ "หนุ่ม ศรราม" ก็ช่วยเหลือเคลียร์หนี้ให้มาโดยตลอด และที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่องที่เธอขายหน้ากากอนามัยในช่วงโควิด-19 แต่ไม่ได้ส่งสินค้าให้คนซื้อ ทำให้ “หนุ่ม ศรราม” ต้องช่วยเคลียร์ปัญหาให้และต้องชดใช้ไปถึง 9 แสนบาท เรื่องราวถึงจะจบลง แต่หลังจากนั้นเธอก็มีหนี้สินอื่น ๆ รวมถึงมีเจ้าหนี้มาตามทวงหนี้ถึงบ้าน

อีกทั้งเรื่องที่เงินในบัญชีของ “หนุ่ม ศรราม” ที่หายไปเกือบครึ่งล้านจนต้องเข้าแจ้งความกลายเป็นข่าวใหญ่โต ซึ่ง “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ก็ยอมรับเป็นคนเบิกออกมาเอง และได้บอกกับ “หนุ่ม ศรราม” แล้ว แต่ฝ่ายชายก็ยังเดินหน้าเข้าแจ้งความทำให้กลายเป็นข่าวอย่างที่เกิดขึ้น จากนั้น “ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์” ก็เดินสายให้สัมภาษณ์อีกรายการ พร้อมยืนยันว่าอยากเจอลูก แต่ “หนุ่ม ศรราม” ให้ติดต่อทนายโดยตรง เพราะอยากให้ “ติ๊ก” เปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ ใช้ชีวิตใหม่ หางานทำให้เป็นหลักแหล่ง แล้วจะได้มาดูแลลูก แต่ตอนนี้ “ศรราม” มองว่า “ติ๊ก” ยังไม่พร้อมจะดูแลลูกได้

แต่สุดท้าย “ติ๊ก” ก็ได้เจอ “น้องวีจิ” ได้คุยผ่านวิดีโอคอล ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้กำลังตั้งใจทำงานเพื่อชดใช้หนี้ที่ก่อไว้ทั้งหมด และปลดหนี้ก้อนใหญ่กว่า 6 แสนไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงทำงานสร้างตัวเพื่อจะได้เป็นคนที่สามารถดูแลลูกได้ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นคนดังเต็มตัว เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็เป็นข่าวที่มีคนติดตามตลอด

ดราม่าไม่ไหว “ได้หมดถ้าสดชื่น”

View this post on Instagram

A post shared by ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น (@lilly_nareenart)

เป็นดราม่าไม่หยุดไม่หย่อนสำหรับ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” และค่ายได้หมดถ้าสดชื่น ตั้งแต่เรื่องถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกเนรคุณ เรื่องหนี้เก่าของแม่เมื่อปีที่แล้ว ลากยาวมายันปีนี้ก็มีดราม่าไม่ได้หยุดหย่อน โดยเฉพาะเรื่องค่าตัวของ “เก้า เกริกพล” ในเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ที่ร้องกับ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่เพจหนึ่งแฉว่า “เจนนี่” เบี้ยวค่าตัว โดยเธอได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ค่ายเพลงของตัวเองไม่เคยโกงค่าตัวใคร แต่ปัญหามาเกิดขึ้นเพราะอีกฝ่ายต้องการส่วนแบ่ง 30 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้จากยอดวิวยูทูบ ซึ่งทางค่ายก็ได้บอกไปว่าให้ไม่ได้ เพราะไม่ได้ตกลงตั้งแต่แรก และย้ำว่า ตอนที่เพลงดังใหม่ ๆ ได้มีการโอนเงินค่าตัวให้อีกฝ่ายเพิ่มเติมไปแล้ว 20,000 บาท

จากนั้น “เก้า เกริกพล” ก็ออกมาไลฟ์ตอบโต้ และยืนยันว่าสิ่งที่ตัวเองออกมาแฉนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด โดยระบุว่า ครั้งแรกที่ไปอัดเพลงด้วย “เจนนี่” ได้โอนเงินให้จริง แต่บอกว่าเป็นค่าขนม ไม่ใช่ค่าตัว ต่อมาในวันที่ถ่ายเอ็มวีก็ได้ใช้เงินตัวเองออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปกว่า 12,000 บาท รวมถึงชี้แจงเกี่ยวกับส่วนแบ่งยอดวิวยูทูบว่า “เจนนี่” เคยคุยกับแม่ของตนไว้ว่าจะจ่ายให้ 70:30 แต่ไม่ได้มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร มีเพียงสัญญาใจกัน แต่เมื่อเพลงออกจริงกลับไม่ได้ส่วนแบ่ง แถมขอเพลงไปร้องในเวอร์ชั่นผู้ชายก็ไม่ได้ ส่วนเรื่องที่บอกว่าตนปฏิเสธงาน ก็เป็นเพราะ “เจนนี่” จะให้ค่าตัวเวลาไปคอนเสิร์ต ครั้งละ 3,000 บาท ซึ่งไม่คุ้มกับค่าเดินทาง หรือถ้าไปออกรายการก็ได้แค่ 500 บาท

ระหว่างนั้น “เปา กิ่งกาญจน์” และนักร้องบางส่วนในค่ายได้หมดถ้าสดชื่น ก็ลาออกอย่างกะทันหัน จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ “เปา กิ่งกาญจน์” จะออกมาชี้แจงว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ แค่อยากออกมาเป็นศิลปินอิสระจึงไม่ได้ต่อสัญญาก็ตาม

ไม่นานหลังจากนั้น “เจนนี่” ออกมาไลฟ์อีกครั้ง พร้อมบอกว่าจะแถลงข่าวทุกประเด็นที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาที่ไม่สามารถให้สัมภาษณ์กับสื่อไหนได้เพราะเจอดราม่าถาโถมหลายทางจนตั้งรับไม่ทัน ซึ่งก็มีแฟน ๆ เข้าไปให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

สำหรับเรื่องเงินที่ไปออกรายการ “เจนนี่” บอกว่าให้ 500 บาทเป็นค่าน้ำมัน เพราะ “เก้า” อยู่ในกรุงเทพฯ อยู่แล้ว อีกทั้งบางรายการไม่มีค่าตัวให้ และมองว่าการไปออกรายการก็เหมือนการไปโปรโมตตัวเอง จากนั้น “เก้า” ก็ออกมาโต้กลับ และชี้แจงยิบว่าไปออกรายการไหนบ้าง ซึ่งก็เป็นรายการดัง ๆ ทั้งนั้น โดยเจ้าตัวไปสืบรู้มาว่าค่าตัวมากสุดที่ได้คือ 3,000 บาท ทำให้หลายคนสงสัยเรื่องเงินที่หายไปอย่างหนักแต่ก็ไม่ได้รับชี้แจงใด ๆ ในเรื่องนี้จาก “เจนนี่”

หลังจากนั้นไม่นาน “เก้า เกริกพล” ได้ดำเนินการฟ้องร้องกรณีละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งในเอ็มวีเพลง “เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อเธอคนเดียว” ที่ “เก้า” ยังไม่ได้รับค่าตอบแทน ทางกฎหมายถือว่าเป็นการละเมิด เพราะยังไม่มีการยินยอมให้เอาไปเผยแพร่ ซึ่ง “เก้า” ยืนยันว่าจะให้ลบคลิปเอ็มวีออก ไม่ได้คิดเรื่องค่าเสียหายอะไรแล้ว

ด้าน “เจนนี่” หลังจากถูกสารพัดมรสุมถาโถมเข้ามาในชีวิต จนทำให้เสียหลัก ถูกแคนเซิลงาน และโดนโจมตีอย่างหนัก ล่าสุดเพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานนี้ว่า ตอนที่โดนทัวร์ลงหนักก็คิอเหมือนว่าค่ายอาจจะไปไม่รอด แต่คิดว่าแฟนเพลงน่าจะดูที่ผลงานมากกว่าข่าวที่เกิดขึ้น ก็เลยตั้งใจทำงานเพื่อผลิตผลงานดี ๆ ออกมา จากที่เคยถูกแคนเซิลงานหมด ตอนนี้กลับสู่ภาวะปกติ มีงานเข้ามามากกว่าเดิม ทำให้ “เจนนี่” ตั้งใจมากกว่าเดิม จนตอนนี้ใช้หนี้ของแม่หมดเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่ “เก้า” ยื่นฟ้อง “เจนนี่” บอกว่าก็ให้เป็นไปตามกระบวนการในชั้นศาล พร้อมทิ้งท้ายว่าตอนนี้ไม่อยากลบคลิปไม่ว่าจะมียอดวิวเท่าไหร่ก็ตาม เพราะผลงานทุกชิ้นคือความภาคภูมิใจ

เป็นอันว่าดราม่าค่ายได้หมดถ้าสดชื่นยังไม่จบ ! แม้ทั้งสองฝ่ายจะเลิกตอบโต้ และงัดเอากระบวนการทางกฎหมายมาใช้ แต่บทสรุปจะเป็นอย่างไร คงยังไม่จบในเร็ว ๆ นี้แน่นอน !

แมท ภีรนีย์ เอาจริง ฟ้องชาวเน็ตเรียบ

View this post on Instagram

A post shared by Matt Peranee (@mattperanee)

อดทนมาเป็นเวลานานสำหรับสาว แมท ภีรนีย์ ที่ก่อนหน้านี้เมื่อเธอเปิดตัวว่ามีความสัมพันธ์กับฝ่ายชายอย่าง สงกรานต์ เตชะณรงค์ ก็ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมาเป็นเวลาสองปี จนในที่สุดเธอก็ได้ฟ้องหมิ่นชาวเน็ตและขึ้นกระบวนการศาลฯ เมื่อตุลาคมที่ผ่านมา

สำหรับ แมทนั้น หลังจากข่าวเลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบหากันมาเป็นเวลา 14 ปี และเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ก็เกิดกระแสอย่างมากมาย เพราะว่าระยะเวลานั้นมีความทับซ้อนกับอีกความสัมพันธ์ของฝ่ายชาย จึงกลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตจวกยับ จนมาถึงวันนี้สาวแมทไม่ทนอีกต่อไป พร้อมเดินหน้าฟ้องชาวเน็ตกว่า 10 คนในข้อหาหมิ่นประมาทนั่นเอง

นี่เป็นเพียงแค่ครึ่งแรกของข่าวบันเทิงสุดฮอตในปีนี้ อ่านต่อ รวบครบจบที่นี่! มหากาพย์ข่าวบันเทิงประจำปี 2563 (ตอนที่ 2)

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0