โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

คณะแพทย์ฯ มช. ทุ่ม 1.2 พันล้าน ปั้น “Medical Hub”

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 21 ธ.ค. 2563 เวลา 11.07 น. • เผยแพร่ 21 ธ.ค. 2563 เวลา 11.07 น.

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทุ่ม 1.2 พันล้าน ปั้น “Medical Hub”

วันนี้ (21 ธันวาคม 2563) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แถลงผลงานประจำปี 2563 ณ อาคารเฉลิมพระบารมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธาน

ศ.นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิยาลัยเชียงใหม่ มีเป้าหมายสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีชั้นสูง พัฒนานวัตกรรมและการบริการทางการแพทย์แบบบูรณาการ ล่าสุด ได้ลงนาม MOU กับ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตระดับโลก ภายใต้โครงการร่วมพัฒนานวัตกรรมด้านสาธารณสุขและเทคโนโลยีทางการแพทย์ พร้อมยกระดับใช้ระบบไอทีเป็นแกนกลางบริการทางการแพทย์ (Digital Health Care) มุ่งสู่การเป็นโรงเรียนแพทย์ดิจิทัลแห่งอนาคตอย่างแท้จริง ซึ่งความร่วมมือดังกล่าว มุ่งพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ครอบคลุมบริการของโรงพยาบาลศูนย์ทั้งหมด เพื่อรองรับผู้ป่วยจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ

ทั้งนี้ ดิจิทัลเฮลท์แคร์เป็นสิ่งที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับความสามารถทางการแพทย์และการให้บริการด้านสาธารณสุข จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของประชาชนในประเทศ

ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โครงการสำคัญของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่กำลังเร่งดำเนินการอยู่ในขณะนี้คือ โครงการก่อสร้างศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) มูลค่าโครงการ 1,209 ล้านบาท ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จราวเดือนมิถุนายน 2566 โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลส่วนหนึ่งราว 50% และอีก 50% เป็นงบประมาณของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งนี้ เมื่อโครงการนี้เกิดขึ้นจะผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของอาเซียน หรือ Medical Hub & Wellness Center

สำหรับโครงการ Medical Hub ดังกล่าว เป็นอาคาร 9 ชั้น ขนาด 450 เตียง มีที่จอดรถกว่า 500 คัน ถือเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์และศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน ในด้านการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทั้งการรักษาโรคทั่วไป โรคเฉพาะทาง การรักษาทางทันตกรรม การให้บริการด้านสุขภาพแบบครบวงจร

ผศ.นพ.ธนินนิตย์ กล่าวว่า โครงการ Medical Hub มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ รองรับการให้บริการของกลุ่มคนไทยสัดส่วน 80% และต่างชาติในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง อาทิ จีน (สิบสองปันนา) พม่า รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งพบว่าหลาย ๆ ประเทศในกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและต้องการเดินทางมารักษาพยาบาลหรือใช้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทย ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นเป้าหมายสำคัญ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวนอกจากจะยกระดับเมืองเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์แล้ว ยังจะเชื่อมโยงเรื่องของการท่องเที่ยวด้วยในอนาคต

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...