ยัดยา! ยัดความผิด! ภัยมืดจาก "คนในเครื่องแบบ" ที่ประชาชนกลัว
สมัยนี้…ภัยมืดจากโจรผู้ร้ายว่าน่ากลัวแล้ว บางทีภัยมืดจาก "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" อาจน่ากลัวกว่า แบบนี้ประชาชนจะอยู่อย่างไร?
คดี “ยัดยา” อาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึงคดีที่สะเทือนวงการสีกากี และสะเทือนใจประชาชนอย่างมาก ล่าสุดได้มีรายงานข่าว “เปิดหลักฐานคดียัดยาบ้า” ในข่าว 3 มิติ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยชายวัย 69 ปี ได้ร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายวัย 41 ปี ซึ่งถูก ตำรวจ สน.สุทธิสาร กลุ่มหนึ่ง เเจ้งข้อกล่าวหาว่า“มียาบ้าไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย20 เม็ด”
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน โดยช่วงเย็นวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 "นายชาญ สุขสวัสดิ์มาลัย" วัย 41 ปี ได้ถูกตรวจค้นตัวขณะอยู่ที่ชุมชนย่านลาดพร้าว หลังค้นอยู่นานแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ชายคนดังกล่าวก็ไม่พอใจที่ถูกยั่วยุ และพยายามยัดข้อหา จึงชกเข้าที่ใบหน้าของตำรวจนายหนึ่ง ก่อนจะถูกคุมตัวไปที่โรงพัก และมีเหตุการณ์ “ยัดยา” เกิดขึ้น
ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะมีการตรวจค้นตัว ซึ่งเผยแพร่ในรายการข่าวสามมิติ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2561
นายชาญ ยอมรับข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานแต่ให้การปฏิเสธคดีมียาบ้า ตั้งแต่ชั้นสอบสวนและอัยการ และชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น ระหว่างการต่อสู้คดี ได้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำก่อนคำพิพากษานาน 10 เดือน ระหว่างนี้พ่อของเขาพยายามหาทางช่วยขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย จนพบว่า จุดเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้คดีนี้คลี่คลายได้
หลังศาลชั้นต้นได้เห็นพฤติกรรมขณะเกิดเหตุทั้งหมด รวมทั้งในการตรวจค้นครั้งแรก ก็ไม่พบยาบ้าของกลางที่นำมาตั้งข้อหาด้วย จึงพิพากษายกฟ้องจำเลย และศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษาให้ยืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้องด้วย ก่อนที่จำเลยจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ
“ทุกครั้งที่จะพิสูจน์หลักฐานบนเม็ดยาหรือบนซองต้องมีลายนิ้วมือทำไมเขาไม่ตรวจลายนิ้วมือก่อนจะพิสูจน์ตัวยาละครับ” นายชาญ จำเลยคดีนี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“ผมอยู่กันสองคนผมรู้เขาเสพหรือไม่เสพใช้ยาหรือไม่ใช้ขายหรือไม่ขาย…ตอนลูกชายโดนเรียกเข้าไปห้องสายสืบเรานึกว่าเขาเรียกให้ไปตรวจฉี่แต่ไม่ใช่เขาเรียกให้ไปเซ็นรับสารภาพลูกชายบอกไม่เซ็นไม่ใช่ของของเขาเขาก็ไม่เซ็น” พ่อของนายชาญ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
สำหรับคดีนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ด้วย หลังจากที่บิดาของจำเลยได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมไว้ แต่ว่ายังไม่มีข้อสรุปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด แม้จำเลยจะได้รับการยกฟ้องทุกข้อกล่าวหาแล้ว ทั้งข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และข้อหามียาบ้าในครอบครอง แต่หากอัยการมีความเห็นจะยื่นฎีกา ก็สามารถทำได้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ
นับเป็นโชคดีที่คดีนี้ มี “กล้องวงจรปิด” เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยไว้ ทำให้จำเลยได้รับความเป็นธรรม และสังคมได้เห็นภัยมืดที่ตำรวจกระทำต่อประชาชน
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียว แต่ “คดียัดยา” ในสังคมไทย เกิดขึ้นบ่อยจนน่าใจหาย
กี่ครั้งแล้วที่ต้อง “ติดคุกฟรี” เรื่องนี้ ใครจะรับผิดชอบ?
แหล่งข้อมูล : ข่าว3มิติ เปิดหลักฐานคดีชายวัย 41 ชกตำรวจ ไม่พอใจถูกยัดยาบ้า (21 กรกฎาคม 2561) https://www.youtube.com/watch?v=QHBPeUBi1YA
ความเห็น 265
Yoth
BEST
เจ้าหน้าที่พิสูจน์แล้วว่ายัดยาให้คนบริสุทธิ์ น่าจะมีโทษเท่ากับคนค้า มียาไว้จำหน่าย(หาประโยชน์ แต่ไม่ได้เสพ) รวมกับ ม.157 และกักขังหน่วงเหนี่ยว ที่สำคัญ ไม่สมควรให้รับราขการด้วย น่าจะประหาไปได้ยิ่งดี จะได้เข็ดๆกันมั่ง
02 ส.ค. 2561 เวลา 05.10 น.
BEST
ชุดจับกุมไล่ออกจากราชการครับ และดำเนินคดีอาญาตามด้วย
02 ส.ค. 2561 เวลา 05.11 น.
BEST
ทำไมไม่ประหารชีวิตพวกข้าราชการนอกรีดบ้างครับจะได้ทำให้ประเทศไทยสูงขึ้นบ้าง
02 ส.ค. 2561 เวลา 05.12 น.
จนท.ขอให้เห็นใจชาวบ้านตาดำๆบ้างเถอะเงินมันหายากแต่พวกคุณยัดยาแล้วจะเอาเงินง่ายๆมันไม่ยุติธรรมเลย
02 ส.ค. 2561 เวลา 05.07 น.
ฐิติกาญจน์
มีทุกที่คะเลวจริงๆคนแบบนี้
02 ส.ค. 2561 เวลา 05.09 น.
ดูทั้งหมด