โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

5 สารเสพติดที่ติดได้ง่ายที่สุดในโลก

Johjai Online

อัพเดต 07 ม.ค. 2562 เวลา 09.01 น. • เผยแพร่ 06 ม.ค. 2562 เวลา 17.00 น. • johjaionline.com
ในบรรดาสารเสพติด นี่คือ 5 สารเสพติดที่ติดได้ง่ายที่สุด และอันตรายที่สุด

คำถามที่ว่า ยาเสพติดชนิดใดในโลกที่ทำให้ผู้เสพติดได้ง่ายที่สุด ออกฤทธิ์รุนแรงที่สุด ถือเป็นคำถามที่มีคำตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนตอบและคุณถามใครมากกว่า
ในมุมมองของนักวิจัยหลากหลายคนพบว่า การตัดสิน หรือเปรียบเทียบว่ายาเสพติดชนิดหนึ่งจะมีผลทำให้คนๆหนึ่งติดยาได้มากขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับผลที่มันเกิดกับร่างกาย เช่นระยะเวลาที่มันส่งผลต่อการหลั่งของโดพามีนในสมอง หรือการทำให้ผู้เสพมีความสุขในช่วงระยะเวลาของการเสพขนาดไหน รวมถึงอาการของผู้เสพหลังยาหมดฤทธิ์ลง และยังรวมไปถึงเรื่องที่ว่า มันง่ายแค่ไหนที่ผู้เสพจะติดยาชนิดนี้
 

1.เฮโรอีน
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจัดอันดับให้เฮโรอีนเป็นยาเสพติดที่ติดได้ง่ายที่สุด โดยให้คะแนนระดับสามซึ่งเป็นระดับสูงสุด (จากทั้งหมดสาม) โดยเฮโรอีนมีฤทธิ์ทำให้ระดับโดพามีนในสมองหลั่งออกมามากถึง 200% นอกจากจะเป็นยาเสพติดที่ติดได้ง่ายที่สุดแล้ว ยังเป็นหนึ่งในยาเสพติดที่มีฤทธิ์อันตรายที่สุดด้วย เพราะปริมาณที่มากเกินเพียงห้าเท่าของปริมาณที่ทำให้เกิดอาการเมาก็อาจทำให้ผู้เสพถึงแก่ชีวิตได้ทันที
 
เฮโรอีนยังจัดให้อยู่ในประเภทของยาเสพติดที่อันตรายที่สุดเป็นอันดับสองทั้งในแง่ต่อตัวผู้เสพและต่อสังคมประเทศชาติ โดยตัวเลขมูลค่าตลาดของยาเสพติด รวมถึงเฮโรอีนในปี 2009 ของทั่วโลกอยู่ที่ 68,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 2 ล้านล้านบาท)
 

2.โคเคน
โคเคนส่งผลแทรกแซงการทำงานของโดพามีนในสมอง โดยจากการทดลองในสัตว์พบว่า โคเคนทำให้ระดับโดพามีนในสมองเพิ่มขึ้นมากถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ มีการคาดการณ์ว่า คนทั่วโลกราว 14-20 ล้านคนใช้ยาเสพติดชนิดนี้ และในปี 2009 ตลาดโคเคนทั่วโลกมีมูลค่ามากถึง 75,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 2.4 ล้านล้านบาท)
ความอันตรายของมันคือการที่คนมากถึง 21% หากได้ลองใช้แล้วจะติดในทันที ผู้เชี่ยวชาญยังยกให้โคเคนเป็นยาเสพติดที่มีพลังทำลายล้างเป็นอันดับสามในบรรดายาเสพติดทั้งหมด และถือได้ว่า ฤทธิ์ของโคเคนที่มีต่อร่างกายนั้นคล้ายๆ กับแอมเฟตามีน หรือยาบ้า
 

3.นิโคติน
เราทุกคนรู้จักนิโคตินกันดีในฐานะส่วนประกอบหลักของบุหรี่ เวลาที่ผู้เสพเริ่มสูบบุหรี่ นิโคตินจะพุ่งตรงเข้าไปที่ปอด ที่จะดูดซับนิโคตินเอาไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนส่งต่อไปที่สมอง นิโคตินถือเป็นสสารที่ทำให้คนเสพติดได้มากที่สุดเป็นอันดับสาม 
มีการสำรวจในกลุ่มคนอเมริกันพบว่า สองในสามของบุคคลที่เริ่มต้นสูบบุหรี่แล้วมักจะสูบไปตลอดชีวิตโดยไม่สามารถเลิกได้ ตัวเลขจาก WHO ยังคาดการณ์อีกว่า บุหรี่จะคร่าชีวิตคนมากกว่า 8 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2030
การทดลองในสัตว์ยังพบอีกว่า หากได้รับนิโคตินเข้าไปในร่างกายจะทำให้โดพามีนในสมองมีระดับสูงขึ้น ราว 25-40%
 

4.บาร์บิทูเรต หรือที่รู้จักในชื่อ Downers
ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยกดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง โดยแรกเริ่มนั้น ยานี้ถูกใช้ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรควิตกกังวล นอนไม่หลับ ปวดหัว และชัก และเมื่อถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์จึงมีอาการอยากยาเช่นเดียวกับติดยาเสพติดได้ ผู้ที่มีการใช้ยากลุ่มนี้กล่าวว่าความรู้สึกคล้ายกับการติดแอลกอฮอล์ ส่วนฤทธิ์ของมันก็รุนแรงมาก การรับประทานยาเกินขนาดสามารถทำให้เข้าสู่ภาวะโคม่าหรือเสียชีวิตได้
บาร์บิทูเรตยังมีชื่อเรียกอีกมากมาย ทั้ง blue bullets, gorillas, nembies, barbs และ pink ladies หากใช้ในปริมาณน้อย จะทำให้เกิดความรู้สึกสบาย แต่ในปริมาณมากนั้น จะส่งผลร้ายแรงต่อร่างกาย เช่นยับยั้งการหายใจของผู้เสพ

5.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
ผู้เชี่ยวชาญให้คะแนนความเสพติดของมันในระดับ 1.9 (จากทั้งหมดสาม) ฤทธิ์ของมันส่งผลโดยตรงต่อสมอง เช่นเดียวกับยาเสพติดชนิดอื่นๆ ที่เมื่อมีการทดลองในสัตว์แล้วพบว่า แอลกอฮอล์ส่งผลให้ระดับโดพามีนในสมองหลั่งมากขึ้นราว 40-360% โดยยิ่งสัตว์ได้รับแอลกอฮอล์มากแค่ไหน ระดับโดพามันก็เพิ่มขึ้นมากขึ้นเท่านั้น  
ตัวเลขจาก WHO พบว่า 22% ของคนที่เริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดมันไปตลอดชีวิต หลายคนที่บอกว่าไม่ได้ติด ส่วนมากก็มีความต้องการแอลกอฮอล์อยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังยกให้แอลกอฮอล์เป็นยาเสพติดที่มีผลเสียทำลายล้างมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย อาจเป็นเพราะคนมองว่าแอลกอฮอล์เป็นเรื่องเล็ก เลยมองข้ามภัยของมันในระยะยาว
แปลและเรียบเรียงจาก https://edition.cnn.com/2019/01/02/health/most-addictive-substances-partner/index.html?fbclid=IwAR2gbGqRK1mMfTXMOag8G6udU8LJHGVfZdO1MussPdrW8FeyJpc1VD54yFI

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...