โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

How to ลงทุนในยุคเศรษฐกิจซึมจากเวที Thailand Investment Forum 2025

TODAY

อัพเดต 11 มิ.ย. เวลา 12.10 น. • เผยแพร่ 11 มิ.ย. เวลา 04.18 น. • workpointTODAY

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจและการลงทุนที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าเราจะรับมือกับความเสี่ยงรอบด้านนี้อย่างไร?

TODAY Bizview สรุปประเด็นสำคัญจากงานสัมมนา Thailand Investment Forum 2025 : พลิกเกมฝ่าวิกฤติ Great Depression จัดโดยเครือเนชั่น

เพื่อถ่ายทอดมุมมอง วิเคราะห์สถานการณ์ และชี้แนะแนวทางรับมือความเปลี่ยนแปลงทั้งเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุนจากกูรูแถวหน้าของไทย

[ 4 ยุทธศาสตร์ฟื้นตลาดหุ้นไทย ]

ศาสตราจารย์พิเศษ ‘กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์’ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็ได้ขึ้นพูดในหัวข้อ ‘พลิกวิกฤติสู่โอกาส-ยุทธศาสตร์ฟื้นความเชื่อมั่นตลาดทุนไทย’

โดยพูดว่าในช่วงที่ผ่านมา ตลาดทุนไทยเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์

รวมถึงความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศและปัจจัยภายในประเทศที่สะสมต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน แต่ยังเชื่อว่าในวิกฤตยังมีโอกาส ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้วางแนวทางการขับเคลื่อนด้วยยุทธศาสตร์ 4 ด้าน เพื่อพัฒนาตลาดทุนไทย ได้แก่

  • สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน : ปรับเกณฑ์การซื้อขาย เช่น Short Sell, Uptick Rule ฯลฯ และควบคุมระบบ HFT เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความเป็นธรรมในตลาด
  • เพิ่มความน่าสนใจของตลาดทุน : ส่งเสริม SMEs และบริษัทศักยภาพเข้าสู่ตลาดทุน ผ่านโครงการอบรม-พัฒนา เช่น Jump+ พร้อมออกแบบผลิตภัณฑ์การลงทุนระยะยาว เช่น หุ้นสะสมจนเกษียณ
  • ผลักดันกฎหมายให้ทันสมัยและเท่าเทียม : แก้ไขกฎหมายผ่านแนวคิด Omnibus Law เปิดทาง Dual-class shares ควบรวม และ Spin-off ง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. เป็นพนักงานสอบสวนโดยตรง
  • ขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืน (ESG) : ผลักดันบริษัทจดทะเบียนไทยใช้แนวทาง ESG อย่างจริงจัง ผ่านการอบรมและใช้ ESG Data Platform ที่พัฒนาร่วมกับ FTSE

[ วิเคราะห์ 3 สินทรัพย์ ]

สำหรับการเสวนาในหัวข้อ ‘Future Investment trends’ซึ่งร่วมพูดคุยโดย 3 กูรูด้านทางลงทุนทั้งทองคำ บิตคอยน์และหุ้น

เริ่มกันที่ ‘นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ’ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุข จำกัด พูดถึงราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านว่ามาจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ สงครามต่างๆ ที่ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นโดยเฉลี่ย 15%

แต่ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงคนยังมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและในช่วงครึ่งปีหลังยังมีโอกาส All Time High ซึ่งผลพวงมาจากภาษีทรัมป์ ที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผลการเจรจาจะออกมาแบบไหน

ด้าน ‘จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา’ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัดเล่าว่าตามสถิติในทุกๆ 4 ปี บิทคอยน์มักเข้าสู่ ‘ปีทอง’ ที่ราคาพุ่งขึ้นมหาศาล

และในอีก 5 ปีข้างหน้า บิทคอยน์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการใช้งานจริงที่ขยายตัวทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่คนเริ่มถือครองบิทคอยน์มากกว่าทองคำ และยังย้ำว่าในระยะยาวบิทคอยน์เป็นหนึ่งสินทรัพย์ที่น่าลงทุนไม่แพ้หุ้นกับทองคำ

ขณะที่ ‘ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัดก็ให้มุมมองด้านการลงทุนว่าในครึ่งปีหลังตลาดหุ้นน่าจะยังผันผวน ทำให้คนมองหาทรัพย์ปลอดภัยและวิ่งไปที่ทองคำและบิทคอยน์กันมากขึ้น

เพราะแม้สหรัฐฯ จะเลื่อนเก็บภาษีออกไป 90 วัน แต่ในความจริงไม่มีใครตอบได้ว่าจะจบลงอย่างไร แต่มองว่าจะต้องดีกว่าที่ประกาศครั้งแรก แนะนำนักลงทุนปรับพอร์ตให้สมดุล

[ กระจายพอร์ตยังไงให้รอด ]

อีกหนึ่งหัวข้อเสวนาที่น่าสนใจกับ ‘Growth Stocks In-Depth : Strategies for Success’ โดยแชร์มุมมองผ่าน 3 ผู้จัดการกองทุนชั้นนำของไทย

‘ชวินดา หาญรัตนกูล’ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) พูดถึงแนวโน้มตลาดหุ้นไทยครึ่งหลังปี 2568 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ความผันผวนลดลง จากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าที่มีความหวังมากขึ้นโดยทิศทางตลาดที่ชัดเจนน่าจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ค. นี้ แม้ยังมีแรงกดดันจากนโยบายภาษีของทรัมป์ แต่สุดท้ายคาดว่าจะคลี่คลาย

กลยุทธ์การลงทุน ควรมุ่งเน้นหุ้นที่มีอนาคต เติบโตสม่ำเสมอ และจ่ายปันผลดี ส่วนผู้ที่รับความเสี่ยงได้มากให้กระจายพอร์ตไปยังหุ้นต่างประเทศ 50–60% ส่วนหุ้นไทยแนะนำกลุ่มโรงพยาบาล สื่อสารและโรงแรม

‘พจน์ หะริณสุต’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัดเล่าว่า แม้ความไม่แน่นอนจะยังสูง แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงน่าสนใจที่จะลงทุน เพราะเศรษฐกิจแข็งแกร่ง และครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอีก

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นจีนก็เป็นอีกทางเลือกน่าลงทุน ด้วยราคาถูก (P/E ต่ำ) และได้รับการสนับสนุนจากนโยบายรัฐในด้าน Deep Tech และ AI แม้ยังมีความเสี่ยงในภาคอสังหาฯ บ้างก็ตาม

‘วิน พรหมแพทย์’ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัดก็ได้พูดถึงการจัดพอร์ตลงทุนโดยแนะนำให้ลงทุนใน Core Portfolio 80% กระจายการลงทุนทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ และการลงทุนทางเลือก เช่น ทองคำ ส่วนอีก 20% เป็นการลงทุนแบบ Satellite Portfolio ที่เป็นหุ้นรายประเทศ หุ้นรายเซ็กเตอร์

ทั้งนี้ จากความไม่แน่นอนเรื่องภาษี แนะนำให้นักลงทุนคงสัดส่วนการลงทุนเอาไว้ก่อนอย่าเพิ่งเพิ่มน้ำหนัก รอจังหวะให้ตลาดปรับตัวลงแรงๆ ค่อยเข้าไปลงทุน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...