โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ศุกร์ (สุข) ละวัด พาชมศิลปะล้ำค่า ที่ ‘วัดนางนองวรวิหาร’

The Bangkok Insight

อัพเดต 24 มิ.ย. 2565 เวลา 01.41 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. 2565 เวลา 01.33 น. • The Bangkok Insight

ศุกร์ (สุข) ละวัด พาไปเยี่ยมชม วัดนางนอง เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในเขตจอมทอง โดยเฉพาะเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่คับคั่งมาแต่โบราณ คือ คลองด่าน หรือคลองสนามชัย อยู่ริมคลองฝั่งใต้ตรงข้ามวัดหนัง กล่าวกันว่ามีมา (พ.ศ. 2245-2252) ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ ในรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า เมื่อ พ.ศ.2375 โปรดให้ทำเป็นงานใหญ่ รื้อของเก่า และปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งพระอารามดังปรากฏงานศิลปกรรมแบบพระราชนิยมในพระองค์ ที่พระอุโบสถและพระวิหารคู่ การทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนางนองนั้น สืบเนื่องจากวัดนางนอง ในแขวงบางนางนอง เดิมเป็นนิวาสถานของสมเด็จพระศรีสุลาลัยพระนามเดิม คือ เจ้าจอมมารดาเรียม พระราชชนนี พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมา ตระกูลของสมเด็จพระศรีสุลาลัย ย้ายข้ามฟากไปอยู่บริเวณวัดหนัง

ฉะนั้นวัดหนังและวัดนางนองจึงเป็นวัดที่เนื่องในสมเด็จพระราชมารดาที่ว่าศิลปะแบบพระราชนิยมในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ ศิลปกรรมที่เลียนแบบศิลปะจีนปรากฏในงานสถาปัตยกรรมเป็นหลัก จากรูปแบบการวางแผนผังพระอารามในรัชสมัยและงานสถาปัตยกรรมไทยที่สร้างสรรค์ผสมผสานศิลปะจีน อาคารที่สำคัญ ได้แก่พระอุโบสถ พระวิหาร งานศิลปกรรมจะอยู่ที่ส่วนหลังคา หน้าจั่วหรือหน้าบัน อันเป็นส่วนที่ถูกแดดฝนอยู่เสมอ จึงทำเป็นงานก่ออิฐถือปูนทำเลียนแบบจีน ทำให้ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ยาวนานกว่างานเครื่องไม้ที่ทำตามแบบศิลปะดั้งเดิม ที่เป็นช่อฟ้าใบระกาแต่โบราณ

อย่างไรก็ตาม ทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร หรืออาคารสถาปัตยกรรมประเภทอื่น ถึงแม้จะสร้างขึ้นเลียนแบบจีนก็ตาม ก็ทรงระมัดระวังที่จะรักษาลักษณะความเป็นไทยไว้ เช่น การซ้อนหลังคาในส่วนที่เด่นของอาคาร และมุงกระเบื้องตามลักษณะของไทย

การบูรณะปฏิสังขรณ์ใช้เวลาหลายปีจึงแล้วเสร็จได้สถาปนาเป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ประกอบพิธีผูก พัทธสีมาพระอุโบสถเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2384(ประชุมหมายรับสั่งภาค4 ตอน2, 2536:24-27)

พระอุโบสถ เป็นศิลปะในสมัยรัชกาลที่ 3 บานประตูด้านนอกประดับมุกทั้งบาน เขียนลายงดงามมาก ด้านในเขียนลายรดน้ำ บานหน้าต่างเขียนภาพเรื่องในวรรณคดี ส่วนที่บานประตูและผนังด้านในเขียนเรื่องจีน เช่น สามก๊ก ฮก ลก ซิ่ว พระประธานทรงเครื่องปางมารวิชัยเป็นศิลปะสมัยสุโขทัยสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3

พระเจดีย์ เป็นแบบย่อมุมไม้ 20 ฐานเป็นทักษิณ 8 เหลี่ยม ยอดแหลมเรียวสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 บริเวณด้านหน้าพระเจดีย์ประดิษฐานพระสังข์กัจจายน์หรือ"หลวงพ่อโต"

พระวิหาร เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน หน้าบันประดับปูนปั้นรูปมังกร ส่วนเจดีย์จีนประดับด้วยกระเบื้องสี พระวิหารเก่า มีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย 2 องค์มีผู้เล่าว่า มีคนพบของโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน เมื่อทำการขุดก็พบพระพุทธรูป 2 องค์ จึงขนานนามว่า "พระผุด"

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...