เทคนิค การถ่ายวิดีโอ อ่านจบคว้ากล้องถ่ายเป็น
เทคนิค การถ่ายวิดีโอ ทุกวันนี้ กล้องในท้องตลาดมีมากมายหลากหลายรุ่น ออฟชั่นเพิ่มมามากมายทำให้สะดวกสบาย และ ราคาถูกลง
มีคุณภาพสูงขึ้น กล้อง DSLR สามารถถ่ายวิดีโอได้และ เหล่ายูทูปเบอร์ หลากหลายคนหันมาใช้ ผลิตสื่อออนไลน์ อาทิเช่น หนังสั้น โฆษณา หรือ MV หันมาใช้ กล้องถ่ายรูปนี่แหละ
ในการบันทึกภาพและวิดีโอ ได้คุณภาพดี และ มีราคาถูก เมื่อเทียบ กับ กล้องวีดีโอ หรือกล้อง ถ่ายภาพยนตร์ ราคาสูงแตะหลักล้าน เหมือนเมื่อก่อน
ความสำคัญของการบันทึกภาพเคลื่อไหว หรือวิดีโอ กล้องวิดีโอ มีความสำคัญ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คน ถ่ายก็ เป็นอีกบุคคลที่สำคัญที่สุด และยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ในการบันทึกภาพวิดีโอ คือเจ้าขาตั้งกล้องวิดีโอ หากท่านถ่ายรูป
ในวันที่แสงพอเพียง ท่านไม่จำเป็นต้องถ่ายบนขาตั้ง ก็ได้ แต่สำหรับงานวิดีโอแล้ว ขาตั้งนี่แหละ เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญ พอพอ กับ ตัวกล้องวิดีโอทีเดียว
เมื่อกล้องวิดีโอ อยู่บนขาตั้งเรียบร้อยแล้ว เรามาเรียนรู้เรื่อง การควบคุมกล้องกัน การควบคุมกล้องและการจัดภาพ การกำหนดการเคลื่อนไหวที่เกิดจากการ ทำงานของกล้องถ่ายโทรทัศน์
นับได้ว่าเป็นการ เปลี่ยนแปลง ตำแหน่งของกล้อง ไปพร้อมกับการบันทึกภาพ และจะมีผลทำให้ภาพเปลี่ยนแปลงลักษณะภาพ รูปแบบ และ เนื้อหาของการนำเสนอภาพไปด้วย
เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น แพนซ้าย ก็แพนซ้าย แพนขวา ก็แพนขวา เราจะไม่ซูมภาพในขณะที่แพน ซ้าย เด็ดขาด การเคลื่อนไหวกล้องที่มีเหตุผล และมีความเชี่ยวชาญจะเป็นส่วนช่วยเสริมภาษาของภาพและผู้ชมเกิด
บทบาท ร่วมที่เป็นจริงมากขึ้น กับการนำเสนอภาพในช่วงนั้นการเคลื่อนไหวกล้อง มีหลักการขั้นพื้นฐานที่ นำมาใช้ในการถ่ายภาพ 4 ประการ คือ
1. การแพน (Pan) เป็น วิธีการเคลื่อนที่กล้องถ่าย ในลักษณะการ ส่ายกล้องเคลื่อนที่ไปในแนวนอน หรือ แนวราบ (Horizontal) อาจเริ่มจากฝั่งซ้ายส่ายไปทางขวา (Pan Right)
หรือจากขวาส่ายไปทางซ้าย (Pan Left) การแพนกล้อง ใช้เพื่อเพิ่ม ความต่อเนื่องของภาพหรือวิดีโอ เพื่อให้เกิด ความสัมพันธ์หรือเกิดเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่ถ่าย สองสิ่งอยู่ห่างกัน หรือพื้นที่ของการถ่ายที่แยกอยู่ห่างกัน
2. การซูม (Zoon)สามารถเปลี่ยนขนาด ภาพหรือวิดีโอ ขณะที่กำลังถ่ายทำ ก่อให้เกิด ความเปลี่ยนแปลงของภาพ โดยไม่ต้องเคลื่อนไหวกล้อง หรือ เปลี่ยนตำแหน่งการตั้งกล้อง การเปลี่ยนขนาดภาพ หรือวิดีโอ
เปลี่ยนจากภาพขนาดมุมกว้าง มาเป็นมุมแคบ จะเรียกว่า Zoon in ถ้าตรงข้ามกันจะเรียกว่า Zoom out ผลที่เกิดในความรู้สึกของผู้ชม คือ จะรู้สึกว่าสิ่ง ที่ถ่ายถูกดึงเข้ามาใกล้ตัวหรือ ถอยห่างออกไป เกิดกาเคลื่อนไหวขึ้นในภาพ
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง ขนาดของภาพอย่างต่อเนื่อง
3. การทิลท์ (Tilting)เป็นการเคลื่อนไหวกล้องอีกลักษณะหนึ่ง เช่นเดียวกันกับการแพนแต่เป็นการแพน โดยวิธีการเคลื่อน กล้องในแนวตั้ง วิธีการถ่ายภาพในแบบการทิลท์ กล้องถ่ายยังคงรักษาระดับตำแหน่งความ สูง–ต่ำ
คงที่จะเปลี่ยนแปลงไปก็แต่เพียงมุม ที่ถูกขยับไปในองศา ที่สูงขึ้นกว่าเดิม หรือองศาถูกกดต่ำกว่าเดิม ซึ่งกระทำได้โดยการ กระดกกล้องถ่ายภาพขึ้นหรือค่อยๆ กดกล้องให้มุมรับภาพ ลงตำในระหว่าง การถ่ายทำ ถ้าหากในขณะที่ทำการถ่ายภาพ
ผู้ถ่ายกระดกกล้อง ถ่ายภาพให้สูงขึ้นกว่าระดับ เดิมจะโดยเหตุผล ของการนำเสนอภาพเพื่อผลในการใดก็ ตามดังที่กล่าวมาแล้วเรียกกันว่า ทิลท์-อัพ (Tilt up)และในทางกลับกัน ถ้าหากกดกล้องให้มุมรับภาพค่อยๆ
เปลี่ยนในทิศทางที่ต่ำลงกว่าเดิมเรียกว่า ทิลท์-ดาวน์ (Tilt Down)
4. การดอลลี่ (Dollying) เป็นวิธีการเคลื่อนไหวกล้อง ในรูปแบบการตั้งอยู่บนรางพาหนะที่มีล้อซึ่งเคลื่อนไปมา บนพื้น หรือเลื่อนไปตามราง ทำให้สามารถเคลื่อนที่ตามภาพ เหตุการณ์ได้ในมุมมองต่างๆ กัน ดอลลี่จะมีลักษณะการเคลื่อนกล้อง
เข้าหาสิ่งที่ถ่าย เรียกว่า ดอลลี่อิน (Dolly in) และถ้าเคลื่อนกล้องถอยห่างจากสิ่งที่ถ่าย เรียกว่า Dolly out
5. การแทคกล้อง (Trucking or Tracking)เป็นการเคลื่อนไหว ของกล้องใน ลักษณะและวิธีการเคลื่อนไหว ในรูปแบบคล้ายกับดอลลี่ แตกต่างกัน ในเรื่องของการกำหนด ทิศทางการถ่ายเท่านั้น ทิศทางของการทรักต์ จะใช้
การเคลื่อนกล้องในแนวทางข้าง เคียงสิ่งที่ถ่าย ในบางกรณี การเคลื่อนที่ของ กล้องอาจไม่เป็น แนวตรงแต่จะเคลื่อนใน ลักษณะเฉียงโค้ง (Curve Track) ในบางครั้งการนำเสนอ ภาพในรูปแบบ การทรักต์ จะใช้การเคลื่อนที่ตามขนานกับสิ่งที่ถ่ายอาจเป็นระดับ
การเคลื่อนไหวที่คู่เคียงกันไป หรือตำแหน่งของกล้องล้ำหน้า วัตถุเคลื่อนทีตามนอกจากนี้ แล้วยังนำมาใช้เพื่อการเปลี่ยนตำแหน่ง และทิศทางของกล้องเพื่อกำหนด รูปแบบของการนำ เสนอภาพในแนวทางใหม่ เป็นการหลีกเลี่ยงความซ้ำซากน่าเบื่อของสิ่งที่ถ่าย