จะโสด-ไม่โสด หรือจะมีเพื่อนกี่คน คุณก็เป็น Solo Diner ได้ เรื่องของการ ‘กินข้าวคนเดียว’ ที่กลายเป็นเทรนด์จนร้านอาหารทั่วโลกยังต้องปรับตัว
“ทำไมกินข้าวคนเดียวอะ” หรือ “กินข้าวคนเดียว ไม่เหงาเหรอ?” ดูจะกลายเป็นประโยคที่ไม่ควรต้องเอามาถามกันแล้ว เพราะการเป็น Solo Diner หรือคนที่กินข้าวคนเดียว กลายเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบว่าทำไมอีกต่อไป และหลายคนก็เริ่มหันมากินข้าวคนเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
มีผลสำรวจจาก The New York Post ว่ากว่า 68% จากกลุ่มสำรวจชอบเคยกินข้าวคนเดียว ขณะที่สำนักวิจัยในญี่ปุ่นอย่าง Pepper Gourmet Eating Out Research Institute ก็พบว่าคนญี่ปุ่น 23% กินข้าวคนเดียวเป็นประจำ และโดยส่วนใหญ่คนที่กินข้าวคนเดียวได้เก่งก็มักจะเป็นเหล่า Gen Y และ Gen Z นี่เอง
สำหรับหลายคน ข้อดีของการกินข้าวคนเดียวคือเป็นช่วงเวลาแห่งการกลับมาโฟกัสตัวเอง และพักจากการ socialize หรือการเข้าสังคม เพราะแม้แต่การกินข้าวกับแฟนหรือเพื่อนสนิท ก็นับเป็นการเข้าสังคมอย่างหนึ่งเช่นกัน และการกินข้าวคนเดียวก็ไม่ได้แปลว่าต้องเหงาเสมอไป แต่นับเป็นเวลา ‘me time’ อย่างแท้จริง เราสามารถนั่งเงียบๆ เพื่อคิดอะไรที่เราอยากคิด ไม่ต้องใช้พลังกับบทสนทนาใดๆ อาจพักผ่อนด้วยการฟังเพลงหรือฟังอะไรที่ชอบผ่านหูฟัง หรือแค่ไม่ต้องฟังอะไรแล้วซึมซับบรรยากาศรอบตัวก็ยังได้ ซึ่งหลายครั้งก็ช่วยให้หายเหนื่อยได้อย่างเหลือเชื่อ
ไม่เพียงเท่านั้นการกินข้าวคนเดียวยังคล่องตัวกว่า ในแง่ที่ว่าเมื่อเราอยากกินร้านไหนก็แค่กดจองคิวหรือเดินเข้าไปกินเลย ไม่ต้องคอยโหวตหรือทุ่มเถียงว่าใครอยากกินอะไร ไม่อยากกินอะไร หรือเมื่อกินเสร็จแล้วก็สามารถจ่ายเงินแล้วออกจากร้านไม่ต้องคอยอ้อยอิ่งให้ทุกคนอิ่มแล้วออกพร้อมกัน ดังนั้นหลายคนจึงเลือกกินข้าวคนเดียวเพราะสบายใจกว่า
แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับอีกหลายคน การไปกินข้าวคนเดียวก็ยังคงเป็นเรื่องยาก ส่วนหนึ่งอาจเพราะยังชินกับการต้องมีคนกินข้าวเป็นเพื่อน หรือกระทั่งหลายๆ ร้านก็ไม่ค่อยมีโต๊ะที่เหมาะกับการนั่งคนเดียว หรือบางร้านก็เสิร์ฟอาหารพอร์ชั่นใหญ่จนถ้าไปคนเดียวก็กินได้แค่อย่างเดียว แถมเปลืองเงินอีกต่างหาก ไม่ต้องพูดถึงร้านบุฟเฟต์ที่ดูไม่ค่อยเหมาะกับการไปกินคนเดียวมากนัก ฯลฯ
และนี่จึงเป็นเหตุให้ภัตตาคารร้านอาหารทั่วโลกต่างต้องพากันปรับตัวเพื่อรองรับเหล่านักกินข้าวคนเดียวทั้งหลาย ให้สามารถเอนจอยกับอาหารการกินได้แบบไร้ข้อกังวล เช่น หลายร้านเพิ่มที่นั่งแบบบาร์มากขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้คนที่มากินคนเดียว บางร้านปรับเมนูใหม่ให้พอร์ชั่นเล็กลงเพื่อให้คนกินคนเดียวสามารถชิมเมนูที่หลากหลายได้มากกว่าแค่อย่างเดียวหรือไม่กี่อย่าง บางร้านปรับจากการจองโต๊ะให้เป็นการจองที่นั่งแทน และบางร้านก็ออกแบบ experience สำหรับการกินข้าวคนเดียวให้สนุกสนานเอนจอยได้แม้ไม่ต้องมาเป็นกลุ่ม เช่นการมีมิกซ์โซโลจิสต์มามิกซ์เครื่องดื่มให้ถึงโต๊ะ ทางด้านร้านในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นร้านริมทะเลสาบที่สวิตเซอร์แลนด์ จากที่โต๊ะวิวดีๆ มักเป็นโต๊ะใหญ่สำหรับกรุ๊ปทักท่องเที่ยว ก็เริ่มจัดวางที่นั่งในร้านใหม่ ให้คนที่มาคนเดียวสามารถรับวิวทะเลสาบได้เช่นกัน ฯลฯ ส่วนทางด้านร้านในไทย หลายร้านก็อาจกำลังเตรียมพร้อมสำหรับปรากฏการณ์นี้ก็ได้
การปรับตัวเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการปรับตัวทางธุรกิจ แต่แง่หนึ่งมันก็คือการโอบรับเหล่า Solo Diner ว่าพวกคุณเองก็คือคนที่จะได้รับการดูแลจากร้านอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกับลูกค้าโต๊ะใหญ่ๆ และไม่ว่าเราจะโสด ไม่โสด มีเพื่อนมาก เพื่อนน้อย หรือไม่มีเพื่อน (ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ผิดแปลกหรือมีอะไรให้ต้องอับอาย) ก็ไม่ได้แปลว่าประสบการณ์ในการกินข้าวมื้อนั้นๆ ของเราต้องเงียบเหงาเศร้าซึม เพราะหลายร้านกำลังจะปรับตัวเพื่อต้อนรับพวกเราแล้ว สามารถใช้ชีวิตในแบบของตัวเองอย่างสบายใจกันได้เลย!
อ้างอิง
https://www.cnn.com/2024/08/31/business/solo-dining-restaurants-reservations/index.html
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- จะโสด-ไม่โสด หรือจะมีเพื่อนกี่คน คุณก็เป็น Solo Diner ได้ เรื่องของการ ‘กินข้าวคนเดียว’ ที่กลายเป็นเทรนด์จนร้านอาหารทั่วโลกยังต้องปรับตัว
- Donald Trump กล่าวในการปราศรัยว่าเขาขอเป็น ‘ผู้ปกป้อง’ ผู้หญิง หากได้รับเลือกเป็นผู้นำคนต่อไป
- ลูกสาวชาวจีนในแคนาดา ฟ้องศาลเรื่องการ ถูกเลือกปฏิบัติในฐานะ ‘ลูกสาว’ หลังแม่ให้มรดก ‘ลูกชาย’ มากกว่าหลายเท่า ทั้งที่เธอเป็นคนดูแล กิจการของที่บ้านและดูแลแม่ที่ป่วย
ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : Mirror Thailand.com