โค้งสุดท้ายศึกชิง นายกอบจ.พิษณุโลก 'มนต์ชัย' แชมป์เก่ามั่นใจคว้าชัย ส่วน 'หนูนา สิริพรรณ' เสียงดีขึ้น

โค้งสุดท้ายศึกชิง นายกอบจ.พิษณุโลก ‘มนต์ชัย’ แชมป์เก่ามั่นใจคว้าชัย ส่วน ‘หนูนา สิริพรรณ’ เสียงดีขึ้นหลังหมออ๋องถูกตัดสิทธิ

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม บรรยากาศการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกคึกคักมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะแชมป์เก่า นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ อดีต นายก อบจ.พิษณุโลก ผู้สมัครเบอร์ 1 ได้ออกหาเสียงในพื้นที่เขต อ.เมืองอย่างเข้มข้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้ลุยหาเสียง จากเขต 8 อำเภอรอบนอกมาอย่างหนักแล้ว โดยหากชาวพิษณุโลกที่ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเย็นค่ำ ผู้ที่จอดรถติดสัญญาณไฟจราจร ตามแยกต่างๆ โดยเฉพาะถนนทางแยกขนาดใหญ่ จะเห็นทีมงานมนต์ชัย เบอร์ 1 โบกธง พร้อมชูป้ายเบอร์ 1 และป้ายชวนไปเลือกตั้งวันที่ 18 สิงหาคม 67 แทบทุกทางแยกสำคัญ ในขณะที่วันนี้ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ อดีต นายก อบจ.พิษณุโลก ผู้สมัครเบอร์ 1 พร้อมทีม ส.อบจ. เขตเมือง ได้ระดมคนมาช่วยกันออกหาเสียง โดยขึ้นรถรางนั่งหาเสียงไปรอบเมืองพิษณุโลก เดินตามบ้านเรือน ตามตลาดสด เร่งพบปะประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ให้เลือกตนเอง มนต์ชัย เบอร์ 1 และเชิญชวนให้ออกมาใช้สิทธิ์ให้มากที่สุด

นายมนต์ชัย กล่าวว่า ได้เร่งเดินสายหาเสียงอย่างต่อเนื่อง ตามหมู่บ้านและทุกอำเภอทั้ง 9 อำเภอ พร้อมกับมีการเจาะกลุ่มประชาชน หาเสียงพื้นที่ต่างๆ กลุ่มพลังมวลชน ตามตลาด หรือแม้แต่ตามครัวเรือน ที่มีความจำเป็น มีขบวนรถแห่ รถโฆษณาประชาสัมพันธ์ ทั้งจังหวัดพิษณุโลก โดยเน้นนโยบาย “สานงานต่อ ก่องานใหม่” อย่างเช่น เรื่องการศึกษา มีการให้ทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาของ พิษณุโลกเป็นอนาคตของเด็กในการที่จะศึกษาต่อ เรื่องของสาธารณสุข ในด้านสาธารณสุข ที่ได้มีการถ่ายโอนมายัง อบจ .พิษณุโลก ก็จะมีการพัฒนาเป็น smart รพ.สต. หมอใกล้บ้าน หมอประจำครอบครัว จะมีการเดินหน้าต่อ การแพทย์ฉุกเฉินที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยในชุมชน โดยการประสานงานกับด้านสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เพื่อดำเนินการสนับสนุนกันเพื่อให้การแพทย์ฉุกเฉินมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายมนต์ชัยกล่าวว่า ส่วนกรณี ที่กลุ่ม การเมืองระดับชาติ กลุ่มพรรคก้าวไกล หลังจากจัดตั้งเป็นพรรคประชาชนแล้ว อ้างว่าจะลงพื้นที่มาช่วยหาเสียงในพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลก นั้นมองว่าเป็นคนละบริบทกัน การเมืองท้องถิ่นก็คือท้องถิ่น วันนี้ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนเห็นผลงาน เขาเลือกคนที่มีประสบการณ์ในการทำงาน มีผลงานไม่มีประวัติด่างพร้อย ให้เข้ามาทำงาน ในเรื่องของประสบการณ์ ความโปร่งใสในผลงานเป็นตัวการันตีอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ประชาชนรับได้ ตนทำงานจริง คนในพื้นที่ต่างรับรู้ ว่าตนมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แล้วก็ทำได้ด้วยนโยบายที่จับต้องได้ พูดจริงทำได้ ไม่หลอกลวงประชาชน ที่ออกไปหาเสียงในพื้นที่ เพื่อให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันมากๆ เพื่อออกไปให้ประชาชนได้เห็น ได้รู้จักตัวตนของเรา อีกทั้งออกไปเห็นสภาพพื้นที่ ประชาชนกินอยู่กันอย่างไร การเดินทางถนนไปมาหาสู่สะดวกไหม ทางเราไม่ได้ ไปหลอกๆไปจริง ๆ แต่ละอำเภอ ไปหาเสียง 3-5 วัน วันนี้ก็ออกหาเสียงในเขตเทศบาลนครพิษณุโลกและตำบลเขตเมืองนรอบนอก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่จะตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

ด้านนางสิริพรรณ คุณประจักษ์นุกูล ผู้สมัครนายก อบจ.พิษณุโลก อิสระ ในนามคณะก้าวหน้า เบอร์ 3 ได้ออกหาเสียงโดยเน้น ทางสื่อโซเชียล ติ๊กต๊อก (TikTok) Facebook จำนวนมาก พร้อมทั้งเดินสายหาเสียงในจุดสำคัญ ตามแผนทางวางไว้ ซึ่งหลังจากประเด็นที่พรรคก้าวไกลถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ก็ส่งผลมาถึงพวกเราในทีมบริหาร ทีมรณรงค์ อย่างมาก ส่วนประชาชนที่เป็นคนรุ่นใหม่ รับรู้ เชียร์อยู่ ก็มีความตื่นตัวที่จะออกมาช่วยเหลือ ในการทำแคมเปญมากขึ้น หลายคนมีให้ความสงสาร มีความเห็นอกเห็นใจ รวมถึงความคับแค้นใจ เริ่มออกมาสื่อสาร ช่วยเบอร์ 3 ในการรณรงค์และออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นายก อบจ.พิษณุโลก ให้ได้ ส่วนกระแสการตอบรับของประชาชนในช่วงนี้กระแสการตอบรับดีขึ้น

แนวการหาเสียง ต้องเร่งทำหลายอย่างในระยะเวลาที่กระชั้นชิด แต่ด้วยมีทีมงานที่มีประสบการณ์จึงสามารถทำให้หลายๆอย่างเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งแน่นอนว่าการเมืองใหม่ การใช้โซเชียลมีเดียในการหาเสียงถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะประชาชนเริ่มใช้กันอย่างกว้างขวาง สำหรับในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงก็จะเป็นการเร่งลงพื้นที่ทั้งเดินเท้า และ ขึ้นรถแห่รณรงค์ บอกเล่า สื่อสารนโยบาย ที่จะเปลี่ยนแปลงพิษณุโลก ให้ดีขึ้นได้ ภายใต้กรอบนโยบาย “การเมืองดี” (เช่น เปิดเผยข้อมูล อบจ. ติดตั้งระบบจับโกง,ผลักดันถ่ายทอดสดประชุมสภา อบจ.) “ปากท้องดี” (เช่น ลงทุนโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรในจังหวัด, ลงทุนเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรนอกเขตชลประทาน,ปลดล็อคศักยภาพด้านการท่องเที่ยว) “มีอนาคต” (เช่น ปฏิวัติการศึกษาโรงเรียนในสังกัด จัดอบรมเพิ่มทักษะชีวิตให้ประชาชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา, ส่งเสริมกีฬา สร้างลีกส์กีฬาภายในจังหวัด, เพิ่มพื้นที่สีเขียว 20% ในเขตเมือง, บูรณาการปัญหาขยะของจังหวัด) เป็นต้น ซึ่งในช่วงสุดท้ายเราจะมีเวทีปราศรัยหาเสียงในหลายๆพื้นที่

สำหรับผู้สมัครหมายเลข 2 คือ นายเศรษฐา กิตติจารุรักษ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 อดีต ส.อบจ.เมืองพิษณุโลก มีความมุ่งมั่นอาสาทำงาน สานต่องานใหม่แก้ไขและจะปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชนคนท้องถิ่น เน้นหาหาเสียงโดยใช้รถแห่ และขับรถไปตามหมู่บ้าน เพื่อแนะนำตัว พร้อมส่งลูกชาย นายธนิต กิตติจารุรักษ์ เดินหาเสียงกับประชาชน ทีมทำแบบเรียบง่าย ไม่ได้ทุ่มงบประมาณมากมายนัก โดยนโยบายเน้นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิต สังคมที่มีคุณภาพสร้างเสริมเยาวชนสร้างอนาคตชาติผู้สูงวัยมีสุขภาพดีมีความสุข สังคมแห่งการเรียนรู้พัฒนาตนเองให้โอกาสประชาชน สังคมคุณธรรมคืนศีลธรรมสู่ประชาชน โดยมีสโลแกนในการทำงานว่าเข้าถึงปัญหา เข้าใจประชาชนพัฒนาที่ยั่งยืน

หากวิเคราะห์ สมามเลือกตั้ง นายก อบจ.พิษณุโลก ช่วงโค้งสุดท้ายนี้ มีเพียง มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ อดีต นายก อบจ.พิษณุโลก ผู้สมัครเบอร์ 1 ที่เรียกว่านอนมา แต่ไม่ประมาทลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ 9 อำเภออย่างหนัก โดยมี ส.อบจ.แต่ละอำเภอ ช่วยหนุนการหาเสียงในแต่ละพื้นที่ทำให้มีกระแสนำโด่ง ขณะที่หนูนา นางสิริพรรณ คุณประจักษ์นุกูล เบอร์ 3 เป็นผู้สมัคร อิสระ ด้วยเวลาจำกัดเป็นอุปสรรคลงพื้นที่หาเสียงไม่ทั่วถึง จึงเน้นการหาเสียงผ่านสื่อโซเชียลเห็นหลัก เพื่อหวังเสียงจากคนรุ่นใหม่ และมีคะแนนคนชื่นชอบเห็นอกเห็นใจ จากการยุบพรรคก้าวไกล เพิ่มขึ้น แม้หนูนาหากผ่านนั่งเก้าอี้ นายก อบจ. ได้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะ ส.อบจ.พิษณุโลก ล้วนเป็นคน ของ มนต์ชัย อดีตนายก อบจ.พิษณุโลก

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : โค้งสุดท้ายศึกชิง นายกอบจ.พิษณุโลก ‘มนต์ชัย’ แชมป์เก่ามั่นใจคว้าชัย ส่วน ‘หนูนา สิริพรรณ’ เสียงดีขึ้น

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th