พบซากกระเบนราหู ใหญ่กว่า 2 เมตร ริมทะเลดอนหอยหลอด หางถูกตัด
สลด พบซากกระเบนราหูกว่า 2 เมตร ริมทะเลดอนหอยหลอด หางถูกตัด
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.พรวรรณ พนักงานร้านอาหารเคียงทะเล ว่าพบ ซากกระเบนราหูขนาดใหญ่ลอยติดริมทะเลดอนหอยหลอด บริเวณหน้าร้านเคียงทะเล หมู่ 4 ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบพร้อมนางสุภาพ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางจะเกร็ง, น.ส.ญาฑิตา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บริเวณริมทะเลพบซากกระเบนราหูขนาดใหญ่ วัดลำตัวขนาดกว้าง 2.2 เมตร ยาวจากหัวถึงโคนหาง 2.1 เมตร หางถูกตัดกุดถึงโคน ลำตัวมีสภาพเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นโชยไปทั่วบริเวณ
น.ส.พรวรรณกล่าวว่า ขณะกำลังเช็ดโต๊ะอาหาร มองไปในทะเลเห็นอะไรลอยมา ตอนแรกคิดว่าเป็นฟูกลอยน้ำมาติดกับชายฝั่งจึงออกไปดู พบว่าเป็นกระเบนราหูขนาดใหญ่ ตกใจมาก ไม่เคยเห็นกระเบนใหญ่ขนาดนี้ ที่น่าสงสารคือหางถูกตัด
นางสุภาพกล่าวว่า ลักษณะที่ถูกตัดหางน่าจะเป็นชาวบ้านมาพบซากกระเบนราหูแล้วตัดหางไป เพราะไม่น่าจะตัดตอนเป็นๆ ได้ กระเบนจะฟาดหางไปมา โดยชาวบ้านน่าจะตัดไปตากแห้งและนำไปโชว์ เนื่องจากหางใหญ่มาก ยาวประมาณ 2 เมตร ส่วนสาเหตุการตายน่าจะเกิดจากช่วงนี้มีน้ำแดงจากแม่น้ำไหลลงทะเลเยอะทำให้สภาพน้ำเสียไป ทำให้กระเบนตาย แต่ยังโชคดีเจอแค่ 1 ตัว ซึ่งจากนี้ไปต้องเฝ้าระวังสังเกตว่าจะมีตายเพิ่มหรือไม่
ต่อมา เวลา 18.00 น. นายรุ่งนิรันดร์ จันทร์แจง หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย นายปริญญา สมหวัง ประมงอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเป็นกระเบนราหูอายุไม่น้อยกว่า 20 ปี ไม่ทราบเพศเพราะอวัยวะเพศเน่าเปื่อยยุ่ย หนักกว่า 200 กิโลกรัม ไม่สามารถนำขึ้นบริเวณร้านเคียงทะเล เพราะห่างจากถนนมาก จึงใช้เรือลากซากกระเบนไปขึ้นที่ริมถนนดอนหอยหลอดที่ติดกับทะเล ห่างจากจุดพบซากกระเบนประมาณ 400 เมตร
เมื่อมาถึงต้องใช้คนช่วยลากประมาณ 10 คน แต่ก็ไม่สามารถลากซากกระเบนขึ้นฝั่งได้ ต้องใช้รถยนต์ลาก โดยครั้งแรกเชือกขาด เนื่องจากหนักกว่า 200 กิโลกรัม จึงนำผ้าใบมารองแล้วใช้รถยนต์ลากครั้งที่ 2 กระทั่งเวลา 19.30 น. จึงสามารถลากซากกระเบนขึ้นฝั่งได้ และช่วยกันนำซากกระเบนราหูขึ้นรถยนต์ได้อย่างทุลักทุเล ก่อนจะนำไปตรวจสอบและทำลายซากด้วยการฝั่งกลบ
นายรุ่งนิรันดร์กล่าวว่า จากการตรวจสอบยังไม่สามารถตรวจสอบสาเหตุได้ แต่เท่าที่ดูน่าจะไม่ได้ตายตามธรรมชาติ เพราะหากตายตามธรรมชาติ ก่อนจะลอยต้องเน่าและเปื่อยยุ่ยมากกว่านี้ ขอบจะแทบไม่เหลือ และกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว แต่สิ่งที่พบยังไม่เน่าเท่าไหร่ ส่วนหางที่โดนตัดก็ไม่ทราบว่าตัดช่วงเวลาไหน ซึ่งต้องนำไปตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตว่ากระเบนราหูตัวนี้อาจโดนตกขึ้นมาแล้วตัดหาง เพราะหากเป็นผู้เชี่ยวชาญจะสามารถตัดหางปลากระเบนได้
สำหรับ กระเบนราหู เป็นชื่อที่ชาวบ้านเรียกคือ กระเบนเจ้าพระยา จ.สมุทรสงคราม ได้ประกาศห้ามจับปลากระเบนราหูในท้องที่โดยเด็ดขาด โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2553 โดยนายประภาศ บุญยินดี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น ยกเว้นการทำเพื่อการวิจัย และได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมประมง หากบุคคลใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท หรือปรับ 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ทำการประมง นอกจากนี้ผู้ที่ฝ่าฝืน ยังมีข้อกฎหมายตามมาอีกหลายข้อ ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ที่กระทำหันกลับมาช่วยกันอนุรักษ์สัตว์น้ำประเภทนี้ไว้ให้ลูกหลานในอนาคต
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พบซากกระเบนราหู ใหญ่กว่า 2 เมตร ริมทะเลดอนหอยหลอด หางถูกตัด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th