กลุ่มเส้นด้าย เล็งตั้งโรงพยาบาล ช่วยผู้ป่วยโควิดแบบครบวงจร
“คริส โปรตระนันทน์” เผยปรับสถานะกลุ่มเส้นด้าย เป็น “คลินิกเส้นด้าย” เล็งต่อยอดเป็นโรงพยาบาลในอนาคต
วันที่ 15 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเส้นด้าย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 เป็นหนึ่งในกลุ่มอาสาสมัครที่มีจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เกิดขึ้นในไทย ทั้งบริการขับรถรับ-ส่งผู้ป่วย ติดต่อประสานนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา ตลอดจนนำศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตไปทำพิธีทางศาสนา
ล่าสุด นายคริส โปรตระนันทน์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มเส้นด้าย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งเป็น “คลินิกเส้นด้าย” ขึ้นมา จากที่ก่อนหน้านี้เราก็ทำการรักษาผู้ป่วยอยู่แล้ว ทำเรื่องเส้นด้ายหายที่บ้าน ส่งยาไปให้ แต่ทั้งหมดนี้ต้องทำภายใต้หน่วยสถานบริการ คือ สภากาชาดไทย แต่ในปีนี้สภากาชาดไทยไม่ได้ทำงานในด้านโควิดแล้ว กลุ่มเส้นด้ายจึงจำเป็นต้องจัดตั้งเอง ซึ่งจะเริ่มจากการเป็นคลินิกก่อน และต่อไปอาจจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลขึ้นมา
“ต่อไปอาจจะตั้งเป็นโรงพยาบาลอันนี้ก็เป็นไปได้ คือมันเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ โรงพยาบาลก็ไม่ได้ตั้งง่าย ๆ แต่เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะดูว่า มันจะเป็นไปได้มากหรือน้อยแค่ไหน แต่จริง ๆ สิ่งที่เราเป็นตอนนี้ก็แทบจะเป็นโรงพยาบาลอยู่แล้ว ทั้งบริการตรวจ บริการรักษา บริการทำเทเลเมดิซีน อันนี้เราแทบจะครบแล้วครับ”
กลุ่มเส้นด้ายทำอะไรไปแล้วบ้าง ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของกลุ่มเส้นด้ายมีการรายงานข้อมูลไว้บนหน้าเพจเฟซบุ๊กเส้นด้าย – Zendai เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ซึ่งนับเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน หลังเริ่มจัดตั้งกลุ่มเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564
โดยพบว่า มีจำนวนเคสผู้ป่วยที่ได้รับการช่วยเหลือ 1,692 คน จำนวนรถรับ-ส่งผู้ป่วยมากกว่า 2,200 รอบ รับผู้ป่วยเข้ารักษาบ้านเส้นด้าย 294 คน
รับสายโทรศัพท์ 2,602 สาย ตรวจเชิงรุกมากกว่า 1,000 คน ส่งอาหารให้กับผู้กักตัวและเดือดร้อนมากกว่า 6,000 กล่อง รับศพไปทำพิธีทางศาสนา 3 ศพ และดูแลสัตว์เลี้ยงของผู้ป่วยมากแล้ว 64 ตัว
ผ่านเวลาไปร่วมปี กลุ่มเส้นด้ายได้ขยายผลการดำเนินงานไปหลายเท่าตัว จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในแต่ละระลอกของการระบาด โดยข้อมูลในปี 2565 พบว่า มีจำนวนรอบรถรับ-ส่งผู้ป่วยไปรักษาตัวมากกว่า 7,000 รอบ
ประสานงานนำตัวผู้ป่วยคนที่ตกหล่นเข้ารักษาที่โรงพยาบาลมากกว่า 5,000 คน ดูแลผู้ป่วยในระบบรักษาตัวที่บ้านมากกว่า 6,000 คน รับสายโทรศัพท์จากผู้ป่วยมากกว่า 70,000 สาย ตรวจเชิงรุกมากกว่า 300,000 คน รวมไปถึงดูแลสัตว์เลี้ยงของผู้ป่วยมากกว่า 100 ตัว