โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

9 เดือนแรก 67 “สิงห์ เอสเตท” กวาดรายได้ “หมื่นล้าน” เล็งเปิด 4 โครงการอสังหา

การเงินธนาคาร

อัพเดต 18 พ.ย. 2567 เวลา 15.41 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2567 เวลา 08.41 น.

สิงห์ เอสเตท เปิดรายได้ 9 เดือนแรกของ ปี 2567 จำนวน 11,431 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% จากยอดขายอสังหาริมทรัพย์โตพุ่ง 50% กว่า 2,534 ล้านบาท เตรียมเปิดตัว 4 โครงการ ในเซกเมนต์ลักชัวรี ถึง ซูเปอร์ ลักชัวรีภายใต้แบรนด์ สมิทธ์

นางสาวฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า “ถึงแม้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีความท้าทาย แต่ภาพรวมการดำเนินงานของสิงห์ เอสเตทในช่วง 9 เดือนแรกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นในเซกเมนต์ลักชูรี ซึ่งยังมีความต้องการของลูกค้าที่แข็งแกร่ง สำหรับการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4 เรายังคงมุ่งมั่นรังสรรค์โครงการคุณภาพ

โดยภายในปลายปีนี้จนถึงช่วงต้นปีหน้า เตรียมเปิดตัว 4 โครงการ ในเซ้กเมนต์ลักชัวรี ถึง ซูเปอร์ ลักชัวรี เป็นโครงการคอนโดร่วมทุน 1 โครงการ ตั้งอยู่บนทำเลพระราม 3 และบ้านเดี่ยว 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ สมิทธ์ (SMYTH’S) บน 2 ทำเลสำคัญ ได้แก่ รามอินทรา และ เกษตร-นวมินทร์ และ S’RIN Prannok-Kanchana (สริน พรานนก-กาญจนา) บน ถนน พรานนก-ตัดใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,800 ล้านบาท

ในส่วนกลุ่มธุรกิจโรงแรมมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เราเห็นแรงขับเคลื่อนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ด้วยกลยุทธ์การขยายตลาดเชิงรุกไปยังตลาดใหม่พร้อมการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดี ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) ปรับตัวเพิ่มขึ้น กว่า 12% จากปีก่อนหน้า”

สำหรับธุรกิจที่พักอาศัย ยังเห็นสัญญาณการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการบ้านระดับ ซูเปอร์ลักชัวรีและพรีเมียมลักชัวรีและ อาทิ ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส (Siraninn Residences), สริน ราชพฤกษ์- สาย 1 และโครงการคอนโดมิเนียมดิ เอส สุขุมวิท 36

เช่นเดียวกับการตอบรับที่ดีต่อโครงการ ที่เปิดตัวระหว่างปีได้แก่ ฌอน ปัญญาอินทรา (SHAWN Panya Indra) และ ฌอน วงแหวน-จตุโชติ (SHAWN Wongwaen - Chatuchot) ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวในกลุ่มลักซ์ชัวรี ได้เริ่มเห็นการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมา

ณ สิ้นไตรมาส 3 บริษัทฯ มี Backlog อีกกว่า 1,824 ล้านบาท ซึ่งเราตั้งเป้าหมายในการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 38% ของยอด Backlog ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้รายได้ทั้งปี เติบโตได้ตามเป้า

ผลประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรมรอบเก้าเดือนแรก ที่ผ่านมาเติบโตอย่างโดดเด่น โดยกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% แตะระดับ 1,918 ล้านบาท สะท้อนประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่าย พร้อมขยายฐานลูกค้าจากตลาดใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาด ก่อให้เกิดการกระจายตัวด้วยมูลค่าทางเศรษฐกิจและฤดูกาล ซึ่งจะผลักดัน RevPAR เติบโตขึ้น 12%

สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 บริษัทฯ มองเห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจโรงแรมในช่วง high season ทั้งในประเทศไทย มัลดีฟส์ และมอริเชียส โดยห้องพักที่ปิดปรับปรุง 173 ห้องของโรงแรม ทราย ลากูน่า ภูเก็ต (SAii Laguna Phuket) จะทยอยเปิดให้บริการอีกครั้งภายในเดือนธันวาคม พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวช่วง high season และคาดว่าจะปรับเพิ่มอัตราค่าห้องพัก ได้ถึง 15-20% จากการปรับปรุงดังกล่าว พร้อมแรงสนับสนุนจากการเพิ่มรายได้จากบริการอื่น ๆ เช่น อาหารและเครื่องดื่ม (F&B) และสปา ตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้

สำหรับธุรกิจอาคารสำนักงาน ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถคว้ารางวัล Global Business Outlook Award 2024 สาขา Most Innovative New Office Building Development จากโครงการ S-OASIS ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาคารสำนักงานของบริษัทฯ รางวัลนี้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของการออกแบบอาคารอัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โดยเอส โอเอซิส (S-OASIS) นับเป็นอาคารสำนักงานที่ยั่งยืนระดับแนวหน้าของไทยในย่านวิภาวดี ซึ่งปัจจุบัน นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนกำลังเป็นที่ต้องการสูงจากผู้เช่าที่ยึดถือหลักการทำธุรกิจแบบมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการนี้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นในตลาด เราคาดว่าอัตราการเช่าพื้นที่ของอาคาร เอส โอเอซิส (S-OASIS) จะสามารถไปสู่เป้าที่ระดับ 50% ภายในสิ้นปี 2567

ทางด้านกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ปัจจุบันเรามีโครงสร้างพื้นฐานอย่างครบครัน ทั้งในส่วนของการบริหารจัดการน้ำ และไฟฟ้าที่มีความมั่นคง นับเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งในการดึงดูดนักลงทุน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการย้ายฐานการผลิตจากนักลงทุนต่างชาติหรือมาตรการการลงทุนจากทางภาครัฐเข้ามาสนับสนุน

ซึ่งในปี 2567 มีนักลงทุนสนใจเข้าชมพื้นที่นิคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าจากประเทศจีน และไต้หวัน ซึ่งเรามีการรับรู้รายได้จากการโอนที่แก่นักลงทุนแล้วทั้งสิ้นจำนวน 56 ไร่ และส่วนแบ่งกำไรกว่า 100 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี จากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมทั้ง 3 แห่งในนิคมฯ ที่เปิดดำเนินการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานนับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตรายได้ของสิงห์ เอสเตท

“นอกจากนี้ สิงห์ เอสเตท ยังได้รับการยอมรับจากรางวัลคุณภาพมากมาย เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยได้รับ 4 รางวัลจาก PropertyGuru Thailand Property Awards ครั้งที่ 19 จากโครงการดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ (THE EXTRO Phayathai-Rangnam) และรางวัล Global Business Outlook 2024 สาขา BEST LUXURY DEVELOPERS – Residential ทั้งหมดนี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการและบริการที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า”

อ่านข่าว แวดวงธุรกิจ ที่น่าสนใจ ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...