ผอ.สพม.29 โร่แจง ถูกร้อง ปปช.สอบกระทำผิด แก้เดือนเกิด ได้ประโยชน์เกษียณ
จากกรณีสมาชิกชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดอุบลราชธานี นำโดยนายชาคริต พิมพ์หล่อ อายุ 54 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนโขงเจียมวิทยาคม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.จังหวัดอุบลราชธานี ขอร้องทุกข์กล่าวโทษนายพิทยา ไชยมงคล ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 โดยกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ข้าราชการ เพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์ กรณีมีการแก้ไขเดือนเกิด โดยหลักฐานสมุดประวัติข้าราชการ (ก.พ.7) ระบุว่า นายพิทยาเกิดวันที่ 19 กรกฎาคม 2502 แต่ภายหลังได้แก้ไขตัดตอนข้อความเป็นเกิดวันที่ 19 ตุลาคม 2502 เพื่อให้ตนเองได้ประโยชน์จากการเกษียณอายุราชการเลื่อนออกไปอีกถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 11 พฤษภาคม นายวิบูลย์ กุลวงศ์ ประธานชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ตามหลัก เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผอ.สพม.29 มีความพยายามที่จะแก้ไขเดือนเกิดให้แตกต่างไปจากเอกสารหลักฐานใน ก.พ.7 (ทะเบียนประวัติข้าราชการ) ซึ่งเป็นเอกสารที่บันทึกประวัติย่อที่สำคัญและจำเป็นของข้าราชการ หลักฐานการขอจบการศึกษาจากสถาบันต่างๆ ซึ่งเอกสารเหล่านี้ยืนยันตั้งแต่การรับราชการ ซึ่งนายพิทยาเข้ารับราชการ เจ้าตัวก็ได้เซ็นรับรองว่าเกิดวันเดือนปีในท้ายสมุดประวัติ ตั้งแต่บรรจุรับราชการ ซึ่งใน ก.พ. 7 ระบุเกิดวันที่ 19 กรกฎาคม 2502 หรือถ้าผิดพลาดคาดเคลื่อนหรือไม่ตรงตามความเป็นจริง ก็ต้องมีหลักฐานสูติบัตรมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ไม่ใช่ว่าหลังจากเกษียณแล้ว หรือจะเกษียณแล้วถึงจะมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ตัวเองได้เลื่อนเกษียณอายุราชการออกไปอีก 1 ปี ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย
ด้านนายพิทยาเปิดเผยว่า ประเด็นที่ถูกนายชาคริตร้องเรียนนั้น ได้ดำเนินการทำตามระเบียบทุกประการ และได้ส่งเอกสารหลักฐานให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาแล้ว สำหรับเดือนเกิดใน ก.พ.7 ระบุเกิดวันที่ 19 กรกฎาคม 2502 ไม่ตรงกับทะเบียนราษฎร์ ที่เกิดวันที่ 19 ตุลาคม 2502 ซึ่งเอกสารทะเบียนบ้านตนเองก็ไม่เคยแก้ไขแต่อย่างใด ซึ่งได้ทำเรื่องแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อให้ต้นสังกัดได้พิจารณาแล้ว โดยต่อมาทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานก็ได้ส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอมติจากคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่าจะมีผลการพิจารณาเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาก็มีข้าราชการครูยื่นขอแก้ไขเป็น 1,000 ราย ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นผู้ดำเนินการ ถ้าพิจารณาแล้วได้ก็ตามสิทธิแต่ถ้าไม่ได้ ก็ไม่มีสิทธิ