1. ขึ้นชื่อว่าทุกข์ ล้วนเกิดจากตัณหา ท่านอยากได้สิ่งใด ก็ทุกข์เพราะสิ่งนั้น จะไม่มีสิ่งใดในโลกที่ท่านอยากได้แล้วไม่นำทุกข์มาให้ ใครจะเอาแต่แสงไฟโดยปราศจากความร้อนย่อมเป็นไปไม่ได้
อยากได้ความรักก็จะทุกข์เพราะความรัก อยากได้เงินทองก็จะทุกข์เพราะเงินทอง อยากให้ผู้คนยกย่องสรรเสริญ อุ้งเท้าแห่งคำติฉินนินทาย่อมกระทืบท่านจมดิน ดังนั้น เมื่อท่านมีความทุกข์ จงพิจารณาให้ดีว่าท่านกำลังอยากได้สิ่งใดอยู่ ค้นให้เห็นหาให้เจอ แล้วลงมือแก้ความทุกข์จากตรงนั้น ดับความต้องการในสิ่งนั้นได้ ความทุกข์ก็มีโอกาสเบาบางลงได้
2. ความทุกข์คือนักเต้นรำเท้าไฟ มันเคลื่อนที่ตลอดเวลา มันเกิดขึ้น คงอยู่ แล้วมันก็ดับไป แล้วมันก็ก่อตัวขึ้นใหม่ วงจรเช่นนี้คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน เหมือนปรากฏการณ์ฟ้าคลั่ง มีสายน้ำ มีการระเหยตัว จากดินสู่ฟ้า ก่อตัวเป็นเมฆขาว ควบแน่น กลั่นตัวเป็นเม็ดฝน เพื่อกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง
เมื่อท่านยอมรับสิ่งใดไว้ในครอบครอง นั่นคือจุดเริ่มต้นของวงจรแห่งทุกข์ ท่านได้มาแล้วท่านก็ต้องรักษา เมื่อเริ่มรักษา ก็จะพบว่าท่านรักษาอะไรไว้ไม่ได้สักอย่าง ทั้งคนบางคน ทั้งของบางชิ้น ทั้งความรู้สึกบางอย่าง ล้วนแสดงธาตุแท้ว่ามันไม่ใช่ของ ๆ ท่าน เมื่อได้ครอบครองสิ่งใด อย่าด่วนสรุปว่านี่คือความสุข
จงตั้งสติแล้วเริ่มสังเกต เมื่อสังเกต ท่านจะพบความจริงสองประการ หนึ่ง ท่านจะเห็นใจที่เคลื่อนเข้าไปยึด สอง ท่านจะเห็นว่า ขณะที่ใจของท่านกำลังยึด สิ่งที่ท่านยึด ก็กำลังถอยห่างจากท่านในเวลาเดียวกัน “ยิ่งมีจิตแห่งการครองครองมากเท่าไหร่ ความสงบเย็นในชีวิตยิ่งน้อยลงเท่านั้น”
3. โลกนี้มีคนเป็นพันล้าน มีทารกหลายคนถูกทิ้งถังขยะ มีเด็กสาวหลายคนถูกชายชั่วข่มขืน มีแม่หลายคนต้องจัดงานศพให้ลูกของตัวเอง หลายครอบครัวในหลายประเทศไม่มีที่ซุกหัวนอนเพราะพิษภัยสงคราม โลกของเราเต็มไปด้วยคนหัวใจสลาย เมื่อท่านมีความทุกข์ ขอให้ท่านหลุดจากภวังค์แห่งทุกข์ของตนชั่วคราว แล้วมองไปที่คนเหล่านี้
“คิดให้ดีว่าความทุกข์ของท่านใหญ่หลวง หรือการปรุงแต่งของท่านใหญ่หลวง” การคิดถึงตนเองมากเกินไป ย่อมนำความทุกข์มาให้โดยปริยาย แม้ท่านต้องการพบเจอกับความทุกข์ให้น้อยที่สุด ท่านต้องคิดถึงตนเองให้น้อยที่สุด และคิดถึงเพื่อนมนุษย์ให้มากที่สุด ต่อให้ท่านกลายเป็นคนพิการ ถ้าท่านคิดถึงเพื่อนมนุษย์มากกว่าความพิการของตนเอง ความพิการก็ไม่สามารถสร้างความทุกข์ให้ท่านได้เลย
4. เราทั้งหลายคือเพื่อน ไม่มีคำจำกัดความอื่นนอกจากความเป็นเพื่อน แม้เขาทำให้ท่านเจ็บช้ำไปบ้าง แต่เขาก็ยังนับว่าเป็นเพื่อนของท่านอยู่ดี ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ เราทุกคนไม่แตกต่างกันเลย ทุกชีวิตล้วนอยู่ภายใต้ความเปาะบาง มีน้ำตา มีความเจ็บปวด มีความโดดเดี่ยวอ้างว้างเป็นของตนเอง สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครเติมเต็มให้พวกเราได้ จงช่วยกัน ดูแลซึ่งกันและกัน
แม้วันนี้เรามีความทุกข์ จงย้ำกับตนเองว่า วันหน้าเราจะไม่ขอมีส่วนในการสร้างทุกข์ให้ผู้อื่น ถ้าเราทุกข์เพราะความขัดสน วันหน้าจงให้โอกาสคน อย่าคดโกงคน อย่าเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์คนใด ถ้าวันนี้เราทุกข์เพราะขาดความรัก วันพรุ่งนี้จงให้ความรัก แบ่งปัน และให้อภัย อย่าทำให้เพื่อนมนุษย์คนใดต้องสูญสิ้นกำลังใจเพราะเรา “ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เพื่อนมนุษย์ คือการสลายความเจ็บปวด และความทุกข์ที่ดีที่สุด”
5. “ความทุกข์คือสามัญลักษณะ เป็นพื้นฐานในการดำรงอยู่ของชีวิต” จะไม่มีใครในโลกที่รอดไปจากการสูญเสียคนรัก ทั้งจากเป็นและจากตาย จะไม่มีใครในโลกที่รอดพ้นไปจากการสูญเสียเงินทอง วัตถุสิ่งของที่ตนหวงแหน จะไม่มีใครในโลกที่รอดพ้นไปจากการติฉินนินทา จะไม่มีใครในโลกที่รอดพ้นไปจากความยากลำบากในการหาเลี้ยงชีพ เพราะทุกคนต่างแหวกว่ายอยู่ในนาวาแห่งสังสารวัฏที่มีความทุกข์ดั่งแม่น้ำใหญ่ มีความสุขดั่งแผ่นฟ้ากว้าง และมีอัตตาตัวตนดั่งแผ่นดินทับถล่ม แล้วสายลมก็พัดผ่าน
แล้ววันหนึ่ง เราทั้งหลายก็ต้องพบปะกับวันวัยแห่งความชรา แม้แต่งตัวด้วยความประณีตตั้งใจให้สวยงามเพียงใด แต่เราไม่อาจงดงามได้อย่างเดิม วันหนึ่งเราจะเดินไม่ได้ วันหนึ่งเราจะกินอาหารใดๆ ไม่รู้รส จะไม่ได้ยินเสียงบทเพลงไพเราะ จะมองไม่เห็นใบหน้าของผู้เป็นที่รักได้ชัดเจนเหมือนเก่า แต่เราอาจพบความจริงว่า
ความทุกข์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และความทุกข์นี่เองคือเพื่อนแท้ที่สอนให้เราตระหนักถึงความงดงามของการมีชีวิตอยู่ ขณะที่เรากำลังดื่มด่ำกับความหมายที่แท้จริงของชีวิต ทันใดนั้น สายลมพัดผ่านแล้วลมหายใจสุดท้ายของเราก็ดับลง…
ความเห็น 8
บางทีสิ่งที่สมควรคิดและนึกถึงอยู่เสมอก็คือสิ่งที่อยู่รอบตัวนั้นไซร้ไม่มีสิ่งใดที่จะอยู่ได้ไปตลอดการทุกอย่างยิ่งมีการสูญสลายไม่ว่าเกิดก็มีตายและไม่มีใครที่จะอยู่ดั่งเดิมได้้ไปตลอดกาลย่อมเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
แต่หากเลือกที่จะทำในสิ่งดีนั้นไม่ว่าจะอยู่ในกองอาจมก็ย่อมมีสิ่งใดหรือบุคคลใดที่มองเห็นค่าของสิ่งนั้นอยู่แล้ว
20 ส.ค. 2562 เวลา 04.50 น.
ขอบคุณครับอาจารย์
19 ส.ค. 2562 เวลา 05.12 น.
chAyA
การแสดงความคิดเห็นในเรื่องเกี่ยวกับ"พระสัทธรรม"ของพุทธองค์ เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว เห็นอะไรที่มันไม่ใช่.. เราจะนิ่งเฉยก็ใช่ที่ เราเชื่อว่า "การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง"
เราใช้ภาษาที่ตรงที่สุดแล้ว หากใครที่พอจะศึกษาธรรมะมาบ้าง คงพอจะคุ้นเคยกับคำว่า "บอกต่อ ทางลัด หลงทาง.."แก่นแท้ของคำสอนของพุทธองค์ ใครจะเขียนวกวนไป-มา.?แต่เราก็ยังสามารถจับประเด็นได้ ใช่..ไม่ใช่ก็ว่ากันไป (ไม่ใช่มาบอกงง.???)
คุณเปลี่ยนชื่อแต่ใช้ซิมเดิม จะมีประโยชน์อะไร.? ถ้ากล้าชนกับเรา.. ทิ้งเบอร์ไว้สิ.!!
18 ส.ค. 2562 เวลา 07.49 น.
kanokporn
อนิจัง..ทุกอย่างไม่เที่ยง
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
17 ส.ค. 2562 เวลา 15.50 น.
เมื่อเสียไปก็ต้องได้มา ก็เป็นทุกข์
เมื่อได้รับการให้อภัยแต่กลับทำผิดซ้ำอีก....
17 ส.ค. 2562 เวลา 10.04 น.
ดูทั้งหมด