โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชวนดู The The Invisible Man สะท้อนอำนาจที่มองไม่เห็น

TODAY

อัพเดต 11 มี.ค. 2563 เวลา 06.56 น. • เผยแพร่ 11 มี.ค. 2563 เวลา 04.41 น. • Workpoint News

ภาพยนต์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของภรรยาที่ถูกสามีกดขี่ทำร้ายและบงการทุกอย่างในชีวิตแม้กระทั่งความคิด ฉากเปิดเรื่องมาเป็นตอนที่ เซซิเลีย รับบทโดย เอลิซาเบธ มอสส์ ลอบหนีออกจากบ้านหรูริมมหาสมุทรในเวลากลางดึกที่เธออาศัยอยู่กับสามีชื่อ เอเดรียน กริฟฟิน รับบทโดย (โอลิเวอร์ แจ็คสัน-โคเฮน)  นักธุรกิจและนักประดิษฐ์เทคโนโลยีด้านทัศนศาสตร์ (ภาพและการมองเห็น)

หลังจากเธอหนีออกจากบ้านได้ไม่นาน ก็มีข่าวออกมาว่า เอเดรียน สามีของเธอฆ่าตัวตายและทิ้งสมบัตรมหาศาลไว้ให้ เธอมอบเงินส่วนหนึ่งให้หลานได้เรียนต่อ แต่ในขณะเดียวกันเธอกลับรู้สึกว่ามีเหตุการณ์แปลกๆ เหมือนมีคนเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา ขณะที่คนรอบข้างเริ่มมองว่าเธอบ้าและยังทนทุกข์กับบาดแผลทางจิตใจที่เกิดจากความรุนแรงในครอบครัว  เธอพยายามพิสูจน์ว่าเธอถูกไล่ล่าจากใครบางคนที่ไม่มีใครเห็น

ครั้งนี้ The Invisible Man ถูกนำกลับมารื้อใหม่โดยทีมสร้างบลัมเฮาส์ (Blumhouse) ทีมสร้างหนังที่ถนัดเรื่องหนังสยองขวัญต้นทุนต่ำแต่เน้นเรื่องประเด็นและบทภาพยนต์แทน อย่างเรื่องเด่นๆเลยก็คือ Get Out ผลงานของ จอร์แดน พีล ที่รับหน้าที่เป็นทั้งคนเขียนบทและกำกับการแสดง ที่ไปคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์มาแล้ว ถ้ายังจำกันได้เมื่อ 3 ปีที่แล้วหนังเรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างมากโดยหนังมีประเด็นเรื่องการเหยียดสีผิวและนำเสนอออกมาอย่างร้ายกาจ

 

ภาพยนต์นำเสนอมุมมองมนุษย์ล่องหนได้อย่างน่าสนใจ

หากจะชมเพื่อความบันเทิง หวังเห็นเทคนิคการถ่ายทำล้ำๆ อาจจะผิดหวังได้กับภาพยนต์เรื่องนี้ เพราะไม่มีเทคนิคพิเศษมากนัก หากแต่หนังเรื่องนี้เน้นเรื่องบทภาพยนต์ โดยประเด็นที่ถูกพูดถึงคือ ประเด็นการถูกกดขี่ของผู้หญิง การทำร้ายร่างกายและความรุนแรงในครอบครัว แน่นอนว่าประเด็นนี้ถูกนำเสนอตั้งแต่ตัวอย่างของภาพยนต์แล้ว ซึ่งในมุมของสัญญะทางภาพยนต์ สิ่งที่หนังต้องการจะสื่อคือ การคุกคามทางเพศและความรุนแรงที่มีอยู่จริงในสังคม แต่ทว่ากลับไม่ถูกมองเห็น ไม่มีใครเชื่อเซซิเลียเมื่อเธอพยายามอธิบายว่านี่เป็นแผนการของมนุษย์ล่องหน และการที่ผู้หญิงคนหนึ่งถูกโยนข้อหาว่าเป็นบ้า เหล่านี้เป็นการเสียดสีปัญหาการคุกคามทางเพศ และเปิดเผยอคติของสังคมต่อผู้หญิงมีแนวโน้มจะใช้อารมรณ์ อ่อนไหว ตีโพยตีพาย และมีสภาวะจิตใจที่อ่อนแอเหมือนคนเสียสติ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เมื่ออยู่ในสถาณการณ์คับขัน หนังเล่าเรื่องจากมุมของผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อ สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ที่มีกระแส #Metoo ที่เริ่มต้นจากมีการเปิดโปงพฤติกรรมของโปรดิวเซอร์ใหญ่ในวงการฮอลลีวูดฮาวีย์ ไวน์สตีน (Harvey Weinstein) ว่ามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศดาราหญิงและลูกจ้างหลายราย กระแส #MeToo เริ่มขึ้นในสหรัฐฯ และแพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ซึ่งหนังเองก็เล่นกับประเด็นนี้ได้อย่างน่าสนใจ

ในภาพยนต์เรื่องนี้มีประเด็นที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงคือ มุมมองทางการเมืองของผู้สร้าง เพราะ จริงๆแล้วในภาพยนต์มีนักแสดงนำอีกหนึ่งคนที่มีบทบาทสำคัญคือทอม รับบทโดยไมเคิล ดอแมน (Michael Dorman) ซึ่งผู้กำกับวาเนลได้ให้การบ้านนักแสดงโดยให้ไปดูวีดีโอของสองพี่น้องลูกชายของโดนัลด์ ทรัมป์ เพราะวาเนลมองว่าสองพี่น้องคู่นี้มีพฤติกรรมและการแสดงออกที่มั่นใจในตัวเองแบบผิดๆ และต้องการให้นักแสดงเล่นออกมาแบบนั้นให้ได้

ตอนนี้ภาพยนต์เข้าฉายมาสักพักแล้ว ใครชอบหนังแล้วนี้ไม่ควรพลาด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...