โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ผู้ค้าริมแม่น้ำกกโอด สารหนูพ่นพิษลูกค้าหด หนักกว่าโควิด!

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

อัพเดต 09 เม.ย. เวลา 06.11 น. • เผยแพร่ 09 เม.ย. เวลา 06.11 น. • ข่าวเวิร์คพอยท์

(9 เม.ย. 68) ผู้สื่อข่าว จ.เชียงราย ติดตามสถานการณ์ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก หลังจากมีการนำตัวอย่างน้ำในแม่น้ำกกที่ขุ่นข้นเกินกว่าปกติไปตรวจ และผลตรวจที่ออกมา ปรากฏว่าในพื้นที่ จ.เชียงราย มีการตรวจพบสารหนูและโลหะหนักชนิดอื่น สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานปกติไปเล็กน้อย แต่เป็นระดับที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย หากไปสัมผัส/ดื่มโดยตรง

จนทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายต้องออกประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ งดใช้น้ำกกในการอุปโภคบริโภคเป็นการชั่วคราว ซึ่งการตรวจพบดังกล่าวนอกจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกร และวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่แล้ว ในส่วนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการร้านค้าตามริมแม่น้ำกก ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวอย่างเลี่ยงไม่ได้

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สวนสาธารณะหาดเชียงราย บ้านป่างิ้ว ม.4 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย สถานที่ท่องเที่ยวคลายร้อนยอดนิยมของ จ.เชียงราย แต่ปีนี้นักท่องเที่ยวหายไปเกินกว่าครึ่ง มีเพียงคนมานั่งทานอาหารตามซุ้มไม่กี่ซุ้ม ไม่เหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา พ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านตามริมแม่น้ำกกต่างบ่นอุบ

หนึ่งในแม่ค้าเผย ข่าวพบสารหนูในน้ำกกทำรายได้หายกว่า 90% ปัญหานี้หนักยิ่งกว่าช่วงโควิด ที่ตอนนั้นยังพอขายได้ แต่นี่ขาดทุนมานานนับอาทิตย์ ยังไม่รู้จะยื้อไปได้อีกเท่าไหร่ หากไม่ไหวจริงๆก็คงต้องเก็บข้าวของกลับไปค้าขายที่บ้าน แต่ยังหวังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยคลี่คลายสถานการณ์พานักท่องเที่ยวกลับมา

หนึ่งในนักท่องเที่ยวจาก จ.พะเยา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ข่าวว่ามีการตรวจพบสารหนูในแม่น้ำกก ก็รู้สึกกังวลอยู่บ้างในกรณีที่ชาวบ้านนำน้ำไปใช้ หรือหากนักท่องเที่ยวที่ไม่ทราบข่าวแล้วลงไปเล่นน้ำก็อาจเป็นผลเสียตามมา แต่สำหรับตนมักจะมาเที่ยวชมบรรยากาศและนั่งทานข้าว เพราะบรรยากาศดี ถ้ามีโอกาสก็จะมาเป็นประจำทุกปีในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ที่ผ่านมาน้ำจะใสกว่านี้ ไม่แน่ใจว่าปีนี้ทำไมน้ำขุ่นขึ้น

นางสุวรรณ์ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านอาหารในหาดเชียงราย เล่าว่า ตนเป็นคน อ.เทิง แต่มาค้าขายอยู่ในตัวเมืองเชียงรายมานับ 10 กว่าปีมาแล้ว ก่อนหน้านี้ช่วงวิกฤตโควิดตนก็ยังพอขายของได้ เพียงแค่ต้องเว้นช่วงชุ่ม ไม่ให้ลูกค้านั่งซุ้มติดกัน ตอนนั้นรายได้น้อยแต่ยังพออยู่ได้ แต่รอบนี้มาเจอข่าวตรวจพบสารหนูในแม่น้ำกกนี่หนักสุดๆ ลูกค้าหายไปหมดเลย รายได้ไม่มี ติดลบต่อเนื่องมาเป็นอาทิตย์แล้ว ซื้อของมาก็ไม่ได้ขาย ของมันก็เน่าก็เสียไปหมด

จากที่ปีก่อนหน้าในช่วงสงกรานต์ 13-15 เม.ย. ตนขายได้วันละ 3-4 หมื่นบาท เพราะตนมีหน้าร้าน 3 ร้าน แต่มีครัวจุดเดียว ช่วยกันดูแลกับคนในครอบครัว ส่วนวันธรรมดาก็จะได้ประมาณวันละ 1-2 พันบาท แต่ปีนี้ขายไม่ได้ ติดลบทุกวัน ต้องจ่ายค่าแรงเด็กๆ จากมูลนิธิที่มาขอทำงานหาเงินช่วงวันหยุดอีก แถมมีค่ากับข้าว 3 มื้อ รวมแล้วค่าใช้จ่ายประมาณ 2 พันบาทต่อวัน แต่หากถามว่ายังมีความหวังไหม ตนก็ยังมีความหวังที่จะมีหน่วยงานมาช่วยทำให้น้ำกกมันดีขึ้นก่อนที่จะถึงเทศกาลสงกรานต์ แต่ถ้าถึงตอนนั้นมันแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามนั้น

นางสุวรรณ์ เผยอีกว่า เวลาที่มีลูกค้ามาทานอาหาร ตนก็จะถามลูกค้าก่อนเลยว่าได้ทราบข่าวเรื่องสถานการณ์แม่น้ำกกไหม ก็จะบอกเขาไปก่อนเลยว่าตอนนี้เขาห้ามเล่นน้ำนะ แต่ที่เห็นว่ายังมีเด็กลงเล่นน้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นลูกหลานคนงานทั้งนั้น มาตามพ่อแม่ เราห้ามไม่ได้

“ก่อนหน้านี้แม่น้ำกกไม่เคยจะมีสีขุ่นแบบนี้ เริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมเป็นต้นมา และเป็นแบบนี้มาตลอด ก็อยากให้มีหน่วยงานไหนก็ได้มาช่วยทำน้ำให้มันดีขึ้น ที่ผ่านมาพวกผู้ประกอบการร้านอาหารก็รวมตัวคุยกัน ว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง แต่ต่างก็ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ปัญหามันไม่ใช่จุดนี้จุดเดียว มันเป็นแม่น้ำทั้งสาย ก็อยากวอนผ่านไปยังภาครัฐช่วยจัดการเรื่องน้ำให้มันดีขึ้น” นางสุวรรณ์ กล่าว

ด้านแม่ค้าอีกราย กล่าวตรงกันว่า กรณีสารหนูในแม่น้ำกก ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายริมแม่น้ำกก ขายของแทบจะไม่ได้กันเลย จากที่เคยขายได้วันละหลายพันบาท แต่หลังจากมีข่าวตรวจพบสารหนู รายได้หายไปเยอะ บางวันได้ 5-6 ร้อยบาทบ้าง บางวันก็ไม่ได้เลย คิดจะเลิกขายอยู่ แต่มันลงทุนไปแล้ว ถ้าจะให้รื้อก็ต้องเสียเงินไปจ้างคนมารื้ออีก และตนก็สงสารเด็กๆด้วย เป็นเด็กมูลนิธิจากหลายอำเภอ เขามาขอทำงานหาตังค์ช่วงปิดเทอม เราก็ให้ค่าจ้างเขาวันละ 100 บาท กินอีก 3 มื้อ ค่าทิปหรือเงินพิเศษอะไรที่ลูกค้าเขาให้มา เราก็จะให้เอามารวมกันและให้เด็กแบ่งกัน ให้เขาไปซื้ออุปกรณ์การเรียนที่มันเกินจากงบโรงเรียน ช่วงนี้ถือว่าสถานการณ์ร้ายกว่าโควิด เพราะลูกค้าหายไปเลย แต่โควิดยังแยกกันนั่งได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...