โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

นักลงทุนกังวลอะไรใน ‘BTS’ ราคาร่วงต่ำสุดรอบ 11 ปี

The Bangkok Insight

อัพเดต 02 ก.พ. 2567 เวลา 03.51 น. • เผยแพร่ 02 ก.พ. 2567 เวลา 03.44 น. • The Bangkok Insight

ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วจนถึงวันนี้ ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BTS หรือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ปรับตัวลดลงรุนแรงกว่า -10% โดยเฉพาะวันอังคารที่ 30 มกราคมเพียงวันเดียว ราคาหุ้นลดลงลึก -9.02% มูลค่าหายไปกว่า 8,000 ล้านบาท และนับเป็นการทำ New Low ในรอบ 11 ปีเลยทีเดียว

คำถามคือประเด็นอะไรที่กดดันราคาหุ้น BTS นักลงทุนกำลังกังวลเรื่องไหน บทความนี้จะมาไล่เรียงทีละประเด็น พร้อมฉายภาพสิ่งที่ตลาดมองเห็น ให้ทุกคนดูกันทีละข้อ

BTS

ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 (งวดเดือนต.ค.-ธ.ค. 2566) มีโอกาสสูงที่จะไม่เข้าเป้า

โดยคาดว่าบริษัทจะรายงานงบการเงินประมาณวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมีแนวโน้มออกมาอ่อนแอจากผลขาดทุนการดำเนินงานของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนธันวาคม 2566

ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวก็ดูจะไม่เพียงพอที่จะชดเชยกับขาดทุนดังกล่าว

การด้อยค่าการลงทุนใน JMART SINGER KEX

BTS ได้เข้าไปถือหุ้นบริษัทอื่น ๆ ที่ไม่ได้ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรถไฟฟ้าโดยตรงอีกมากมาย แต่ปัญหาที่น่ากังวลในตอนนี้คือ บริษัทจะมีการรับรู้การตั้งด้อยค่าของการลงทุนใน JMART, SINGER และ KEX เพราะราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงไปมาก ทำให้ BTS อาจรับรู้ผลขาดทุนจากเงินลงทุนเข้ามาหรือไม่

ประเด็นดังกล่าวเคยมีนักลงทุนสอบถามบริษัทเข้าไปแล้ว แต่บริษัทให้คำตอบว่ากำลังอยู่ระหว่างการศึกษา นี่จึงเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาตั้งข้อสงสัยอีกครั้ง

ความไม่แน่นอนของธุรกิจในระยะยาว

โดยเฉพาะประเด็นการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะสิ้นสุดในปี 2572 ซึ่งหากไม่สามารถต่อสัญญาได้ จะต้องติดตามโครงสร้างสัมปทานใหม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด หากเป็นเพียงสัญญาการจ้างเดินรถ จะมีโอกาสทำให้ BTS ได้รับผลตอบแทนลดลงจากปัจจุบัน

มีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 รวมมูลค่ากว่า 1.27 หมื่นล้านบาท

ถือเป็นเม็ดเงินที่สูงและมีความยากในการระดมทุนเพื่อชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมให้ครบ จากปัจจุบันความน่าสนใจในหุ้นกู้ของ BTS ลดลง ตามความไม่แน่นอนของธุรกิจ และราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลง

BTS

การได้รับเงินคืนหนี้จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาทจากกรุงเทพมหานคร ยังไม่ใช่ประเด็นบวกทันที

แม้จะช่วยให้ BTS สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับดอกเบี้ยได้ 900 ล้านบาทต่อปี (สมมุติฐานต้นทุนทางการเงิน 4%) แต่ BTS ยังคงสูญเสียรายได้ทางดอกเบี้ยกว่า 1.2 พันล้านบาทต่อปี เพราะ BTS เรียกเก็บรายได้ค้างรับจาก BMA 5% ดังนั้น ผลกระทบสุทธิจึงยังเป็นติดลบกว่าราว 200 ล้านบาทต่อปี

ทั้งหมดนี้ถือเป็นประเด็นความเสี่ยงที่ทำให้ราคาหุ้น BTS เคลื่อนไหวในแนวลบเช่นนี้ ซึ่งยังไม่รวมถึงสาเหตุของปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ที่ส่งผลให้ความต้องการใช้รถไฟฟ้าลดลง

อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว BTS ยังมีปัจจัยบวกหนุนอยู่ เช่น การเติบโตของธุรกิจขนส่งมวลชน การขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ และฐานะการเงินที่ยังไม่ได้แย่

ทั้งนี้ BTS เป็นบริษัทขนส่งมวลชนรายใหญ่ของประเทศไทย ให้บริการรถไฟฟ้าสายหลัก 2 สาย ได้แก่ สายสีเขียวอ่อน และสีเขียวเข้ม รวมถึงรถไฟฟ้าสายรอง 3 สาย ได้แก่ สายสีทอง สายสีชมพู และสายสีเหลือง นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหาร

BTS

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter):https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...