แอร์เอเชีย เปิดบิน ซิดนีย์-เมลเบิร์น เริ่มต้น 5,990 บาท ดีเดย์ 1 ธ.ค.นี้
แอร์เอเชีย เปิดบิน ซิดนีย์-เมลเบิร์น รวม 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จัดโปรโมชั่นเริ่มต้น 5,990 บาท ดีเดย์ 1 ธ.ค.นี้ จองตั้งแต่ 29 ส.ค. - 4 ก.ย. 2565
เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2565 นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเผยว่า สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์(เที่ยวบิน XJ) เปิด 2 เส้นทางบินใหม่ กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) - ซิดนีย์ จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ บินทุกวันจันทร์ อังคาร ศุกร์ เสาร์ เริ่มบิน 2 ธ.ค. 2565 และกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) - เมลเบิร์น จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันพุธ พฤหัสบดี อาทิตย์ เริ่มบิน 1 ธ.ค. 2565 ให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 377 ที่นั่ง โดยมี 12 ที่นั่งปรับเอนนอนเทียบเท่าชั้นธุรกิจ ทั้งนี้มั่นใจทั้ง 2 เส้นทางจะได้รับการตอบรับที่ดี มีอัตราการขนผู้โดยสาร (โหลดแฟคเตอร์) เฉลี่ย 85-90%
นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยกับออสเตรเลียมีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมา 70 ปีแล้ว เชื่อว่าการเปิดเส้นทางบินครั้งนี้จะช่วยทั้งเรื่องท่องเที่ยวเศรษฐกิจและโดยเฉพาะช่วยเรื่องการศึกษา ปัจจุบันคนไทยมีการเดินทางไปออสเตรเลียทั้งเดินทางท่องเที่ยวและไปศึกษาต่อปีละ 1 แสนคน โดยมีคนไทยที่ศึกษาอยู่ในออสเตรเลียรวมแล้วราว 30,000 คน ในหลายเมือง แต่ส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ที่ซิดนีย์ และเมลเบิร์น
นายธรรศพลฐ์ กล่าวอีกว่า ประชากรออสเตรเลียในปัจจุบันอยู่ที่ 25.7 ล้านคน โดยคนออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเดินทางไปต่างประเทศในแต่ละปีค่อนข้างสูงถึงปีละ 21 ล้านคน ขณะที่มีต่างชาติเดินทางเข้าออสเตรเลียปีละ 21 ล้านคนเช่นกัน ซึ่งซิดนีย์และเมลเบิร์น เป็น 2 ใน 5 เมืองหลักที่มีประชาการหนาแน่น แต่ละปีจะมีคนออสเตรเลียเดินทางมาไทยเฉลี่ย 8 แสนคน ปัจจุบันมีสายการบินที่ทำเส้นทางบินมาไทยยังน้อยมาก ดังนั้นถือเป็นจังหวะที่ดีที่สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เปิดเส้นทางบินในครั้งนี้
“เราถือว่ามาในจังหวะเวลาที่ดี ที่ได้สลอตบินซิดนีย์ เมลเบิร์น ออกจากสุวรรณภูมิ ในเวลาใกล้เคียงกัน คือเที่ยงคืนถึงซิดนีย์ และเมลเบิร์นประมาณ 13.00 น. และออกจากซิดนีย์ และเมลเบิร์นเวลา 14.40 น. มาถึงไทยประมาณ 19.40 น. และเครื่องบินจากซิดนีย์ เมลเบิร์น มาลงสุวรรณภูมิยังสามารถบินต่อได้ทันทีด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชีย ไปยังจุดหมายปลายทางกระบี่ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ได้ทันทีที่สนามบินสุวรรณภูมิ หากมีความต้องการไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ ของไทยเพิ่มมากขึ้น บริษัทก็จะพิจารณาขยายเส้นทางบินต่อไป”
สำหรับโอกาสที่ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเส้นทางใหม่ 2 เส้นทาง จากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) ไป ซิดนีย์ และเมลเบิร์น ได้จัดโปรโมชั่นบินคุ้มราคาสมาชิกแอร์เอเชีย เริ่มต้นที่ 5,990 บาท ทั้งสองเส้นทาง สามารถสำรองที่นั่งได้ ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. - 4 ก.ย. 2565 เดินทาง 1 ธ.ค. 2565 - 25 ม.ค. 2566 โดยจองผ่าน airasia Super App
นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า ในเร็วๆ นี้จะเปิดเส้นทางบินอีกประเทศ คือ นิวเดลี ประเทศอินเดีย ส่วนเส้นทางที่บินอยู่แล้ว แลจะเปิดให้ครบก่อน โดยเฉพาะญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ปัจจุบันเส้นทางญี่ปุ่นบินอยู่แค่สัปดาห์ละ 4 วันไปโตเกียว จากช่วงก่อนเกิดโควิดบินวันละ 3 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเข้าโตเกียว 2 เที่ยวบิน เข้าโอซาก้า 1 เที่ยวบิน และเข้าฮอกไกโด 1 เที่ยวบิน ส่วนเส้นทางบินเกาหลีใต้เดิมบินวันละ 3 เที่ยวบินเข้ากรุงโซล แต่ปัจจุบันบินแค่วันละ 1 เที่ยวบิน แต่หากประเทศปลายทางเปิดให้บินเต็มที่ นักบินและลูกเรือก็พร้อมแล้วที่จะให้บริการ
สำหรับทิศทางการแข่งขันของธุรกิจสายการบินในขณะนี้ แข่งขันด้านภาพพจน์ และการตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ไม่ต้องเอาราคามาสาดกัน เพราะทุกสายการบินไม่มีทุนทรัพย์ และกำลังทรัพย์ที่จะเอาราคามาสาดราคากันแล้ว เนื่องจากผ่านมา 2 ปีครึ่งช่วงเกิดโควิดแต่ละคนบาดเจ็บกันหมด สายการบินรวมถึงไทยแอร์เอเชีย ประสบปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด และขอย้ำว่าไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเลย สายการบินต้องแบกภาระขาดทุนกันไป
นายธรรศพลฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยเสี่ยงจากนี้ถึงสิ้นปีนี้ คือ ราคาน้ำมัน ซึ่งขณะนี้เริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ค่าเงินบาทกลับแข็งค่า ถือเป็นการซ้ำเติมธูรกิจการบินหลังจากราคาน้ำมันแพงแล้ว ดังนั้นอยากให้รัฐบาลดูความเหมาะสมของค่าเงินบาท ให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง จะเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้านของไทย ตั้งแต่เดือนก.ย.เป็นต้นไป เริ่มที่จะไม่ต้องใส่หน้ากากแล้ว ยกเว้นระหว่างโดยสารสาธารณะและบนรถไฟ ก็อยากให้ประเทศไทยประกาศยกเลิกการใส่หน้ากากได้แล้ว การถอดหน้ากากเป็นการสร้างความมั่นใจว่าประเทศไทยปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา
นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า หากนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วติดโควิด ประเทศไทยก็มีบุคคลากรทางการแพทย์ที่จะสามารถรักษาได้ ควรแสดงให้เห็นว่าปรเะเทศไทยปลอดภัย สามารถเดินทางได้ ประกอบกับคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 3-4 เข็มขึ้นไป เมื่อเป็นโควิดก็ไม่ได้รุนแรงมาก ถ้าสุขภาพแข็งแรง 3-5 วันก็หายจากอาการโควิดแล้ว ดังนั้นอยากให้ทางรัฐบาลพิจารณาในเรื่องนี้