โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

จุฬาฯ ชู “ปะการัง 3 มิติ” ฟื้นฟูทะเลไทย สวรรค์แห่งใหม่ของนักดำน้ำ

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 28 ต.ค. 2565 เวลา 04.39 น. • เผยแพร่ 28 ต.ค. 2565 เวลา 04.36 น.

นวัตปะการังหรือปะการังสามมิติ ผลงานจากทีมวิจัย คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ (NIAWARDS) ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงามใกล้เคียงกับธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูแนวปะการัง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเฝ้าระวังสภาพแวดล้อมทางทะเล

ปะการัง” ดอกไม้แห่งท้องทะเลที่มีเสน่ห์และความสวยงามแปลกตาแนวปะการังยังเป็นแหล่งอยู่อาศัยของสัตว์น้ำและปลาตัวเล็กตัวน้อย ที่สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ท้องทะเลอีกด้วย แต่ที่ผ่านมาแนวปะการังได้ถูกทำลายลงไปอย่างมาก ทั้งจากการจับสัตว์น้ำตามแนวชายฝั่ง การลากอวนในแนวปะการัง การทอดสมอเรือ รวมถึงการพัฒนาท้องถิ่นตามแนวชายฝั่ง

จากปัญหาที่เกิดขึ้นได้นำไปสู่การคิดค้น “นวัตปะการัง” หรือ Innovareef เป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแนวคิดและวิถีการอนุรักษ์ท้องทะเลของไทยและของโลกให้เป็นไปอย่างสมดุล กลมกลืน ยั่งยืน

นอกจากนี้ ปะการังเทียมในอดีตนั้น มักสร้างมลภาวะทางสายตา และส่วนใหญ่ไม่ได้ผล ด้วยเหตุนี้ รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยสัตว์น้ำสวยงามและสัตว์น้ำเพื่อการอนุรักษ์ (OAAC) คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จึงได้คิดค้นปะการังเทียมที่มีความสวยงามเหมือนจริงใกล้เคียงกับธรรมชาติ ลดแรงต้านของน้ำขึ้นลงได้ดี ช่วยให้ตัวอ่อนปะการังลงเกาะได้ดี เป็นถิ่นที่อยู่สำหรับสัตว์ทะเลสายพันธุ์ต่าง ๆ และช่วยเร่งฟื้นฟูแนวปะการัง

และ นวัตปะการัง (Innovareef) ของทีมจุฬาฯ ได้คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ (NIAWARDS) ประจำปี 2563 ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ

โดยนวัตกรรมปะการังมีข้อได้เปรียบมากกว่าปะการังเทียมทั่วไป ดังนี้

  • บนตัวนวัตปะการังมีการพ่นเคลือบสารอาหารจำพวกแคลเซียมและฟอสเฟตที่ปะการังตามธรรมชาติใช้ในการเติบโต ซึ่งจากการเก็บข้อมูลพบว่า ต่ัวอ่อนปะการังที่มาเกาะบนนวัตปะการังโตเร็วกว่าปะการังตามธรรมชาติ เฉลี่ยละ 3-4 เซนติเมตรต่อปี
  • เลียนแบบลักษณะตามธรรมชาติของปะการัง รองรับการลงเกาะของตัวอ่อนปะการังได้ดี ทั้งยังเหมาะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล
  • ลดแรงต้านกระแสน้ำ ออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีไฮโดรไดนามิก
  • สถานีอัจฉริยะเพื่อตรวจวัดสภาวะโลกร้อน โดยติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางทะเล เช่น อุณหภูมิของน้ำ การไหลของกระแสน้ำ วัดความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) เป็นต้น
  • การออกแบบระดับรางวัล ใช้ซีเมนต์ที่มีค่าความเป็นกรดด่างใกล้เคียงน้ำทะเล ออกแบบตามแนวคิดเลโก้ คือการทำเป็นบล็อกถอดประกอบชิ้นส่วนได้ เพื่อความสะดวกในการขนย้ายนวัตปะการัง รวมแล้วค่าใช้จ่ายในการผลิตอยู่ที่ราว 26,000 บาทต่อนวัตปะการังหนึ่งตัวเท่านั้น

นวัตปะการังยังถูกออกแบบให้สามารถถอดประกอบและปรับแต่งโครงสร้างได้ตามความต้องการ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานตามวัตถุประสงค์ในแต่ละพื้นที่ด้วยขนาดชิ้นส่วนประกอบที่เล็ก นํ้าหนักเบา ทําให้สามารถยกเคลื่อนย้ายได้ง่าย

ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขนส่งทั้งทางบกและทางนํ้า รวมทั้งค่าติดตั้งตํ่ากว่าปะการังเทียมรูปแบบเดิม นําไปสู่โอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของคนในชุมชนที่ดีขึ้นและทางเลือกสําหรับ CSR ขององค์กรที่ดีกว่าในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

ทั้งนี้ แนวนวัตปะการังสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้ ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เพิ่งเริ่มหัดดำน้ำใหม่ ๆ นักดำน้ำสน็อกเกิล และผู้ที่ต้องการเดินใต้ทะเล เพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศชาติ ช่วยฟื้นฟูแนวปะการัง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเฝ้าระวังสภาพแวดล้อมทางทะเล

ทางทีมวิจัยมีแผนที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงอีก โดยจะออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะเจาะจงเหมาะสมกับสัตว์น้ำแต่ละชนิดในละแวกนั้น นอกจากนี้ ทีมวิจัยกำลังวิจัยต่อยอดร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ในการออกแบบนวัตปะการังที่ผสานนาโนเทคโนโลยี เพื่อให้ปกป้องปะการังจากสภาวะโลกร้อนได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...