โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เปิดปมแค้น นายช่างวิม สวท.พิษณุโลก มือปืนโหดกระหน่ำยิงเพื่อนร่วมงานดับ 3 ราย

MATICHON ONLINE

อัพเดต 28 พ.ค. 2563 เวลา 07.07 น. • เผยแพร่ 28 พ.ค. 2563 เวลา 05.51 น.
ยิง1

กำลังตำรวจชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวนกว่า 50 นาย ได้ควบคุมตัว นายวิม สอนสุด อายุ 59 ปี นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ขณะที่ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กำชับถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้ต้องหา พร้อมสั่งห้ามการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ขณะที่ผู้ต้องหาเปิดใจปมคับแค้นใจ

จากกรณี นายวิม สอนสุด อายุ 59 ปี นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ตำแหน่งนายช่างเครื่องส่ง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. และ .38 รวม 2 กระบอก และอาวุธมีดหมอ ยิงใส่ร่างของเพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ประกอบด้วย 1.นายสานิตย์ บุตรมางกูล ผอ.สวท.พิษณุโลก 2.นายจิรวุฒิ สุเมธเทพานันท์ นายช่างไฟฟ้า 3.นายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ นายช่างอาวุโส

นอกจากนี้ ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ นายปรุง จันทร์แดง ช่างเครื่องส่ง ส่วนสาเหตุมาจากมีความเครียดและปัญหาส่วนตัวกับเพื่อนร่วมงานตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 พ.ค.63 พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ จำนวนกว่า 50 นาย ได้ควบคุมตัว นายวิม สอนสุด อายุ 59 ปี นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ตำแหน่งนายช่างเครื่องส่ง ประจำสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.พิษณุโลก (สวท.พิษณุโลก)

มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนาและกั้นไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ก่อนพาไปยังจุดแรกที่นายวิม ผู้ต้องหา ใช้อาวุธปืนยิงนายจิรวุฒิ สุเมธเทพานันท์ อายุ 47 ปี นายช่างไฟฟ้าอาวุโส ขณะกำลังปีนบันไดปรับกล้องวงจรปิดอยู่บริเวณห้องโถงด้านหน้าจำนวน 3 นัด

จากนั้นไปยังจุดที่ 2 บริเวณห้องควบคุมเครื่องส่งได้ใช้อาวุธปืนยิงนายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ อายุ 55 ปี นายช่างอาวุโส ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่แผ่นหลัง 5 นัด เสียชีวิตในสภาพนั่งฟุบแอบหลังตู้ไฟอยู่ภายในห้องจัดรายการวิทยุ และจุดที่ 3 ใช้อาวุธปืนยิงนายปรุง จันทร์แดง อายุ 56 ปี ช่างเครื่องส่ง

ขณะเข้ามาเห็นเหตุการณ์พอดีจนถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ปากบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้เข้าห้องผ่าตัดพ้นขีดอันตรายแล้ว

และจุดที่ 4 บริเวณด้านหลังอาคาร สวท.พิษณุโลก ที่ใช้อาวุธมีดหมอแทงและใช้อาวุธปืนยิงใส่ร่างของ นายสานิตย์ บุตรมางกูล อายุ 60 ปี ผอ.สวท.พิษณุโลก โดยใช้เวลาทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 30 นาที ก่อนนำตัวกลับไปฝากขังไว้ก่อนที่ สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้

ด้าน นายวิม สอนสุด ผู้ต้องหา กล่าวเปิดใจระหว่างถูกควบคุมตัวว่า ตนเองเคยนั่งนับ 1-10 จนถึง 1,000 ถึงผ่านทุกอย่างมาได้ แต่วันที่เกิดเหตุนั้นตนนั่งกินยาอยู่ โดยมีนายจิรวุฒิ สุเมธเทพานันท์ นายช่างไฟฟ้าอาวุโส โทรเข้ามาหาว่าให้หาออสตินหม้อแปลงแกนอากาศที่ไว้สำหรับใช้กับยอดเสาไฟให้หน่อยบอกว่าวางอยู่ตรงประตูตรงนี้ 3-4 วัน

ผมก็บอกว่าผมไม่ได้ยุ่ง จนเขากลับมาผมก็ไปดูว่าออสตินนี่มีไหม ปรากฏว่าผมก็เจอก็เลยมาตามให้เขาไปดู แต่การตามให้เขาไปดูเนี่ยเขาพูดกลับมาเหมือนว่ามันไม่ใช่ที่เขาตามหา คือเขาไม่ด่าแต่ความรู้สึกคือผมจะรู้ไหมว่าเขาตามหาอะไรกันแน่ อยู่ดีๆ ผมนั่งอยู่เฮฮาดีๆ ก็ชอบหน้าบึ้งใส่ “บางครั้งชอบสั่งอย่าไปยุ่งถ้ายุ่งกล้ารับผิดชอบไหม”

ส่วนนายภูมิศรัณญ์ นายช่างอาวุโส ที่เสียชีวิตในสภาพนั่งฟุบแอบหลังตู้ไฟอยู่ภายในห้องจัดรายการวิทยุ คนนี้ก็เป็นคนชอบเสี้ยม หลังจากยิงคนแรกแล้ว คนที่ 2 ก็คงมั่นใจว่าตัวเองไม่รอดแน่เลยวิ่งหนีไปจนผมก็ตามไปยิงจนตายนั่นแหละ

ส่วนตัว ผอ.นี่ผมเดินออกมาข้างนอกผมก็ไม่รู้ว่า ผอ.อยู่ตรงไหนหรอก เขามาโถมใส่ผม ผมก็ไม่ยอมต่อสู้ยื้อยุดฉุดกระชากกัน หักข้อมือกันอยู่ ผมก็เอามือข้างหนึ่งดันคางเขาไว้ ปืนมันก็ลั่นส่ายไปส่ายมา ในกระเป๋าผมมีมีดหมออยู่เพราะผมเป็นคนชอบไสยศาสตร์ก็จะพกของพวกนี้ไว้

คือตอนนั้นคิดว่าถ้า ผอ.แย่งปืนไปได้ผมก็ตาย ผมเลยใช้มือที่ค้ำคอ ผอ. ก่อนหยิบมีดออกไปจ้วงแทงตัดขั้วหัวใจ แล้วใช้อาวุธปืนยิง ส่วนคนเจ็บเอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกับเขา เพียงแต่เขาเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ ถ้าเขารอดผมก็โอเค แต่ในความรู้สึกตอนนั้นผมหน้ามืดแล้ว บอกไม่ถูกแล้วเอาจริงๆ ผมเองก็พร้อมจะไป

“วินาทีที่ทำภารกิจเสร็จนั่นคือผมโทรหาครอบครัว ว่าผมจะไปแล้วนะ แต่แฟนผมครอบครัวผม เมียผมขอผมก็บอกเขาว่าถ้างั้นผมพร้อมจะเผชิญกับความจริง ผมมาขนาดนี้แล้วผมรับสารภาพว่ายิงทั้งหมด 4 คน มาถึงตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้วชีวิตผมมันจบแล้ว ผมสอบบรรจุ ก.พ.ได้เป็นรุ่นสุดท้าย ปี 2534 ทุ่มเทให้กับระบบราชการ ผมไม่เคยเกี่ยงงอน เอาความรู้ที่เคยทำงานกับบริษัทเอกชนมาทุ่มเทให้กับตรงนี้เต็มที่ แต่สุดท้ายผมคิดว่ารับราชการมาจะโตได้ต้องเลียใช่ไหม ต้องชงเหล้าให้นายแดกใช่ไหม” นายวิมกล่าวทิ้งท้าย

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า วันนี้เป็นการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องหาตามระบบสืบสวน ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้ต้องหา และเรื่องขั้นตอนในการลงมือ ซึ่งตอนนี้ทางผู้ต้องหาได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

รวมถึงขั้นตอนในการก่อเหตุต่างๆ ยิงด้านหน้า ยิงที่ห้องส่ง และยิงคนเจ็บ และยิง ผอ. และมีการต่อสู้กันแต่สู้ ผอ.ไม่ได้ จึงใช้อาวุธมีดหมอแทงตัดขั้วหัวใจก่อนใช้ปืนยิงซ้ำ สาเหตุเป็นเรื่องการมีปัญหากันระหว่างกลุ่มนายช่างกับผู้ต้องหา ซึ่งมีอายุมากประกอบกับสุขภาพไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ จึงทำงานผิดพลาดมีปัญหา ของหายประจำ โดนหัวหน้างานต่อว่าบ่อยครั้ง จนก่อนเกิดเหตุก็เป็นเรื่องของหาย จึงทะเลาะกับนายช่างทั้ง 2 คน จึงลงมือก่อเหตุ

จากนั้นก็กลัวความผิดจึงเดินหาคนเห็นการณ์ ส่วนตัว ผอ.เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า เพราะ ผอ.เดินมาเห็นจึงเป็นการลงมือเดี๋ยวนั้นทันที ส่วนเรื่องการกินยาระงับประสาทตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามียาโรคประจำตัว เช่น หืดหอบ โรคหัวใจ แต่ก็ขอประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลพุทธชินราชมาประกอบสำนวนในคดีด้วย จากคำให้การคิดว่าเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้า

สาเหตุเกิดจากการเก็บกดจากเรื่องงานที่ผิดพลาดบ่อยครั้งเพราะปัญหาสุขภาพ จนมาระเบิดระบายความแค้นวันนี้ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และก็รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปพร้อมรับความผิดชดใช้กรรม ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเท่าที่รับรายงานในวันนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

วันนี้ตั้งข้อกล่าวหาเรื่องฆ่าและพยายามฆ่าและมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ขณะที่วันนี้ยังไม่มีญาติติดต่อขอเข้าเยี่ยมหรือขอประกันตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด ทางตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ก็จะนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลต่อไป