ทุกเรื่องที่ต้องรู้ เกี่ยวกับการ "ดวลลูกโทษ"
เมื่อใดก็ตามที่ฟุตบอลทีมชาติในระบบทัวร์นาเมนต์เข้าสู่รอบน็อกเอาต์ สิ่งหนึ่งที่มักจะมาคู่กัน อาจจะไม่ใช่ทุกนัด แต่ก็มีให้ลุ้นกันทุกทัวร์นาเมนต์ก็คือ การดวลลูกโทษที่จุดโทษ
เพราะเมื่อต่างฝ่ายต่างมีสกอร์เท่ากันหลังจบ 90 และ 120 นาทีแล้ว ก็จะต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลความแม่นที่ระยะ 12 หลา ฝั่งละ 5 คน และถ้ายังเสมอกันอีกก็ต้องดวลเดี่ยวแบบซัดเดนเดธไปจนกว่าจะหาผู้ชนะได้
หลายคนบอกว่าวิธีการนี้ออกจะ “วัดดวง” และ “วัดใจ” กันมากกว่าฝีเท้า แต่เนื่องจากยังไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ และจะให้ต่อเวลาแข่งกันไปเรื่อยๆ ก็เกรงจะเป็นอันตรายกับนักเตะ ถึงแม้จะบีบหัวใจไปบ้างก็ยังคงยืนกรานตัดสินด้วยวิธีนี้ต่อไป
สำหรับการแข่งขัน ฟุตบอลโลก นั้น เริ่มนำระบบดวลลูกโทษมาใช้เป็นครั้งแรกในปี 1978 ที่อาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพ แต่เฉพาะปีนั้นปีเดียวไม่มีการดวลโทษเกิดขึ้น
จนถึงการแข่งขันที่บราซิลเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มีการชิงดำด้วยวิธีนี้มาแล้ว 26 ครั้ง คิดเป็นจำนวนคนเตะรวม 240 คน โดยที่ยิงเข้าจริงๆ มี 170 คน คิดเป็น 70.83 เปอร์เซ็นต์ หรือก็คือจาก 10 คน จะยิงเข้าราว 7 คน
สำหรับตำแหน่งยิงยอดนิยมนั้น อ็อปต้า บริษัทเก็บข้อมูลกีฬาลูกหนังบอกว่า คนเตะนิยมเตะไปทางมุมซ้ายล่างของผู้รักษาประตู ส่วนตำแหน่งที่ไม่ควรเตะมากที่สุดคือการยิงเรียดกลางประตู เพราะมีโอกาสสำเร็จเพียง 55 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยหากจะเล็งกลางประตู ต้องยิงให้สูงเข้าไว้ เพราะจากที่เคยยิงมุมนั้นกันมา 15 ครั้ง ยังไม่มีผู้รักษาประตูป้องกันได้แม้แต่ครั้งเดียว
หรือไม่เช่นนั้นก็เล็งยิงให้สูงเข้าไว้ จะมุมไหนก็ได้ เพราะมีเปอร์เซ็นต์ยิงเข้าโดยผู้รักษาประตูหมดสิทธิรับกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องหมายเหตุตัวโตๆ ไว้ว่า ยิ่งยิงสูงก็เสี่ยงจะข้ามคาน ยกตัวอย่างฝันร้ายของ โรแบร์โต้ บาจโจ้ โกลเด้นบอยทีมชาติอิตาลีในรอบชิงปี 1994 ที่ยิงพลาดในนัดชิงกับบราซิลจนอัซซูรี่ชวดแชมป์
ในมุมของผู้รักษาประตู จากความพยายาม 240 ครั้ง มีนายทวาร 28 คนป้องกันประตูได้รวม 49 ครั้ง และมีลูกที่ยิงชนเสาชนคานอีก 12 ครั้ง โดย ริคาร์โด้ นายทวารโปรตุเกสเป็นผู้รักษาประตูที่ป้องกันลูกจุดโทษในบอลโลกแมตช์เดียวมากที่สุด 3 ครั้ง ในเกมดวลกับอังกฤษปี 2006 แต่สถิติโดยรวมเป็นของ เซร์คิโอ กอยโคชา ของอาร์เจนตินา กับ ฮาราลด์ ชูมัคเกอร์ ของเยอรมนี ที่ป้องกันได้คนละ 4 ครั้ง
สำหรับทีมที่เชี่ยวชาญการยิงลูกโทษมากที่สุดคือ เยอรมนี กับสถิติสุดน่าทึ่งว่า มีเพียง อูลี่ สไตลิเก้ แข้งอินทรีเหล็ก (สมัยยังเป็นเยอรมนีตะวันตก) เพียงคนเดียวที่ยิงพลาดในรอบตัดเชือกบอลโลกปี 1982 กับฝรั่งเศส หลังจากนั้นนักเตะเมืองเบียร์ 15 คนยิงเข้าทั้งหมด และทีมเอาชนะการดวลลูกโทษได้ทั้ง 4 ครั้งในทัวร์นาเมนต์นี้
ชาติที่ประสบความสำเร็จรองลงมาคือ อาร์เจนตินา เคยดวลลูกโทษมา 5 ครั้ง มีสถิติชนะ 4 แพ้ 1 โดยความพ่ายแพ้หนเดียวในบอลโลกปี 2006 ก็มาจากน้ำมือของอินทรีเหล็กนั่นเอง
ส่วนชาติที่มีสถิติดวลโทษเลวร้ายที่สุดคือ อังกฤษ เพราะเตะมา 3 ครั้ง แข้งสิงโตคำรามไม่เคยชนะใครเลย จากที่ออกไปเตะ 12 คน ยิงเข้าเพียง 7 คนเท่านั้น แต่ในแง่การขาดประสิทธิภาพคงต้องยกให้ สวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากนักเตะยิงไม่เข้าแม้แต่ลูกเดียวในการดวลกับโครเอเชียในฟุตบอลโลกปี 2006
ข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับการยิงลูกโทษนั้น เบน ลิทเทิลตัน นักวิชาการและนักวิจัยเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลเผยว่า การดวลลูกโทษมีความกดดันอย่างมาก เนื่องจากเดิมพันการเข้ารอบตกรอบของทีม และแทบไม่มีโอกาสได้แก้ตัว จึงปรากฏว่านักเตะคนเดียวกันหรือทีมเดียวกันจะมีเปอร์เซ็นต์ยิงลูกโทษช่วงดวลจุดโทษต่ำกว่าตอนยิงลูกโทษในเวลาปกติ
ลิทเทิลตันชี้ว่า เหตุผลที่ยิงพลาดง่ายกว่าเป็นเพราะการดวลจุดโทษ คนที่ออกมายิงบางคนไม่ได้มีหน้าที่สังหารจุดโทษให้ทีมเป็นปกติ จึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับแรงกดดันนัก
สถิติที่น่าสนใจคือ คนที่ออกมายิงเป็นคนที่ 8 (จากการดวลสลับกันฝั่งละ 5 คน รวม 10 คน) มักจะมีเปอร์เซ็นต์พลาดสูงที่สุด คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ หรือยิง 5 ครั้ง จะติดเซฟหรือไม่เข้ากรอบเสีย 2 ครั้ง
เหตุผลก็เพราะคนหลังๆ ไม่ใช่มือยิงหลักของทีม และเป็นช่วงที่สถานการณ์กำลังบีบคั้นถึงขีดสุดนั่นเอง
จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่หลายคนมองว่าการดวลจุดโทษก็เหมือนการซื้อลอตเตอรี่ที่มีดวงมาเกี่ยวข้องสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกลำดับการยิง
ตามกฎแล้วหลังจากกัปตันทีมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะการเสี่ยงทายเหรียญแล้วจะเลือกว่าตัวเองจะยิงก่อนหรือให้ฝ่ายตรงข้ามยิงก่อน โดยลำดับการยิงจะเริ่มจากผู้เล่นคนที่ 1 ของทีม A ต่อด้วยผู้เล่นคนที่ 1 ของทีม B จากนั้นจึงเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ของทีม A แล้วผู้เล่นคนที่ 2 ของทีม B เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
จากการเก็บสถิติการดวลจุดโทษในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา การได้ยิงก่อนมักจะได้เปรียบกว่า เพราะมีโอกาสชนะ 60 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตราการยิงเข้าของทีมที่ได้เตะก่อนคือ 73 เปอร์เซ็นต์ ส่วนทีมที่เตะทีหลังจะยิงเข้า 69 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนักวิจัยมองว่าเป็นผลจากแรงกดดันที่ทีมซึ่งยิงทีหลังต้องแบกรับเพราะตกเป็นฝ่ายไล่ตาม
ด้วยเหตุนี้ ลีกลูกหนังอังกฤษจึงทดลองนำการดวลจุดโทษระบบ ABBA มาใช้ เป็นระบบที่สลับลำดับคนยิง เริ่มจากผู้เล่นคนที่ 1 ของทีมเอ ต่อด้วยผู้เล่นคนที่ 1 ของทีม B จากนั้นให้ผู้เล่นคนที่ 2 ของทีม B ออกมายิง แล้วจึงเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ของทีม A สลับไปเรื่อยๆ (1A-1B-2B-2A-3A-3B-4B-4A-5A-5B) เพื่อลดแรงกดดัน และไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกว่ากันจนเกินไป
ในแง่แนวคิดถือว่าสอบผ่าน แต่เมื่อทดลองใช้จริงนั้น หลายคนบ่นว่าสับสนเพราะมึนกับลำดับและการนับประตู
เรียกว่าลดความเครียดและความตื่นเต้นไปได้จริง แต่ก็มีความ “งง” มาแทนที่ซะอย่างนั้น!