เคยสงสัยไหมว่า ทำไมสำนวนไทยใช้วลี ‘ขึ้นสวรรค์’ และ ‘ลงนรก’
เหตุผลน่าจะเพราะเรามีความเชื่อตามตำนานและนิทานว่าสวรรค์อยู่บนฟ้า นรกอยู่ใต้ดิน เทวดาและนางฟ้าใช้ชีวิตบนก้อนเมฆอาบแสงอาทิตย์สีทองอร่ามตา ส่วนนรกมืดมนไร้แสง ใต้ดิน ชื้นแฉะน่าอึดอัด
เราที่เราได้รับการฝังหัวคือ สิ่งดีๆ มักอยู่ข้างบน นก สายรุ้งสวยงาม สิ่งไม่ดีไม่งามอยู่ข้างล่าง หนอน ไส้เดือน ขยะ ศพ
เอาละ สมมุติว่าในอดีตกาล มนุษย์อาศัยอยู่ในรูใต้ดิน เพราะอุกกาบาตถล่มโลก ท้องฟ้าถูกคลุมด้วยเถ้าฝุ่นจนโลกหนาวเหน็บอยู่ไม่ได้ ต้องขุดรูอยู่ รูใต้ดินมืดหม่นคือความอบอุ่นปลอดภัย สำนวนก็จะเปลี่ยนไปเป็น ‘ลงสวรรค์’ และ ‘ขึ้นนรก’
อย่างไรก็ตาม มองอีกมุมหนึ่ง เป็นไปได้ไหมว่าคนโบราณต้องการชี้อีกด้านหนึ่งของสวรรค์-นรก
การที่ใช้คำว่าสวรรค์อยู่บนอาจมีนัยหรือการสอนเราทางอ้อมว่า มันไปยาก การขึ้นสวรรค์ต้องไต่ขึ้นไป ต้องทำงานหนัก ต้องลำบากก่อน จึงจะไปถึง ยิ่งขึ้นที่สูงก็ต้องยิ่งออกแรง เหนื่อยเร็วขึ้น เพราะอากาศเจือจางกว่า
ส่วนไปนรกง่ายนิดเดียว แค่ปล่อยตัวไถลลงไปก็ถึงแล้ว นั่นคือการตกนรกแห่งนิสัยไม่ดีและอบายมุข และเมื่อลงเหวแล้ว ก็ปีนขึ้นกลับยาก
…………..
คนจำนวนมากตัดสินว่าเรื่องหนึ่งๆ เป็นสวรรค์หรือนรกจากประสบการณ์แรกสุดและกรอบคิด
ทำงานโหดคือนรก เจ้านายด่าคือนรก เมียด่าคือนรก
แต่งงานคือสวรรค์ กินของอร่อยคือสวรรค์ ดูหนังฟังเพลงคือสวรรค์
ทว่าจริงหรือ?
มองโลกและชีวิตแบบเผินผ่านก็อาจจะจริง แต่มองให้ลึก จะพบว่าทางหนึ่งที่จะรู้ว่ามันเป็นสวรรค์หรือนรกจริงๆ ก็คือดูที่ผลลัพธ์สุดท้าย
‘ขึ้นสวรรค์’ คือท้ายที่สุดแล้วเราอยู่บนสวรรค์ ชีวิตดีขึ้น
‘ลงสวรรค์’ คือท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตแย่ลง เช่น แต่งงานกับคนหน้าตาดี ฉลาด เก่ง รวย แต่อาจเป็นนรกซ่อนรูปก็ได้ เพราะพบว่าเขาเป็นคนเลว แม้ว่าตอนแรกพบ ทุกอย่างดีหมด
ทำนองเดียวกัน การไปนรกก็ต้องดูว่าท้ายที่สุดแล้ว เป็นนรกจริงหรือไม่ เช่น เจ้านายโหด ชั่วโมงการทำงานยาว ทำงานหนัก ไม่มีวันหยุด แต่ทำให้เราพัฒนาตัวเองไปไกลเต็มศักยภาพ และมีอนาคตที่ดีกว่า ท้ายที่สุดเป็นคนเก่ง เป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการ หรือมีกิจการของตนเอง สิ่งที่ดูเป็นนรกตอนแรกกลายเป็นสวรรค์ตอนท้าย
อย่างนี้จึงเรียกว่า ‘ขึ้นนรก’
ไม่ว่าวิธีไปสวรรค์จะขึ้นหรือลง แต่โดยหลักการเหมือนกันคือต้องออกแรง ไม่ได้มาง่ายๆ
ลีกาชิง มหาเศรษฐีฮ่องกง มิได้เกิดมารวย เขาทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก อายุสิบห้า เขาออกจากโรงเรียน ทำงานในโรงงานผลิตพลาสติก ในวัยสิบเก้า เขาเป็นผู้จัดการโรงงาน
วีนัสกับเซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสมือหนึ่งของโลก ฝึกอย่างหนักตั้งแต่อายุเจ็ดแปดขวบ ตื่นเช้าและฝึกเทนนิสตั้งแต่หกโมงเช้า ก่อนไปโรงเรียน
เมื่อกลับจากโรงเรียนก็ไปฝึกเทนนิสต่อ
ฝึกๆๆๆๆ
เรย์ แบรดบิวรี นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกพูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จของการเขียนหนังสือว่า “ผมรู้ว่าคุณเคยได้ยินมันมาก่อนหลายพันครั้ง แต่มันเป็นความจริง การทำงานหนักได้ผล ถ้าคุณต้องการเก่ง คุณก็ต้องฝึกๆๆ”
โลกตื่นตะลึงเมื่อเห็นผลงานประณีตวิจิตรของ ไมเคิล แองเจโล แต่เขาบอกว่า “ถ้าทุกคนรู้ว่าผมทำงานหนักเพียงใดที่จะคุมมือได้ในระดับนี้ มันก็จะดูไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร”
บางทีทางไปสวรรค์ต้องผ่านนรกเสมอ
เท็ด เทอร์เนอร์ ผู้ก่อตั้งสถานี CNN เคยบอกว่า เคล็ดลับของเขาสู่ความสำเร็จคือ “Work like hell”
นักแสดงและอดีตผู้ว่าการรัฐ อาร์โนลด์ ซวอร์เซเน็กเกอร์ ก็พูดตรงกัน “กฎหกข้อของความสำเร็จในชีวิต 1 ไว้ใจตนเอง 2 ทลายกฎบางข้อ 3 อย่ากลัวล้มเหลว 4 อย่าไปใส่ใจกับพวกมองโลกในแง่ร้าย 5. Work like hell. 6 คืนกำไรให้สังคม”
อีลอน มัสค์ วิศวกร นักประดิษฐ์ นักธุรกิจ บอกเคล็ดลับความสำเร็จของเขาว่า “Work like hell. ผมหมายความว่าคุณทำงานอาทิตย์ละ 80-100 ชั่วโมง ทุกอาทิตย์ มันเพ่ิมโอกาสสำเร็จ ถ้าคนอื่นทำงานอาทิตย์ละ 40 ชั่วโมง และคุณทำงาน 100 ชั่วโมง ต่อให้คุณทำงานเดียวกัน คุณจะสำเร็จในสี่เดือนในงานที่คนอื่นใช้เวลาหนึ่งปี”
คนประสบความสำเร็จหลายคนพูดตรงกันเป๊ะว่าให้ “Work like hell.”
แปลว่านรกน่าจะมีอะไรดีแน่ๆ
…………..
วินทร์ เลียววาริณ
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/
กรกฎาคม 2561
ความเห็น 35
Gorn
สวรรค์หรือนรกที่เราต้องผ่าน อาจเป็นดั่งวงแหวนแห่งโมเบียส (Möbius strip) ไม่ว่าความสำเร็จใดๆ ที่อยู่บนจุดของสวรรค์หรือของนรก คงมีเพียงกำลังความเพียรเท่านั้นที่จะขับเคลื่อนไปถึง
(ด้วยจิตคารวะครับน้าวินทร์)
23 ก.ค. 2561 เวลา 06.50 น.
Noom ร้านเอ็นโมบายส์
คนไทยถูกฝังหัวมานมนาน โดยพระภิกษุที่หวังยอดการทำบุญทำทานของญาติโยม สอนให้ทำบุญเน้นการขึ้นสวรรค์ สร้างวิมานบนสวรรค์รอตายแล้วได้ไปเสวยสุข ยิ่งนับวันยิ่งไกลจาก นิพพาน ทั้งพระทั้งโยม
23 ก.ค. 2561 เวลา 11.22 น.
😜น้องปุ้มปุ้ย☺
ทุกวันนี้ขอแค่กายพร้อมใจพร้อม อยู่กับปัจจุบันเถอะ อย่าเพิ่งมองถึงนรกหรือสวรรค์เลย...
24 ก.ค. 2561 เวลา 07.58 น.
Piya tum
ค้านเรืริงการทำงานจนหนักหรือที่เรียกทำจนเป็นบ้าเป็นหลัง พุทธศาสนาสอนให้คนเดินสายกลาง ผมว่าการทำทุกอย่างเป็นกลางๆไว้ ไม่หนักไปไม่อ่อนไปมันถูกต้องที่สุดละตามหลักคำสอน การทรมานตนจะประโยชน์อันใดหากต้องแลกด้วยสุขภาพของคุณ สุขภาพดีหรือที่เขาบอกว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นั่นแหละคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด มีเงินร่ำรวยล้นฟ้า แต่ต้องเอามารักษาตัวมันจะมีความสุขอย่างไร มิสู้พอมีพอกินแต่สุขภาพดีไม่ดีกว่าหรือ เป็นคุณจะเลือกเงินหรือสุขภาพล่ะ
23 ก.ค. 2561 เวลา 11.59 น.
มีความสุขใจตอนไหนก็สรรค์ตอนนั้นน่ะค่ะ
มีความทุกข์ใจตอนไหนก็นรกตอนนั้นน่ะค่ะ
มีสุขบ้างทุกข์บ้างก็คือมนุษย์ชาติ
และดวงจิตเฉยๆมองโลกเป็นเช่นนั้นเองก็
พระพรหมตอนนั้นน่ะค่ะ
จะเกิดภพภูมิไหนก็ไปด้วยดวงจิตดวงเดียว
ความคิดเป็นตัวเกิด ตัวปรับภพภูมิคืออารมณ์
ต่างๆ
ส่วนทรัพย์ภายนอกอยู่ที่ ๓๑ ภพภูมิเกิด
ที่มองไม่เห็นเรียกว่าวิญญาณธาตุก็มโนกิน
มนุษย์ก็ใช้เงินบริโภค
สัตว์เดรัจฉานก็ไม่ต้องใช้เงิน
มีอยู่ในพระไตรปิฎก เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า
ใครได้ปฏิบัติเรียนรู้ จะมีพุทธิปัญญาค่ะ
สาธุค่ะ.
24 ก.ค. 2561 เวลา 14.51 น.
ดูทั้งหมด