โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

จาก “วิกฤตแอมะซอน” สู่ความตระหนักเพื่อสิ่งแวดล้อม

LINE TODAY

เผยแพร่ 23 ส.ค. 2562 เวลา 08.26 น. • Pannaput J.

 หลาย ๆ คนคงจะได้ยินข่าวการเกิดวิกฤตไฟป่าครั้งใหญ่ในป่าแอมะซอนของบราซิลในช่วงนี้ เพราะถือว่าการเผาไหม้ครั้งใหญ่ที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลจากสถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติของบราซิล ที่ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า ไฟได้เผาพื้นที่กว่า 83 เปอร์เซ็น ไฟป่าครั้งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อป่าเท่านั้น แต่มีผลให้เกิดควันปกคลุมพื้นที่ในเมืองอีกด้วย นี่ถือว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการสูญเสียของธรรมชาตินั้น กระทบต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์เสมอมา

 แอมะซอน เป็นป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก มีพืชพรรณมากมาย และยังมีบทบาทสำคัญต่อชั้นบรรยากาศของโลก เพราะถือว่าเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนของโลก จึงได้ชื่อว่าเป็น ปอด ของโลกด้วยเช่นกัน นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมต้องให้ความสนใจกับไฟป่าใหญ่ในครั้งนี้ เพราะว่ามีผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีการศึกษาค้นพบว่า

- เมื่อเกิดภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง และการตัดไม้ทำลายป่า พืชพรรณที่หลากหลายในป่าแอมะซอนจะหมดไปในปี 2050 โดยกว่า 49 เปอร์เซ็นจะเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์

- หากเกิดภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง และการตัดไม้ทำลายป่า จะก่อให้เกิดการเติบโตของเหล่าพันธุ์ไม้ลดลงกว่า 53 เปอร์เซ็น และป่าเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นเท่านั้น

- หากมีการตัดไม้ทำลายป่าในแอมะซอนเพียง 20-25 เปอร์เซ็น จะเกิดวิกฤติของความหลากหลายทางชีวภาพอีกด้วย

 สิ่งนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์เป็นห่วงไปถึงนโยบายที่ไม่สนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลปัจจุบันในบราซิลว่าจะส่งผลเสียในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ป่าแอเมซอนถูกทำลาย ระบบนิเวศ รวมไปถึงมลพิษต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

 อย่างที่ทราบกันดีว่า ไฟป่านั้นเกิดได้ทั้งจากธรรมชาติ และมนุษย์ ซึ่งถือเป็น 90 เปอร์เซ็นของการเกิดไฟป่า โดยสาเหตุหลัก ๆ ก็คือการเผาเพื่อเคลียร์พื้นที่หลังทำการเกษตร รวมไปเพื่อกิจการบางอย่าง สำหรับที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ นับเป็น 10 เปอร์เซ็น อาจทวีความรุนแรงด้วยภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การเกิดไฟป่ายังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหมอกควันในเมืองด้วย การป้องกันไฟป่านั้น นอกจากหน่วยงานรัฐที่ต้องเฝ้าระวัง จัดทำแผนรับมือ ให้ความรู้แก่คนในพื้นที่เพื่อที่จะร่วมกันรับมือ และป้องกันกับไฟป่าแล้ว ทางฝั่งประชาชนก็ต้องเปิดรับความรู้ เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของป่าไม้ ไม่ทำลายป่า และปัจจุบันมีปัญหาเรื่องภาวะโลกร้อน ซึ่งทำให้เกิดไฟป่าโดยธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น

สำหรับวิธีง่าย ๆ ที่คนทั่วไปน่าจะทำได้ เพื่อช่วยโลกในภาวะโลกร้อน ก็คือการช่วยกันประหยัดพลังงาน การลดใช้ถุงพลาสติก ลดใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง แม้เราอาจจะเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ในการช่วยเหลือโลก แต่ทุกการกระทำเล็ก ๆ ก็เพื่อสร้างความตระหนักให้ทุกคนช่วยกันปกป้องปอดของโลก ไม่ใช่เพียงแค่ผืนป่าแอมะซอน แต่ทุกผืนป่าที่หลงเหลืออยู่บนโลกนี้ เพื่อที่เราจะสามารถดำรงอยู่บนโลกร่วมกันได้ต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก

http://www.bahaindex.com

https://news.mongabay.com/2019/08/deforestation-climate-crisis-could-crash-amazon-tree-diversity-study/

https://www.usatoday.com/story/news/world/2019/08/20/amazon-rainforest-fires-smoke-seen-space/2067220001/

https://www.nationalgeographic.com/environment/natural-disasters/wildfire-safety-tips/

https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/67853/-blo-sciear-sci-

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 32

  • ooy013
    ทุกคนยังคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัวแม้แต่พะยูนที่ตายจากไปเพราะคนทำลายสภาพแวดล้อมก็ยังมีพวกสิ้นคิดบางคนออกมาพูดว่าไม่ใช่พ่อแม่ตัวเองตายจะเสียใจทำไม ความไม่มีจิตสำนึกอละความไม่ตระหนักถึงระบบนิเวศน์ที่เปลี่ยนไปในทางเลวร้ายลงเรื่อยๆสุดท้ายมนุษย์นั่นแหละที่จะรับกรรมที่ตนก่อ มันไม่ใช่เรื่องไกลตัวจนนิดเดียว ถึงเวลานั้นคนที่ได้รับผลกระทบจะทุกข์ทรมานยิ่งกว่ามาเรียมไม่รู้เท่าไรถ้ายังไม่สำนึกกัน
    23 ส.ค. 2562 เวลา 10.12 น.
  • KeN dusk till dawn
    คนหมดยังดีกว่าป่าหาย
    23 ส.ค. 2562 เวลา 10.39 น.
  • ชายโจ
    กฏหมายการตัดไม้ทำลายป่า ไม่เด็ดขาด คนมันเลยไม่กลัวกัน
    23 ส.ค. 2562 เวลา 10.07 น.
  • สำหรับความคิดผมนะป่าไม้นั้นสำคัญมากเลยทีเดียวเลยละส่งผลกระทบเยอะแยะแน่นอนเลยละครับในอนาคตคงไม่นานหรอกถ้าพวกเราทั้งโลกยังไม่ตระหนักกับผลกระทบการตัดป่าทำลายป่ากันหรือจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติก็แล้วแต่ควรมีโครงการเกี่ยวกับการปลูกป่ามาทดแทนที่เสียไปให้มากๆกันทั่วโลกเลยแหละต้องทุกๆประเทศร่วมไม้ร่วมมือกันจริงๆจังๆกันเสียที​ นะครับไม่งั้นไม่อยากนึกภาพเลยในอนาคตข้างหน้านะคงแย่ง่ายๆแค่หนึ่งข้อนะแน่นอนต่อไปคนคงต้องซื้ออากาศหรือออกซิเจนกันเพื่อหายใจแน่นอนเชื่อเถอะอากาศมีมลพิษเพิ่มขึ้นทุกๆวินาทีนะครับ
    23 ส.ค. 2562 เวลา 10.35 น.
  • puy
    มันขึ้นอยู่กับจิตใต้สำนึกของแต่ละคนค่ะ น่าสงสารสัตว์ป่าอเมซอนจริงๆนะคะ เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่จริงๆ
    23 ส.ค. 2562 เวลา 13.44 น.
ดูทั้งหมด