“ศิริกัญญา” เผย ปชน. ส่ง 49 สส. ประชุมพิจารณาร่าง พรบ.งบฯ ปี 69 เน้น ตัด-ลด-เลื่อน งบประมาณที่ไม่จำเป็น
“ศิริกัญญา” เผย ปชน. ส่ง 49 สส. ประชุมพิจารณาร่าง พรบ.งบฯ ปี 69 เน้น ตัด-ลด-เลื่อน งบประมาณที่ไม่จำเป็น ชี้ งบฯปี 69 ไม่ตอบโจทย์เศรษฐกิจ มอง “ทักษิณ“ จัดการงบเพื่อปราบยาเสพติด เสี่ยงซ้ำรอยโครงการในอดีตที่ไม่บรรลุเป้าหมาย
วันที่ 28 พ.ค.2568 ที่รัฐสภา นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมสมัยวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ระหว่างวันที่ 28 - 31 พ.ค.นี้ ว่า พรรคประชาชนได้เตรียม สส. ขึ้นอภิปรายทั้งสิ้น 49 คน ภายใต้แนวทางหลักคือ “ช่วยรัฐบาลหางบ” โดยมุ่งเน้นการ “ตัด-ลด-เลื่อน” งบประมาณที่ไม่จำเป็น ไม่มีประสิทธิภาพ หรือมีความเสี่ยงต่อการทุจริต รวมถึงงบที่สามารถชะลอการใช้ได้ โดยการอภิปรายจะครอบคลุมประเด็นด้านสาธารณสุข สวัสดิการ เกษตรกรรม และเศรษฐกิจปากท้อง
นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ในช่วงต้นการอภิปรายพรรคจะวิเคราะห์ภาพรวมงบประมาณ เพื่อเสนอแนวทางในการจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และหลายรายการในงบประมาณปี 2569 ไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบัน อาทิ งบกองทุนเพื่อเกษตรกรที่ถูกปรับลด แม้จะรู้ล่วงหน้าว่าไทยต้องเผชิญผลกระทบจากสงครามการค้า และหลายโครงการที่สำคัญกลับไม่ได้จัดงบไว้แม้แต่บาทเดียว ขณะที่บางโครงการที่เคยจัดไว้กลับลดลงทั้งที่สถานการณ์ชัดเจนว่าต้องใช้
ในส่วนของโครงการดิจิทัลวอลเลต 157,000 ล้านบาท ซึ่งยังเป็นส่วนหนึ่งของงบปี 2568 นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า แม้หลักการจะดีแต่ขั้นตอน และเกณฑ์การคัดเลือกโครงการจากหน่วยงานยังสะท้อนถึงความไม่พร้อม และมีลักษณะโยนหินถามทาง โดยไม่กำหนดกรอบชัดเจน ทั้งยังให้เวลายื่นโครงการสั้นเกินไปจนสุ่มเสี่ยงซ้ำรอยแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในอดีตที่ใช้เงินไม่ตรงเป้าหมาย
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดงบเพื่อปราบปรามยาเสพติดนั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ยังไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมจากรัฐบาล โดยเฉพาะการนำงบกลางมาใช้จัดการปัญหาอย่างตรงจุด แม้จะมีวงเงินสำรองอยู่ราว 60,000 ล้านบาท เพราะงบกลางก้อนนี้ควรถูกใช้กับสิ่งจำเป็น ไม่ใช่กระจายปะปนโดยไม่มีแผน ใช้ไม่เป็นระบบ ก็เสี่ยงจะซ้ำรอยโครงการในอดีตที่ไม่บรรลุเป้าหมาย
ส่วนไฮไลท์การประชุมงบประมาณวันนี้ด้านสส.พรรคประชาชนมีใครน่าสนใจบ้าง นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องบอกว่าน่าจับตาดูทั้ง 49 คนจะให้เลือกลูกรักลูกชังคงไม่ได้ ต้องบอกว่าเข้มข้นเพราะเราได้มีการเปลี่ยนวิธีการเล็กน้อย ไม่ได้เป็นการอภิปรายงบประมาณแบบตัวเลขเยอะหรืออภิปรายหลักการเป็นนามประธรรมมากขนาดนั้น แต่อยากจะยกโครงการต่าง ๆ ที่เคยทำแล้วในอดีต ให้รัฐบาลถอดบทเรียนว่าไม่ควรทำซ้ำแบบเดิมอีก ซึ่งโครงการเหล่านั้นก็จะมีปัญหาในเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น การแก้ไขสัญญาถูกทิ้งร้าง
หรือไม่ได้ใช้ประโยชน์จริง
เมื่อถามว่า ธีมการช่วยรัฐบาลหาเงินนั้น จะดูใจดีเกินไปหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า หากรอฟังดูก็จะรู้ว่าไม่ได้มาจากการใจดีที่เราต้องมาช่วยรัฐบาลหาเงินในทุกวันนี้ก็เป็นเพราะความผิดพลาด 2 ปีติด ของการจัดงบประมาณของรัฐบาลที่ผ่านมาโดยภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่ใช้เงินมือเติบสุรุ่ยสุร่ายตั้งงบขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องจนวันนี้เราไม่มีทางออกนอกจากว่าต้องจัดสรรงบประมาณในปี 69 ใหม่ให้ดีกว่าเดิม ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งตอนนี้เรายังต้องมีเงื่อนไขอีกว่าเราจะช่วยหาเงินอย่างเต็มที่ เพราะในวาระที่หนึ่งยังตัดอะไรไม่ได้ แต่จะไปตัดกันในชั้นกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ เราจะช่วยเต็มที่ขอให้รัฐบาลบอกมาว่า อยากให้เราตัดกี่บาท ต้องใช้เงินเท่าไหร่ และจะใช้เงินไปทำอะไร
ส่วนแก่นของการอภิปรายของพรรคประชาชนในครั้งนี้ คือการยืนยันบทบาทฝ่ายค้านสร้างสรรค์ที่แม้จะไม่ร่วมรัฐบาล แต่พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างมีระบบ โดยเฉพาะการจัดงบให้ตอบโจทย์สถานการณ์ประเทศ ไม่ใช่เพียงตั้งงบแบบขาดดุลต่อเนื่องเช่นที่เกิดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาระสะสมจากการใช้งบไม่สมเหตุสมผลในยุครัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้ นางสาวศิริกัญญา ยังเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการ ตัดงบจำนวนเท่าใด และจะนำไปใช้ในด้านใด เพื่อให้ฝ่ายค้านสามารถช่วยผลักดันในชั้นกรรมาธิการได้อย่างมีทิศทาง เช่น หากรัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่าอยากได้ 100,000 ล้านบาท หรือ 300,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ก็ควรแจ้งให้ชัด ไม่เช่นนั้นอาจซ้ำรอยปีที่ผ่านมา ที่ฝ่ายค้านตัดงบได้เพียงหมื่นล้านบาท ขณะที่รัฐบาลกลับเลือกใช้งบจากแหล่งเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถึง 30,000 ล้านบาท
นางสาวศิริกัญญา กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลยังไม่ชัดเจนกับเป้าหมายการตัดงบ การทำงานของฝ่ายค้านจะต้องเผชิญแรงต้านจากข้าราชการประจำ หรือพรรคร่วมรัฐบาลที่ต่างคนต่างปกป้องงบกระทรวงของตนเอง ซึ่งทำให้การอภิปรายกลายเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น ทั้งที่เจตนาของฝ่ายค้านคือการปรับปรุงการใช้งบให้ตรงจุด
เมื่อถามว่า ไฮไลท์วันแรกจะเป็นอย่างไรนั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า วันแรกไฮไลท์ก็ต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านที่จะเป็นคนพูดเปิด และทำความเข้าใจทั้งหมดว่าธีมของเราในการช่วยรัฐบาลหาเงินเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็จะอภิปรายในเรื่องความเสี่ยงที่เกี่ยวกับเรื่องการคอรัปชั่น
สำหรับรัฐบาลที่ระบุว่าวันนี้เป็นการอภิปรายงบประมาณ ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ นั้น นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ต้องดูกันว่าการใช้งบประมาณที่ผิดประเภท การใช้งบประมาณที่คอรัปชั่นนั้น ถ้าจะไม่พูดในการอภิปรายงบประมาณเลยเราก็รู้สึกว่ามันเป็นการเสียดายซีน ฉะนั้น เราต้องมีการเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนรับทราบ และทำให้เหตุผลที่เราต้องปรับนั้นหนักแน่นมากขึ้น
อย่างไรก็ตามในเรื่องมติของพรรคประชาชนจะเป็นอย่างไรนั้น นางสาวศิริกัญญา ยืนยันว่า พรรคประชาชนมีมติไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 โดยจะนำมติดังกล่าวไปประสานกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อยืนยันจุดยืนร่วมกันว่างบฉบับนี้ไม่ตอบโจทย์ภาวะเศรษฐกิจ และไม่ได้เตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวอีกว่า การปรับโครงสร้างงบประมาณต้องไม่ใช่เพียงแค่ลดรายจ่ายเพื่อขาดดุลน้อยลง แต่ต้องเป็นการวางแผนลงทุนอย่างมีเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจริง ลดช่องว่างทางสังคม และสร้างแรงส่งให้ระบบเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน