รีวิว ‘อันธพาล 2499 THE MUSICAL’ กับการปลุกตำนานแห่ง 2499 ให้ลุกขึ้นอีกครั้งในปี 2568
จะเป็นยังไง ถ้าอดีตอันธพาลแห่งยุค 2499 อย่าง ‘แดง ไบเล่’ กลับมาตีกับ ‘ปุ๊ ระเบิดขวด’ ให้เราเห็นกับตาตัวเอง บนเวทีรัชดาลัย เธียเตอร์
แน่นอนว่าชื่อของ แดง ไบเล่ เคยเป็นที่โจษจันไปทั่วทั้งพระนคร และในวันนี้ ‘นาย—ณภัทร เสียงสมบุญ’ ก็พาเขากลับมาให้เราได้เห็นอีกครั้ง เคียงคู่มากับอดีตเพื่อนรัก ปุ๊ ระเบิดขวด ที่ได้ ‘ไอซ์—พาริส อินทรโกมาลย์สุต’ มาสวมบทบาทนี้
ต้องเรียกว่าการกลับมาของแก๊งนักเลงในตำนาน ผ่านละครเวที ‘อันธพาล 2499 THE MUSICAL’ นี้เป็นทั้งความท้าทายและความสำเร็จของวงการละครเวทีในบ้านเรา เพราะเป็นการหยิบเอาภาพยนตร์ในตำนานอย่าง ‘2499 อันธพาลครองเมือง’ ที่กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร มาตีความใหม่ ให้เราเห็นในมุมที่ไม่เคยเห็น ได้สัมผัสในมุมที่ไม่เคยสัมผัส ด้วยการรังสรรค์เส้นทางแสนหฤโหดของตัวละคร ผสานเข้ากับมวลอารมณ์ความรัก ความสัมพันธ์ได้อย่างลงตัว ราวกับว่าถ้านี่คือสำรับอาหาร ก็เป็นสำรับที่จัดเรียงไว้อย่างพิถีพิถัน มีทุกรสชาติร้อยเรียงกันอยู่ในสำรับเดียว
แก๊งอันธพาล 5 คน ที่เราเคยได้ยินชื่อ หรือเคยได้ดูเมื่อ 28 ปีก่อน ทั้ง แดง ไบเล่, ปุ๊ ระเบิดขวด, ดำ เอสโซ่ (รับบทโดย เทศน์ ไมรอน), เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์ (รับบทโดย ไดร์ม่อน—ณรกร ณิชกุลธนโชติ) และแหลมสิงห์ (รับบทโดย บูม—สหรัฐ เทียมปาน) หวนคืนกลับมาในเส้นเรื่องที่อาจจะดูคลิเช่ในสายตาของใครหลายคน แต่เมื่อได้ดูทุกองค์ประกอบกับตาของตัวเอง ก็ทำให้ 3 ชั่วโมงบนเก้าอี้ในโรงละคร กลายเป็น 3 ชั่วโมงที่เราละสายตาไปจากการแสดงตรงหน้าไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว
ทั้งๆ ที่ถามใครเขาก็รู้ว่าปลายทางของการเป็นนักเลง มีอยู่แค่ 2 ทาง คือไม่อยู่ในตะราง ก็คงต้องชำระค่าแห่งศักดิ์ศรีด้วยชีวิต ทว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้แดง ต้องทิ้งชีวิตจากเด็กชายในชุดนักเรียน มาเป็นแดง ไบเล่หนึ่งในแก๊งอันธพาลของพระนคร อะไรคือจุดแตกหักที่คร่ามิตรภาพระหว่างพวกเขาทั้ง 5 คนให้สะบั้นลง และเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร นี่คือสิ่งที่ทุกคนจะได้รับรู้เมื่อดู ‘อันธพาล 2499 THE MUSICAL’ เรื่องนี้
แน่นอนว่าความน่าสนใจของการดู อันธพาล 2499 ในรูปแบบละครเวที คือการเฝ้ารอดูว่าฉากต่อสู้ที่เป็นเสมือนหัวใจหลักของเรื่องจะถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบไหน ถ่ายทอดออกมาได้ถึงใจคนดูสักเท่าไหร่ และเมื่อได้ดูแล้ว เราก็ต้องขอปรบมือดังๆ ให้กับฉากการปะทะกันระหว่างฟากฝั่งไบเล่ และระเบิดขวดจริงๆ นอกจากความแข็งแกร่งที่แผ่ซ่านออกมาให้ในฉากต่อสู้แล้ว ในฉากนั้นยังคละเคล้าไปด้วยมวลอารมณ์แห่งความคับแค้น ที่ท้ายที่สุดต้องเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาได้อย่างลงตัว
ต้องยอมรับว่าการตีความใหม่ในครั้งนี้ ทำให้เสน่ห์ของการละครเวทีแบบฉบับบอย—ถกลเกียรติ วีรวรรณ ยังคงเต็มเปี่ยม เราได้เห็นสายใยความสัมพันธ์ของตัวละครโยงเข้าหากัน ไม่ว่าจะในมิติคนรัก ครอบครัว เพื่อน หรือแม้กระทั่งเจ้านายลูกน้องก็ตาม ทำให้คนดูสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของตัวละครที่แม้จะถูกเรียกขานว่าเป็นอันธพาล แต่ยังมีหัวใจและรู้จักรักใครสักคนได้อยู่
เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร ทั้งในด้านบวกและลบ ได้เห็นความเป็นมนุษย์กำจรไปทั้งรัชดาลัย เธียเตอร์ รักก็สัมผัสได้ คับแค้นก็เข้าถึง กลัวก็ปรากฏ เศร้าโศกก็กินใจ และยังได้รับรู้ว่าประโยค “เรามันไม่มีอะไรจะเสีย” นั้นเป็นจริงไหม
งานนี้คงต้องลุกขึ้นปรบมือให้กับเหล่านักแสดง และทีมงานทุกคนที่ร่วมกันสร้างผลงานชิ้นโบแดงนี้ให้เกิดขึ้นมา ทว่ามีอยู่ตัวละครหนึ่งที่ติดในใจเราตั้งแต่ดูจบ จนต้องขอหยิบยกมาชื่นชม นั่นคือ เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์ ที่รับบทโดย ไดร์ม่อน—ณรกร ณิชกุลธนโชติ เพราะตัวละครเปี๊ยกในสายตาเรา เป็นตัวละครที่ยังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเส้นทางของเด็กนักเรียน และวังวนของนักเลงได้แบบไม่ขัดเขิน เราได้เห็นทั้งเปี๊ยกที่รู้จักไอน์สไตน์ และเปี๊ยกที่ยอมสู้จนตัวตาย เป็นความแยบคายที่ผู้เขียนบทวางไว้ได้แบบพอดิบพอดี เปี๊ยกในมุมหนึ่งยังคงเป็นเด็กที่ถวิลหามิตรภาพ และอยากรับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีเปี๊ยกที่กล้าจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อนของตัวเอง กระทั่งความเสียดายสุดท้ายมาเยือน และไดร์ม่อนแสดงเป็นเปี๊ยกในเวอร์ชั่นนี้ได้อย่างน่าชื่นชม
อีกหนึ่งตัวตัวละครที่ถ้าไม่เอ่ยถึงในครั้งนี้เราคงจะเสียดายคือโฉม แม่ของแดง ไบเล่ ที่รับบทโดย ปุยฝ้าย—ภัทณชา วิภัทรเดชตระกูล งานนี้เราได้เห็นความรัก ความเป็นห่วง ความกลัวของคนเป็นแม่ แผ่ออกมาจากตัวละครโฉมจริงๆ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นตัวละครหลัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นตัวละครสำคัญที่ส่งผลต่อแดง ไบเล่อย่างถึงที่สุด ตั้งแต่ช่วงวัยเยาว์ จวบจนกระทั่งเติบใหญ่ แดง ไบเล่ เป็นแดง ไบเล่ที่รู้จักรักได้ เพราะเขาถูกประกอบสร้างมาจากครึ่งหนึ่งของแม่โฉม และแน่นอนว่าปุยฝ้าย แสดงเป็นแม่โฉมที่ทั้งรัก ทั้งห่วงลูกชายของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แล้วไปลุ้นกันว่าเส้นทางชีวิตของแดง ไบเล่, ปุ๊ ระเบิดขวด, ดำ เอสโซ่, เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์ และแหลมสิงห์ ต่างคนจะต่างลงเอยอย่างไร
จับจองบัตรไปลุ้นและเอาใจช่วยนังเลงแก๊งนี้ได้ที่ https://www.thaiticketmajor.com/gang-of-1956-the-musical/