“บิ๊กเต่า” ยัน สืบสวนในทุกมิติ ปม ยักยอกทรัพย์วัดไร่ขิง ส่วนเตย-สามี ร่างทรง ที่มีอิทธิพลต่อ‘อดีตเจ้าอาวาส’

“บิ๊กเต่า” ยัน สืบสวนในทุกมิติ ปม ยักยอกทรัพย์วัดไร่ขิง ส่วนเตย-สามี ร่างทรง ที่มีอิทธิพลต่อ‘อดีตเจ้าอาวาส’ ยังติดต่อไม่ได้ เร่ง หาหลักฐานเพิ่มเติม

วันที่ 22 พ.ค. 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นความคืบหน้าคดีวัดไรขิง ว่า ในส่วนเรื่องของเตย-สามี ที่มีอิทธิพลกับทางวัดไร่ขิงนั้น ทางเจ้าหน้าที่พยามที่จะสืบสวนสอบสวนในทุกมิติ และอยากรู้ข้อเท็จจริงเหมือนที่นักข่าวอยากรู้ว่าพระกับสีกามีความสัมพันธ์กันหรือไม่อย่างไร แต่จากข้อมูลที่เราได้มาในตอนนี้เชื่อว่าจะมีอะไรบางอย่างมากกว่านี้ เพราะทำไมพระถึงได้มีการเชื่อสีกาสองคนนี้มาก แต่ในเรื่องของแนวทางทางวิทยาศาสตร์ หรือสิ่งที่เราติดตามจากการสะกดรอยและดูจากคลิปนั้นเรายังไม่พบ

พร้อมย้ำว่า เตยเข้ามาภายในวัดได้มีการเข้ามาแค่รถเก่าๆหนึ่งคัน และเข้ามาทางด้านอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งทางอดีตเจ้าอาวาสก็เชื่อในทุกเรื่องที่เตยพูด และพยายามโน้มน้าวคนอื่นให้เชื่อเตยเช่นเดียวกัน แต่พระภายในวันพยายามเตือนสติอดีตเจ้าอาวาสแล้ว แต่เจ้าอาวาสไม่ฟัง อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่พยายามที่จะตามเงินทุกบาทที่เอาจากวัดไปกลับคืนมา

เมื่อถามว่าในวันแรกที่มีการสอบปากคำเตยที่นครปฐมเป็นอย่างไรบ้างนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เตยยังให้การที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเพราะฉะนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการทำการบ้านต่อไป โดยในรายละเอียดของคดีมองว่าเตยมาช่วยวัดเพื่อทำกิจกรรมภายในวัด ซึ่งมาในคราบของนักบุญ แต่ที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีผลประโยชน์แอบแฝงกัน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มองว่าบริเวณภายในวัดไร่ขิงเป็นพื้นที่ทำเลทองในการทำการค้า ทั้งในเรื่องของการขายกาแฟน้ำดื่ม ลูกชิ้น เพราะสามารถสร้างรายได้ประมาณเดือนละหนึ่งล้านบาท

ส่วนในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างอรัญญาวรรณกับอดีตพระเอกพจน์ พบความเชื่อมโยงหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า พยามดูในเรื่องของโทรศัพท์แล้วพบว่าไม่มีความเชื่อมโยงในเรื่องของความสัมพันธ์กันในเรื่องอื่น แต่มีเฉพาะในเรื่องของความสัมพันธ์ของเส้นเงินเท่านั้น

พร้อมยืนยันว่าไม่มีการทิ้งในแต่ละประเด็นแน่นอน และมีการบ้านที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องดำเนินการต่อไปคือในเรื่องของการซื้อขายตำแหน่งและเรื่องที่เชื่อมโยงกับวัดในเรื่องต่างๆซึ่งได้ให้สำนักพุทธไปช่วยในการตรวจสอบเรื่องเงินทั้งหมดเพิ่มเติม

โดยโทรศัพท์ที่เราได้ดูยืนยันว่าทางด้าน อดีตเจ้าอาวาสไม่มีเกี่ยวข้องกับการเล่นการพนัน เพราะไม่มีความเชื่อมโยงกัน แต่ยืนยันว่าทางด้านอดีตเจ้าอาวาสรู้ว่านางสาวอรัญญาวรรณ นำเงินดังกล่าวไปเล่นการพนัน

เมื่อถามว่าในเรื่องของหมายจับล็อตต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เราจะทำเรื่องนี้อย่างโปร่งใสตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรม ส่วนใครที่เข้ามาเกี่ยวข้องหรือมีความผิดในเรื่องนี้เราจะดำเนินการต่อไป พร้อมดำเนินการให้เกิดเป็นบรรทัดฐานในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้มีการบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เพื่อให้ศาสนาเดินต่อและให้เป็นที่เคารพของประชาชนต่อไป

ส่วนในเรื่องของเตยนั้นยังอยู่ในประเทศหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ยังไม่สามารถติดต่อได้ซึ่งเรานำหลักฐานที่มีอยู่ดำเนินการต่อไป โดยเบื้องต้นพบว่า ตอนนี้เตยมีการขนย้ายทรัพย์สินส่วนตัวออกจากวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำงานต่อเนื่องไม่ทิ้งในทุกประเด็นเพราะก่อนหน้านี้เห็นอยู่แล้วว่า ใครมีอิทธิพลในวัดและรถเป็นชื่อของใคร และใครสามารถที่จะสั่งการหรือควบคุมอดีตเจ้าอาวาสได้โดยปัญหาที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่รับรู้แล้ว