โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หลานกังวลหนัก เมื่อยายโทรบอกมีงูเข้าบ้าน ทำให้ต้องทิ้งงาน กลับไปช่วยด่วน

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 16 พ.ย. 2565 เวลา 11.18 น. • เผยแพร่ 16 พ.ย. 2565 เวลา 10.56 น.

หลานชายตกใจ หลังยายโทรหาบอกงูใหญ่เข้าบ้าน ทำให้ต้องทิ้งงานกลับมาช่วยด่วน ก่อนเห็นความจริงถึงกับขำค้างทั้งน้ำตา

จากกรณีที่เว็บไซต์ETtoday ของไต้หวัน ได้เผยเรื่องราวจากชายหนุ่มรายหนึ่ง เขาได้รับโทรศัพท์จากคุณยายของเขา ซึ่งในสายคุณยายพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจสุดขีด บอกว่ามีงูเลื้อยเข้ามาอยู่บริเวณหน้าบ้าน ทำให้หนุ่มรายนี้เป็นกังวลกลัวว่าคุณยายจะได้รับอันตรายจึงรีบวางมือจากงาน แล้วตรงกลับบ้านไปในทันที

หลานกังวลหนัก เมื่อยายโทรบอกมีงูเข้าบ้าน ทำให้ต้องทิ้งงาน กลับไปช่วยด่วน
หลานกังวลหนัก เมื่อยายโทรบอกมีงูเข้าบ้าน ทำให้ต้องทิ้งงาน กลับไปช่วยด่วน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน หนุ่มรีบเปิดประตูรั้วเข้ามา ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ต้องตกตะลึงยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็น "งูตัวยาว" ที่คุณยายบอก แบบใกล้ ๆ ชัด ๆ ทำให้รู้ว่ามันไม่ใช่งูหรือสัตว์มีพิษแต่อย่างใด แต่แท้จริงแล้วมันคือ อุจจาระของสุนัขที่เลี้ยงไว้ ซึ่งถูกปล่อยออกมาแบบเรียงรายขดตัวต่อกัน เลยคาดว่าน่าจะทำให้คุณยายถึงเข้าใจผิดได้

โดยชายหนุ่มถ่ายภาพเหตุการณ์เอามาโพสต์ลงเฟซบุ๊กกลุ่มชุมชน พร้อมทั้งภาพที่เผยให้เห็นคุณยายของเขา พร้อมทั้งสุนัขตัวการ เจ้าของวีรกรรมสุดแสบ ทั้งคู่นั่งคู่กันอย่างอารมณ์ดี โดยที่ไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่มนั้นเป็นห่วงและเป็นกังวลมากขนาดไหน

หลานกังวลหนัก เมื่อยายโทรบอกมีงูเข้าบ้าน ทำให้ต้องทิ้งงาน กลับไปช่วยด่วน
หลานกังวลหนัก เมื่อยายโทรบอกมีงูเข้าบ้าน ทำให้ต้องทิ้งงาน กลับไปช่วยด่วน

หลังจากนั้นไม่นานโพสต์ของชายหนุ่มก็ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว มีผู้เข้าไปกดถูกใจจำนวนมาก หลายคนต่างรู้สึกประหลาดใจจนหัวเราะออกมาเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งเข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นขำขัน เช่น "ไม่ต้องห่วง งูตัวนี้หัวกลม ไม่มีพิษ" และ "อุจจาระขนาดนี้ พี่ (สุนัข) ท้องผูกมาหลายวันหรือเปล่า"

หลานกังวลหนัก เมื่อยายโทรบอกมีงูเข้าบ้าน ทำให้ต้องทิ้งงาน กลับไปช่วยด่วน
หลานกังวลหนัก เมื่อยายโทรบอกมีงูเข้าบ้าน ทำให้ต้องทิ้งงาน กลับไปช่วยด่วน

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ภายหลังจากมีการตรวจสอบทางสื่อออนไลน์ พบว่าภาพถ่ายดังกล่าวถ่ายขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน ปีที่ผ่านมา และคาดว่าสถานที่เกิดเหตุน่าจะไม่ใช่ในไต้หวัน

ขอบคุณ เว็บไซต์ETtoday

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0