โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

ประกอบไทย ขับไกลเฉียด 1,000 กิโลเมตร ทดสอบ MERCEDES-BENZ NEW C220d AMG LINE

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 02 เม.ย. เวลา 05.27 น. • เผยแพร่ 01 เม.ย. เวลา 03.00 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

Mercedes-Benz New C-Class ใหม่ รหัสตัวถัง W206 รถซีดานไซส์เล็กรุ่นล่าสุดที่คนของแบรนด์ตราดาวภูมิใจในการนำเสนอ W206 รุ่นใหม่ พกพาความครบทั้งอุปกรณ์ไฮเทคและสมรรถนะ ทั้งสองอย่างถูกควบรวมเข้าด้วยกัน เพื่อการเอาชนะคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง BMW Series-3 รุ่น 320d M Sport LCI กับ Audi A4 40TFSI S Line การสร้างขอบเขตของความสะดวกสบาย พร้อมรองรับโลกแห่งอนาคต

ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงระบบขับเคลื่อนที่เกิดขึ้นทั่วโลก New C-Class เป็นรถ Mercedes-Benz ซีรีส์คลาสสิกรุ่นแรกที่ใช้ระบบไฟเต็มรูปแบบ ด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ISG เทคโนโลยี Mild Hybrid 48 โวลต์ นอกจากนั้นยังมีการปรับมาตรฐานการขับของรถรุ่นนี้ให้สูงขึ้น และเนื่องจาก C-Class เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่มีปริมาณการผลิตสูงสุดของแบรนด์ตราดาว การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ส่วนหนึ่ง ก่อนที่ C-Class จะกลายเป็นยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (ในอนาคตอันใกล้) Mercedes-Benz C-Class Sedan รุ่นใหม่ เดินทางมาถึงตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในช่วงกลางปี 2022 ด้วยภาพลักษณ์ที่ยังคงยึดโยงกับคำขวัญเดิมๆ นั่นก็คือความเป็น Baby S-Class นั่นเอง

Mercedes-Benz C220d AMG Line เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ 201 แรงม้า 440 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 0-100 ใน 7.3 วินาที ท็อปสปีด 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราคา 2,880,000 บาท

W206 New C-Class C220d AMG Line มีดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับ Mercedes-Benz New E-Class W214 ส่วนหน้าถูกปรับให้ดูทันสมัยมากกว่าเดิม จากงานดีไซน์ไฟหน้าและกระจังหน้าใหม่หมด สัดส่วนด้านข้างสมส่วน แนวโค้งของหลังคา แสดงออกถึงไดนามิกในการออกแบบ ผสมผสานระหว่างระยะโอเวอร์แฮงก์ด้านหน้าที่สั้นกุด ระยะฐานล้อยาว เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับห้องโดยสาร โอเวอร์แฮงก์ด้านหลังที่ลงตัว ฝากระโปรงหน้าแบบสปอร์ตพร้อมเพาเวอร์โดม เน้นรูปลักษณ์ของการเคลื่อนไหวแบบพุ่งทะยานไปข้างหน้า เพาเวอร์โดมที่เคยอยู่ในรถ AMG ถูกโยกมาใส่บนฝากระโปรงหน้าของ New C-Class เพื่อสร้างแรงดึงดูดด้านสายตา สำหรับ W205 ซึ่งเป็น C-Class รุ่นก่อนหน้า แสดงถึงความก้าวหน้าในแง่ของความน่าดึงดูดที่มีมูลค่าจากงานตกแต่งภายใน ส่วน W206 รุ่นใหม่นั้นก้าวไปไกลกว่าในแง่ของความหรูหราที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ใหม่ที่ทันสมัย ภายในก็ยังคงทำตามแนวคิดเดิม นั่นก็คือการใช้ไฮไลต์ของรถรุ่นเรือธงอย่าง S-Class ใหม่ มาปรับแต่งให้เข้ากับห้องโดยสารที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าพี่ใหญ่รุ่นเรือธง เพิ่มความสปอร์ตด้วยรูปแบบของอุปกรณ์ไฮเทค และตกแต่งด้วยวัสดุหรูหราราคาแพงเหมือนเดิม กระจังหน้าของ C220d รุ่น AMG Line ประดับประดาด้วยดาวสามแฉกชิ้นเล็กๆ ประดับประดาอยู่บนชุดกระจังแบบใหม่ New C-Class ทุกรุ่นมีกระจังหน้าที่ติดตั้งตราสัญลักษณ์ดาวสามแฉกตรงกลาง การออกแบบใหม่ในลักษณะของกระจังหน้าที่มีความแตกต่างกันในรายละเอียด ไฟหน้า LED พร้อมไฟหรี่ LED Daytime Running Light น่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่ C220d AMG Line ไม่มีระบบไฟ Multi Beam LED โดยแทนที่ด้วยไฟหน้า LED High Performance Headlamps กันชนหน้ามีองค์ประกอบของชิ้นงานตกแต่งในช่องระบายอากาศ ขณะที่กระจังหน้าและกันชนหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม รุ่น AMG Line คือกระจังหน้าเพชรที่โดดเด่นจากดีไซน์รูปดาวดวงเล็กๆ สะท้อนแสงด้วยพลาสติกพื้นผิวโครเมียม

จากด้านข้าง พื้นผิวตัวถังที่ลื่นไหล สร้างเอฟเฟกต์เวลากระทบกับแสงยามเย็นของสนามช้าง ดีไซเนอร์ลดจำนวนเส้นสายรอบตัวถังให้เหลือน้อยที่สุด เส้นแนวยื่นด้านข้างที่กลมกลืนมากยิ่งขึ้น รูปลักษณ์แบบสปอร์ตซีดานที่ปราดเปรียว ความกว้างของแทร็กที่มากกว่าเดิม รวมไปถึงล้ออัลลอย AMG ลาย 5 ก้านสีเทา ดำ สลับก้านวงสีเงิน ขนาด 18 นิ้ว เป็นล้อลายห้าแฉกที่ล้างง่าย ยางหน้า 225/45R18 95Y ยางหลัง 255/45R18 100Y มิติตัวถังมีขนาดความยาว 4,793 มิลลิเมตร ยาวขึ้น 10 มิลลิเมตร กว้าง 1,820 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 10 มิลลิเมตร สูง 1,446 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,865 มิลลิเมตร ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 455 ลิตร ความจุถังเชื้อเพลิง 66 ลิตร

ท้ายโค้งมน ขอบของฝากระโปรงท้ายยกสันนูนเพื่อเพิ่มมิติมุมมอง ไฟท้าย LED คุณภาพสูง ดึงดูดสายตาด้วยรูปลักษณ์ของไฟท้ายแบบสองชิ้น เลนส์ไฟถอยสีขาวอยู่ตรงมุมของไฟท้าย ตำแหน่งของไฟเลี้ยวที่อยู่ตรงกึ่งกลาง มองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืนจากความเข้มและกำลังในการส่องสว่างของหลอด LED เป็นครั้งแรกที่ไฟท้ายมีดีไซน์แบบสองชิ้นใน C-Class โดยแบ่งฟังก์ชันไฟระหว่างส่วนด้านข้างของบั้นท้ายและฝากระโปรงท้าย การตัดแต่งเสริมเฉพาะเส้นในกันชนหลัง ทำให้มุมมองด้านหลังดูผสมผสานกันอย่างกลมกลืน สีตัวถังเริ่มจากสีขาว Polar White ซึ่งเป็นสีตัวถังรถทดสอบ นอกจากนั้นก็ยังมีสีดำ Obsidian Black / สีเทา Graphite Grey และสีเงิน High-tech Silver

ภายในของ C220d AMG Line จัดวางรูปแบบของแดชคล้ายกับ S-Class V223 แต่มีพื้นที่เล็กกว่ามาก แผงหน้าปัดของ W206 มีการแบ่งบอร์ดคอนโซลและตำแหน่งต่างๆ ของจอภาพ รวมถึงการแยกโซนการใช้งานระหว่างคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าออกจากกันอย่างชัดเจน แดชบอร์ดคอนโซล มีลักษณะคล้ายปีกของอากาศยาน พร้อมช่องแอร์ทรงกลมแบบใหม่ที่มีดีไซน์แปลกตา ทำให้นึกถึงส่วนหน้าของเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ต การตกแต่งที่งดงาม จากคอนโซลกลางไปยังแดชบอร์ดอุดมไปด้วยวัสดุที่มีราคาแพง

โฟกัสของคนขับเพิ่มความสปอร์ตด้วยแผงหน้าปัด TFT LCD และจอแสดงผลส่วนกลางที่วางองศาของจอภาพให้เอียงไปทางฝั่งคนขับเล็กน้อยประมาณหกองศา เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน จอภาพมาตรวัดของคนขับ ติดตั้งหน้าจอ TFT thin film transistor ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มาตรวัดจอภาพแบบ Panorama แตกต่างไปจาก C-Class W205 ที่ใช้หน้าปัดทรงกลมแบบคลาสสิก การแสดงผลของหน้าปัดมาตรวัดสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างหลากหลาย ทั้งแบบสปอร์ต แบบคลาสสิก รวมไปถึงรูปแบบของระบบนำทางและระบบความปลอดภัยที่สามารถนำขึ้นมาแสดงผลบนจอภาพมาตรวัดได้อย่างคมชัด

การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ไปสู่ระบบดิจิทัลยุคใหม่ ปรากฏอยู่ในจอแสดงผลส่วนกลางที่คล้ายกับ New S-Class จอกลางแนวตั้ง สามารถควบคุมและแสดงผลการทำงานของระบบต่างๆ การปรับตั้งและเชื่อมต่อฯ ผ่านการสั่งงานบนหน้าจอระบบสัมผัสคุณภาพสูง การวางจอภาพในแนวตั้งทำให้มองเห็นได้ชัดเจนและเกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อใช้ระบบนำทางด้วยดาวเทียมหรือกล้องมองรอบคัน หน้าจอสัมผัสออกแบบให้ดูเหมือนลอยอยู่เหนือแดชบอร์ด เช่นเดียวกับชุดแดชบอร์ดที่หรูหรา หน้าจอมอนิเตอร์กลางปรับองศาให้เอียงเล็กน้อยไปทางคนขับ จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 11.9 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ New C-Class ทุกรุ่นอีกด้วย จอแสดงผลส่วนกลางยังมีการตกแต่งที่ลงลึกในด้านรายละเอียด เช่น การล้อมรอบจอภาพด้วยสีดำเงาวาวและขอบสีเงินที่ตัดกับสีดำและขยายไปยังคอนโซลกลางได้อย่างลงตัว รายละเอียดการตกแต่งที่ประณีต การตัดขอบด้วยโครเมียมคุณภาพสูง ช่วยให้ห้องโดยสารของ C220d AMG Line น่ามองมากยิ่งขึ้นและเหมือนกับห้องโดยสารของ New S-Class ที่ถูกย่อสัดส่วน

แผงประตูเรียบง่ายโดยมีปุ่มปรับตั้งเบาะพร้อมหน่วยความจำ 3 ระดับ มาให้เหมือนเดิม กรวยลำโพงที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ปุ่มควบคุมกระจกไฟฟ้า ช่องใส่ของกระจุกกระจิก เแผงประตูตรงกลางในตำแหน่งที่วางแขนในตัวมีการพัฒนาจากพื้นผิวแนวตั้งเป็นแนวนอน สะท้อนการออกแบบให้เชื่อมโยงกับคอนโซลกลาง สามารถใช้เป็นที่จับหรือปิดได้ การออกแบบเบาะนั่งใน C-Class ใหม่ ใช้ชั้นและพื้นผิวที่อ่อนนุ่มห่อหุ้มด้วยหนังแท้ พนักพิงศีรษะได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยใช้การยึดติดตัวเบาะเข้ากับพนักพิงด้วยแท่งพลาสติก แดชบอร์ดที่หุ้มด้วย MB-Tex พร้อมเส้นคาดที่ทำให้มีความหรูหรา สำหรับ C-Class เวอร์ชัน AMG Line แสดงพื้นผิวที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มีแผ่นอะลูมิเนียมฝังอยู่ตามส่วนโค้งของแผงหน้าปัด จอภาพมาตรวัดและจอแสดงผลกลางที่คล้ายกับ S-Class ใหม่ รูปทรงของจอภาพมาตรวัด ถูกปรับให้เข้ากับการแสดงผลแบบใหม่ถึงสามรูปแบบ (แบบ Sport / Classic / คลาสสิก และแบบ Normal) อีกสามโหมดสำหรับการแสดงผลในระบบนำทางดิจิทัล ระบบความปลอดภัย การตั้งค่า ใน "สปอร์ตโหมด" จอภาพมาตรวัดใช้โทนสีแดงที่เร้าใจ วัดรอบเครื่องยนต์และวัดความเร็วแสดงผลเป็นตัวเลขอยู่ตรงกลาง C-Class ใหม่ยังมาพร้อมกับระบบแสง Ambient Light LED ตกแต่งภายในปรับเปลี่ยนเฉดสีได้ 64 สี

C-Class รุ่นล่าสุด มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ MBUX รุ่นที่สอง (Mercedes-Benz User Experience) เป็นระบบดิจิทัลที่ฉลาดยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มีความก้าวล้ำ ภาพกราฟิกที่สวยงามบนจอแสดงผลความละเอียดสูง ทำให้ง่ายต่อการควบคุมรถ การปรับตั้งฟังก์ชันต่างๆ รวมถึงความสะดวกสบายที่ใส่มาให้อย่างเต็มที่ จอแสดงผลสำหรับคนขับและจอภาพมอนิเตอร์กลาง นำเสนอความสุนทรียภาพแบบองค์รวม ข้อมูลต่างๆ ถูกนำเสนอในลักษณะที่มีโครงสร้างอย่างชัดเจน เข้าและออกจากเมนูต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้น Mercedes-Benz ได้พัฒนารูปแบบการแสดงผลที่สวยงามสำหรับ S-Class ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นพื้นฐานสำหรับรุ่นอื่นๆ อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะใน New C-Class รูปลักษณ์ของหน้าจอสามารถปรับให้เข้ากับรูปแบบการแสดงผลได้ตามต้องการ หน้าปัดมาตรวัดแบบ Classic ใช้มาตรวัดทรงกลมที่มีรูปแบบคุ้นเคย การแสดงผลที่คมชัดของจอ TFT

ระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes ใช้ซอฟต์แวร์ใหม่ สามารถโต้ตอบและเรียนรู้ได้มากขึ้น โดยเปิดใช้งานบริการออนไลน์ในแอป Mercedes me นอกจากนี้การสั่งงานบางอย่างสามารถทำได้แม้ไม่มีคีย์เวิร์ดเปิดใช้งาน Hey Mercedes ซึ่งรวมถึงการรับโทรศัพท์ ระบบสั่งงานด้วยเสียงแบบใหม่ ยังสามารถอธิบายฟังก์ชันของรถอีกด้วย ตัวอย่างเช่น สามารถแนะนำเมื่อถูกถามถึงวิธีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนด้วยบลูทูธ หรือตำแหน่งที่จะพบกับชุดปฐมพยาบาล ระบบนี้ยังสามารถจดจำเสียงของผู้โดยสารได้ คนขับสามารถโหลดโปรไฟล์ส่วนตัวโดยใช้การควบคุมด้วยเสียง เมื่อมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่จาก Mercedes-Benz จะมีข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอ MBUX โดยแสดงผลผ่านแอป Mercedes Me ซอฟต์แวร์สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งทันที หรือกำหนดเวลาไว้ในภายหลัง Mercedes-Benz ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารเคลื่อนที่แบบใหม่ เพื่อถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างปลอดภัย การอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-the-air (OTA) แนะนำคุณลักษณะใหม่ของการใช้งาน

Mercedes-Benz พัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลจาก OM651 มาเป็น OM654 ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ตรงตามมาตรฐานการปล่อยมลพิษทั่วโลกในอนาคต เช่น Real Driving Emissions (RDE) และการทดสอบยานพาหนะ (WLTP) ขุมกำลังดีเซลขนาดเล็กรุ่นใหม่ที่ประจำการอยู่ใน New C-Class W206 CKD นั่นก็คือ เครื่องยนต์ Mercedes-Benz OM 654 M รุ่นดัดแปลง พร้อม ISG Mild Hybrid 48V ซึ่งช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อย CO2 ลง 13 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่มีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 24 แรงม้า (201 แรงม้า 440 นิวตันเมตร) เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล OM 651 สำหรับ OM 654 เป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบแถวเรียงสี่สูบ ความจุ 2.0 ลิตร 1,950 ซีซี อัดอากาศด้วยเทอร์โบเดี่ยวรุ่นแรกในตระกูลเครื่องยนต์ใหม่ของ Mercedes น้ำหนัก 168 กิโลกรัม ถือเป็นเครื่องดีเซลที่มีประสิทธิภาพรุ่นสุดท้าย ก่อนที่รถยนต์ทั้งหมดของแบรนด์ตราดาวจะเปลี่ยนไปขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

การสร้างเครื่องยนต์ดีเซลที่จะต้องปรับให้ตรงตามมาตรฐานมลพิษที่เข้มงวด และยังคงทำงานได้ดี Mercedes-Benz เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนวัสดุทำบล็อกเครื่องยนต์ที่ออกแบบและปรับเปลี่ยนใหม่หมด โดยใช้ประสบการณ์ด้านการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลมานานกว่า 80 ปี ผสมผสานกับแพลตฟอร์มใหม่ เครื่องยนต์ OM 654 เป็นเครื่องยนต์ดีเซลสี่สูบ บล็อกอะลูมิเนียมขนาดกะทัดรัด สามารถทนต่อแรงดันภายในสูงสุดได้ถึง 2,973.27 psi ช่วยลดน้ำหนักชิ้นส่วนต่างๆ ลงได้มากกว่าบล็อกเหล็กหล่อถึง 17 เปอร์เซ็นต์

การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และการปฏิบัติตามข้อกำหนดการปล่อยมลพิษระดับใหม่ เริ่มต้นด้วยการปรับส่วนประกอบภายในให้เหมาะสม เพิ่มระบบ EQ Boost ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่อยู่ในระบบเกียร์ 9G Tronic ช่วยในการออกตัว กำลัง 20 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ 200 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ OM 654 ใช้ลูกสูบเหล็กที่มีการออกแบบห้องเผาไหม้แบบขั้นบันได เนื่องจากความสามารถในการลดการปล่อยอนุภาค ตัวเลขมลพิษที่ลดลง เป็นผลมาจากการเพิ่มปริมาณอากาศที่เครื่องยนต์สามารถรับเข้าไปได้ และปริมาณความร้อนที่สะสมอยู่ในบริเวณที่เกิดการเผาไหม้

วัสดุเหล็กสำหรับลูกสูบ ช่วยเพิ่มการกักเก็บความร้อนในกระบอกสูบ และเพิ่มการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทางอุณหพลศาสตร์ของเครื่องยนต์ ลดระยะเวลารอบการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นจริง โลหะเหล็กยังช่วยให้ระยะห่างระหว่างลูกสูบและผนังกระบอกสูบมีความสม่ำเสมอมากขึ้น (อะลูมิเนียมจะขยายตัวเมื่อถูกความร้อน) การขยายตัวของลูกสูบน้อยลง เมื่อรวมกับการเคลือบผนังกระบอกสูบ Nanoslide ที่มีแรงเสียดทานต่ำเป็นพิเศษของ Mercedes ช่วยลดแรงเสียดทานได้ 40 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของลูกสูบให้ดียิ่งขึ้น เพลาข้อเหวี่ยงจะถูกชดเชยไปทางด้านไอดีของบล็อก 0.5 นิ้ว และใช้ก้านสูบขนาด 6 นิ้ว (154 มม.) การจัดเรียงนี้ช่วยลดแรงด้านข้างของลูกสูบได้ถึง 75 เปอร์เซ็นต์

เพลาข้อเหวี่ยงแบบใหม่ ช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างด้านไอเสียของบล็อก สำหรับระบบปล่อยมลพิษขนาดกะทัดรัดแบบใหม่ ที่ติดตั้งกับเครื่องยนต์โดยตรง การปรับตั้งที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบการปล่อยมลพิษเฉพาะรถยนต์ อุปกรณ์ประกอบด้วย ตัวเร่งปฏิกิริยาออกซิเดชันดีเซล และตัวกรองอนุภาคดีเซล การเคลือบตัวเร่งปฏิกิริยา ฉนวน และติดตั้งในตำแหน่งที่ใกล้เครื่องยนต์ของ diesel particulate filter (DPF) ทำให้ระบบสูญเสียความร้อนต่ำ มีการปรับอุณหภูมิการทำงานให้เหมาะสม ทำให้ปล่อยมลพิษลดลง และประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น DPF มีพื้นที่ผสม พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้น้ำมันดีเซล เพื่อกระจายไปยังตัวกรองอนุภาคไอเสียอย่างสม่ำเสมอ และระเหยอย่างรวดเร็วเพื่อลดการปล่อย NOx นอกจากนี้ ยังใช้วาล์วหมุนเวียนไอเสียแบบหลายทาง โดยผสมผสานก๊าซแรงดันสูงและแรงดันต่ำที่ระบายความร้อนด้วยระบบทำความเย็น เพื่อลดการปล่อยไอเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดตลอดช่วงรอบต่อนาที ในขณะที่มีการปรับการเผาไหม้เพื่อให้เหมาะสมกับอัตราสิ้นเปลือง นั่นก็คือเน้นความประหยัดเชื้อเพลิง

เกียร์ 9G-TRONIC พัฒนาเพิ่มเติม ปั๊มน้ำมันเสริมไฟฟ้าช่วยลดอัตราการส่งเชิงกลลง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดีต่อประสิทธิภาพของชุดส่งกำลัง นอกจากนี้ยังใช้ระบบควบคุมการรับส่งข้อมูลแบบครบวงจรรุ่นใหม่ มีโปรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์ พร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแรงบิดแบบใหม่ นอกจากการส่งกำลังที่มีความลื่นไหลและต่อเนื่องแล้ว อัตราทดเกียร์ทั้ง 9 สปีดยังครอบคลุมการใช้งาน ทั้งขับในย่านความเร็วต่ำในเมืองและพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงบนไฮเวย์ OM654 M มี ISG รุ่นใหม่ ติดตั้งอยู่ในระบบเกียร์อัตโนมัติ 9G Tronic มอเตอร์ไฟฟ้า ระบบอิเล็กทรอนิกส์กำลัง และระบบส่งกำลัง ได้รับการติดตั้งโดยตรงอยู่ในเกียร์ เพื่อลดน้ำหนัก และลดชิ้นส่วน (ไม่มีสายพาน) และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับให้เข้ากับระบบ Plug-in Hybrid ได้อย่างง่ายดาย

การจ่ายน้ำมันหล่อลื่นและการระบายความร้อนโดยใช้ปั๊มสองตัว
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการจ่ายน้ำมันหล่อลื่นแบบสังเคราะห์ ในรุ่นที่ 2 ที่มีความทนทาน และทนต่อแรงเฉือน ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในเวลาเดียวกัน ระบบเกียร์ 9G-TRONIC ติดตั้งปั๊มสองตัว ปั๊มหลักเชิงกลที่ลดขนาดลงอย่างมากซึ่งติดตั้งอยู่นอกแกน โดยอยู่ถัดจากเพลาหลักและขับเคลื่อนด้วยโซ่ ในระบบเกียร์อัตโนมัติรุ่นเก่า เช่น 7G-TRONIC ปั๊มน้ำมันหล่อลื่นหลัก จะพ่วงต่อกับเพลาส่งกำลังและทำหน้าที่ขับเคลื่อนปั๊มโดยตรง ด้วยเหตุนี้ปั๊มเซลล์ใบพัดแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง จึงถูกวางไว้ข้างเพลาหลัก บริเวณแกนด้านนอก และมีการลดขนาดลงเพื่อให้เหมาะสมกับการติดตั้ง ปั๊มหลักเชิงกล ช่วยให้มั่นใจได้ว่า การจ่ายน้ำมันหล่อลื่นไปยังเกียร์อัตโนมัติที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า จะมีความเสถียรและเมื่อเครื่องยนต์สันดาปภายในทำงาน จะมีการสำรองโดยปั๊มเสริมไฟฟ้าแยกต่างหาก ในแง่หนึ่ง การออกแบบในลักษณะดังกล่าวนี้ ช่วยทำให้ระบบหล่อลื่นของเกียร์ สามารถควบคุมการไหลของน้ำมันหล่อลื่นและสารหล่อเย็นได้ตามความต้องการ ในขณะเดียวกัน 9G-TRONIC จะได้รับประโยชน์จากระบบ Auto Start Stop ในระบบไฮบริดเสริม 48 โวลต์ หรือ EQ Boost พร้อมกลไกไฟฟ้าของ starter alternator ระบบจะส่งถ่ายน้ำมันหล่อลื่นเกียร์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เมื่อผู้ขับยกคันเร่ง รถจะยังคงไหลไปข้างหน้า โดยมีความเร็วเกือบจะคงที่ และค่อยๆ ลดความเร็วลงช้าๆ เกียร์จะถูกปลดเป็นเกียร์ว่าง เมื่อผู้ขับยกคันเร่ง รอบเครื่องยนต์จะหล่นลงมาที่ 1,000 รอบต่อนาที เพื่อลดอัตราสิ้นเปลือง ต่อเมื่อผู้ขับแตะคันเร่งอีกครั้ง รอบเครื่องยนต์จะกลายไปอยู่ที่รอบปกติ ตามความเร็วที่ใช้ในขณะนั้น พร้อมด้วยการทำงานอย่างรวดเร็วของเกียร์ ด้วยการเข้าสู่ตำแหน่งเกียร์ที่สอดรับกับความเร็วที่ใช้อยู่ในคาบเวลานั้นๆ การปลดระบบส่งกำลังเข้าสู่เกียร์ว่าง เมื่อผู้ขับยกคันเร่ง จะช่วยลดการสูญเสียเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็น และช่วยทำให้ใช้พลังงานในรูปของแรงเฉื่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนกว่าผู้ขับจะแตะเบรก หรือคันเร่งอีกครั้ง เครื่องยนต์และเกียร์จะกลับมาทำงานพร้อมกันอีกครั้ง อย่างรวดเร็วและนุ่มนวลจนคุณแทบจะไม่รู้สึก

OM 654 M (M คือรุ่นดัดแปลง) ติดตั้งระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสตาร์ตเตอร์เจนเนอเรเตอร์แบบบูรณาการเป็นครั้งแรก เพิ่มกำลังสูงสุด 22 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ทำให้ Mercedes เป็นผู้ผลิตรายแรกที่ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบรวม (ISG) ในปี 2560 ในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่น OM656 M สำหรับ ISG เป็นเครื่องจักรไฟฟ้าที่สามารถทำงานได้ ทั้งในสภาวะ "การขับเคลื่อน" (การสตาร์ตเครื่องยนต์และการรองรับระบบไฟบางส่วน) และในสภาวะ "เครื่องกำเนิดไฟฟ้า" จุดประสงค์ของเทคโนโลยี Mild Hybrid อยู่ที่การเพิ่มความสะดวกสบายและการประหยัดเชื้อเพลิง มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 22 แรงม้า ไม่สามารถขับเคลื่อนรถเพียงลำพังได้ แต่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ดีเซล ระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ที่ใช้ ISG สามารถสตาร์ตเครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็วและมีน้ำหนักเบากว่าสตาร์ตเตอร์ 12 โวลต์ ให้ความสะดวกสบายและความนวลในการสตาร์ต ในเวลาเดียวกัน ISG ถูกใช้เพื่อสร้างพลังงานในโหมดขับเคลื่อน เสริมแรงบิดร่วมกับเครื่องยนต์ Mercedes เรียกสิ่งนี้ว่า "EQ Boost"

ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต ส่วนประกอบหลักของระบบกันสะเทือนที่กำหนดค่าแบบไดนามิก คือ เพลาสี่ลิงค์ที่ด้านหน้าและเพลามัลติลิงค์ที่ด้านหลัง ติดตั้งกับเฟรมย่อย ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตของ New C-Class AMG Line เป็นพื้นฐานของระบบกันสะเทือนในยานยนต์ระดับสูงของแบรนด์ตราดาว เน้นความสะดวกสบายในการขับเคลื่อนและเสียงการทำงานที่ลดลง การควบคุมทิศทางที่คล่องตัว และความสนุกสนานในการขับ

S-Class V223 และ E-Class W214 คือตัวอย่างที่ชัดเจนของความสามารถด้านยานยนต์ภายใต้ตราสัญลักษณ์ดาวสามแฉก แต่ C-Class ก็ไม่ได้ห่างไกลจากความสามารถของรถรุ่นพี่ โดยเฉพาะอัตราสิ้นเปลืองที่เหนือชั้น ความนุ่มนวลและสบาย ทุกวันนี้ความสามารถของระบบส่งกำลังและช่วงล่างที่แบรนด์ตราดาวนำเสนอ มักจะตรงกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า ปี 2024 ก็ไม่ต่างกัน และหนึ่งในขุมกำลังที่ดีที่สุดของ Mercedes-Benz ก็คือ เครื่องยนต์ดีเซล OM654 ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ดีที่สุดของรถ

C220d AMG Line รุ่นใหม่ วิศวกรของแบรนด์ตราดาว ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร ส่งกำลังไปยังล้อหลัง ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด เป็นชุดเกียร์ที่ออกมาจากโรงงานผลิตระบบส่งกำลังของ Mercedes-Benz ซึ่งมีประวัติการทำงานยาวนานกว่า 65 ปี เครื่องยนต์มีกำลัง 201 แรงม้า หรือ 147 กิโลวัตต์ ทำตัวเลขแรงบิด 440 นิวตันเมตร ขอย้ำอีกครั้งว่า วิศวกรในแผนกเครื่องยนต์ของ Merc ได้ใช้ความพยายามในทุกวิถีทาง เพื่อทำให้เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้ มีประสิทธิภาพดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่เพียงแต่นุ่มนวลขึ้นและมีแรงสั่นสะเทือนน้อยลงกว่าเครื่องยนต์รุ่นก่อนหน้า (OM651) แต่ยังประหยัดเชื้อเพลิงอีกด้วย Merc อ้างว่า เชื้อเพลิงเต็มถัง ถ้าขับแบบแข่งประหยัด มันจะไปได้ไกลถึง 1,404 กิโลเมตร ด้วยถังน้ำมันขนาด 66 ลิตร และอัตราความเร็วบนถนนสาธารณะ ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ใครจะซื้อรถ C-Class ใหม่ราคาเฉียดสามล้านเอามาวิ่งหวานเย็นแบบนั้น ในความเป็นจริงคงแทบไม่มี นอกจากเจ้าของรถจะเป็นคนใจเย็น หรือไม่ก็เป็นคุณป้าข้าราชการระดับสูงที่ไม่ชอบขับเร็ว….

การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนของ C220d นั้นมีเสน่ห์และเข้ากับตัวรถได้ราวกับสวมสูทที่ตัดเย็บอย่างพอดีตัว เวลาอยู่หลังพวงมาลัยคุณจะสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลาย แรงบิดของดีเซลในช่วงออกตัวกระชับฉับไว แสดงออกถึงความคล่องแคล่วเมื่อขับขี่ในเมือง เกียร์ในโหมด Comfort ไหลขึ้น-ลงไปตามสปีดความเร็วอย่างเนียน จุดที่ทำได้ดีมากก็คือ Auto Start-Stop การทำงานของ ISG เมื่อยกเท้าออกจากคันเร่งเพื่อเคลื่อนตัวในขณะที่เครื่องยนต์ OM654 ดับ มันจะค่อยๆติดขึ้นมาโดยปราศจากอาการสบัดซึ่งในจุดนี้ ถือว่าเหนือกว่า BMW320d M Sport ซึ่งเวลาเครื่องยนต์ติดนั้นรู้สึกได้ถึงการสตาร์ต การต่อเชื่อมเมื่อไหลออกตัวท่ามกลางการจราจรที่ติดขัด C220d AMG Line กับขนาดที่กะทัดรัดทำให้ขับในเมืองบนถนนคับแคบได้ง่าย

ขับออกทางไกล ใช้ความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก เห็นได้ชัดว่าระบบกันสะเทือนของ C-Class W206 ใหม่ ได้รับการปรับปรุงอย่างก้าวกระโดดมากกว่า W205 รุ่นก่อนหน้า การควบคุมท่ีความเร็วสูง ให้ความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น การบังคับเลี้ยวเที่ยงตรงและมีน้ำหนักที่ดีในย่านความเร็วสูง แต่ไม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเหมือน C43 แต่ก็เพียงพอสำหรับการขับใช้งานประจำวันส่วนใหญ่ เครื่องยนต์ดีเซลสองลิตรที่รอบไม่จัดเท่าเบนซินแต่ตอบสนองได้ดีมาก เมื่อเคลื่อนตัวผ่านช่วงความเร็วรอบจากต่ำไปหาสูงแบบขับลากรอบในโหมด Sport กระปุกเกียร์ 9-G Tronic ไหลลื่นอย่างต่อเนื่อง ซอฟต์แวร์ควบคุมการเปลี่ยนอัตราทดจะหาเกียร์ที่เหมาะสมกับความเร็วเสมอ C220d แน่นอนว่ามีแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยมาให้ แต่สมองกลไฟฟ้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ มีความสามารถในการคิดคำนวนอัตราทดที่เหมาะสมด้วยตัวของมันเอง มากกว่าการเปลี่ยนเกียร์ผ่าน Paddle Shift จากมนุษย์หลายเท่า!

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรุ่นล่าสุดนี้คือการมุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบาย การขับนั้นนุ่มนวลกว่า BMW 320d LCI อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งหรือช่วงล่าง รุ่น AMG Line มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน 15 มิลลิเมตร C220d เป็นรถที่เน้นการขับทางไกล ออกแบบให้คนขับสามารถใช้เวลาหลายชั่วโมงในรถอย่างมีความสุขบนไฮเวย์ข้ามจังหวัด มันถูกปรับแต่งมาเป็นอย่างดีให้มีความประณีตมากขึ้น ซับซ้อนมากขึ้น และมีราคาแพงกว่าเดิม C220d กับน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล 1 ถัง 66 ลิตร ผมทำระยะทางทดสอบได้เกือบๆ 900 กิโลเมตร เป็นการขับแบบไม่สนใจประคองอัตราสิ้นเปลืองเพื่อโชว์ความประหยัด เนื่องจากเจ้าของ C ส่วนใหญ่มักใช้ความเร็วในการเดินทางอยู่แล้ว การขับทดสอบเมื่อเจอทางโล่งๆ ก็มีกดมิดจนไหลไปถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อจับอาการในย่านความเร็วสูง การพัฒนาให้มีไดนามิกในการขับขี่ที่ดีขึ้น รูปลักษณ์ที่อ่อนวัย ในด้านสไตล์ เทคโนโลยีใหม่ท่ีติดตั้งมาให้ถือว่าพอใช้ได้ ทุกวันนี้รถซีดานเล็กราคาเฉียดสามล้านบาท อาจไม่ใช่กลุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง SUV หรู แต่ C-Class สามารถทำให้ลูกค้าที่ครอบครองรถรุ่นเก่ากลับมาซื้อรุ่นใหม่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก C-Class ใหม่เป็นหนึ่งในรถยุโรปไซส์เล็กที่ขับได้ดีเทียบเคียงคู่แข่งสายไดนามิกอย่าง BMW Series-3 รุ่น 320d M Sport LCI รวมถึง Audi A4 40TFSI S Line รถขับหน้าที่ให้ฟิลลิ่งประทับใจในการออกเดินทางไกล สำหรับ C220d AMG Line มันให้ความรู้สึกน่าดึงดูดใจในการขับขี่มากกว่าคู่แข่งนิดๆ จากความรู้สึกโดยรวมของความหรูหราและความมั่งคั่งที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

รายละเอียดด้านเทคนิค C 220 d AMG Line

เครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง/4 สูบ /4 วาล์วต่อสูบ เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์
ความจุ 1,993 ซีซี
กำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์ 201 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบต่อนาที
อัตตาเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 7.3 วินาที
ความเร็วสูงสุด 245 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ความจุถังเชื้อเพลิง 66 ลิตร
พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 455 ลิตร

ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ เดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
(Steering - wheel Gearshift Paddles)
ล้อและยาง ล้อ AMG ขอบ 18 นิ้ว
ยางหน้า 225/45 R18
ยางหลัง 255/40 R18

ระบบความปลอดภัย
ถุงลมนิรภัยด้านหน้าสองตำแหน่ง สำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยด้านข้างสองตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า
ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างปกป้องศีรษะ 4 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับและผู้โดยสาร
ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า สำหรับผู้ขับขี่
เข็มขัดนิรภัย 3 จุด 5 ที่นั่ง
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program)
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System)
ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill - Start Assist
ไฟเบรกกะพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light)
ระบบช่วยเบรกแบบแอ็กทีฟ (Active Brake Assist)
ระบบรักษาระดับความเร็ว (Cruise control) และระบบจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC)
ระบบเตือนเพื่อนํารถเขาศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator)
ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist with

PARKTRONIC)
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยรถ (Reversing camera)
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist)
ระบบแจงเตือนยานพาหนะขณะเปิดประตูรถ (Exit Warning Function)
ระบบแจงเตือนสถานะเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
ใบปัดน้ำฝนทํางานโดยอัตโนมัติ พร้อมเซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน
ไฟหน้าแบบ LED High Performance
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist)
ไฟส่องใต้กระจกมองข้างพร้อมตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz
ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า

กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกมองหลัง ปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ตกแต่งรอบคันแบบ AMG body styling
ระบบกุญแจแบบ KEYLESS GO comfort package
ระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS)
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ช่วงล่าง Sports suspension
แผ่นรองกันกระแทกใต้ห้องเครื่องยนต์
ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ multi- spoke ขนาด 19"
ยางรถยนต์แบบ Run-flat

อุปกรณ์มาตรฐานภายใน

ฟังก์ชัน ECO start /stop
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน
ระบบปรับโหมดการขับเคลื่อน DYNAMIC SELECT
เบาะนั่งแบบ Sports seats
เบาะนั่งคู่หน้า พร้อมระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support
เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ สำหรับตำแหน่งที่นั่ง พวงมาลัย และกระจกมองข้าง
เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พับได้แบบ 1/3 และ 2/3
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชนแบบสปอร์ต หุ้มหนัง Nappa
พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control
ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบ Remote engine start
ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ (Push Start)
ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต
ตกแต่งห้องโดยสารแบบ AMG Line interior
วัสดุตกแต่งห้องโดยสารแบบ Black open-pore aluminium lines wood trim
ด้านบนของคอนโซลหน้า (Instrument panel)
และด้านบนของแผงประตูหุ้มด้วยหนัง ARTICO ตกแต่งลายแบบ Nappa
แผงคอนโซลกลางแบบ high-gloss black สีดำ
ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร ปรับได้ 64 เฉดสี (โหมด color moods 10 รูปแบบ)
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับ Digital ขนาด 12.3"
หน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางขนาด 11.9"
ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging)
ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® 3D surround sound system
กาบบันไดสเตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz แบบเรืองแสง
ชุดอุปกรณ์จัดเก็บสัมภาระ และช่องเก็บของที่ด้านหลังของเบาะคู่หน้า

Stowage Space package
ที่วางแก้วน้ําบริเวณคอนโซลกลาง
ระบบจดจำโปรไฟล์ผู้ขับด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint scanner)
ช่อง USB Type C 2 ช่อง
พรมปูพื้น AMG

ระบบความบันเทิงและการสื่อสาร
ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple CarPlay™ & Android Auto)
ระบบขอความช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ฟังก์ชันเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานระบบ MBUX
อุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ LTE สำหรับบริการ Mercedes me connect
ระบบมัลติมิเดียแบบ MBUX
ระบบมัลติมีเดีย MBUX entertainment พร้อมช่องเชื่อมต่อ Music streaming service
ระบบปรับรูปแบบเครื่องเสียงแบบส่วนตัว (Sound personalization)
ระบบแผนที่นําทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมภาพแผนที่แบบ 3 มิติ
ระบบแผนที่นําทาง พร้อมแจ้งเตือนสภาพการจราจร Live Traffic Information.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 1

  • Callmeteerapat
    ราคาไม่ถูกเลย
    03 เม.ย. เวลา 05.47 น.
ดูทั้งหมด