โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

พูดคุยกับ ‘เมย์มีเซนส์’ ผู้รับฟังและที่ปรึกษาแนะแนวในการแก้ปัญหาด้วยองค์ความรู้ทางศาสตร์พยากรณ์

INTERVIEW TODAY

เผยแพร่ 21 เม.ย. 2564 เวลา 17.00 น. • pp.p

เมื่อประสบกับปัญหาชีวิต… เชื่อว่าทุกคนย่อมต้องการที่ปรึกษาหรือใครสักคนที่จะคอยอยู่เคียงข้าง อย่างน้อยได้ช่วยรับฟัง แต่หากคนๆ นั้นสามารถให้ความช่วยเหลือ หรือแนะนำทางออกจากปัญหานั้นได้ ก็คงเป็นที่ปรึกษาในฝันเป็นแน่ สัปดาห์นี้ LINE TODAY ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘เมย์มีเซนส์’ หญิงสาวที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเธอในฐานะ ‘หมอดู’ จากรายการโทรทัศน์ ที่เธอได้ใช้ความสามารถที่มี ให้คำแนะนำเรื่องต่างๆ ด้วยศาสตร์การพยากรณ์ และความรู้ความสามารถด้านอื่นๆ ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน มาทำความรู้จัก และเรียนรู้วิธีการคิดเพื่อพัฒนาชีวิตจากเธอคนนี้กัน…

‘เมย์มีเซนส์’ หรือชื่อจริงของเธอคือ ‘เมย์ - ปราณดา ปวีตนาถนนท์’ ปัจจุบันอายุ 35 ปี จบปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และปริญญาโทคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม จุดเริ่มต้นของเธอในเรื่องนี้ ต้องเล่าย้อนกลับไปสมัยเป็นนักเรียนประถม เธอเป็นเพียงเด็กนักเรียนธรรมดาคนหนึ่งที่บังเอิญ ‘รู้สึก’ และไปพูดทักคุณครูขึ้นมาว่า “ในอนาคตคุณครูจะได้แต่งงานกับคนอายุมากกว่า แฟนครูจะเป็นราชการ” ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้นก็คงเป็นเพียงคำทักของเด็กน้อยน่ารักคนหนึ่ง เพียงแต่หลังจากเวลาผ่านไปไม่กี่ปี คุณครูท่านนั้นก็แต่งงานจริงๆ และแต่งกับผู้ชายที่อายุมากกว่า เป็นข้าราชการอย่างที่เธอพูดทักไว้ ซึ่งในตอนนั้นตัวเธอเองยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำ ว่าการดูดวงจริงๆ แล้วมันคืออะไร เพราะทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นคือ ‘ความรู้สึก’ ที่ไม่สามารถอธิบายได้

และนั่นก็ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น สิ่งที่มาจาก ‘ความรู้สึก’ ของเธอยังมีมาเรื่อยๆ โดยเธอได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “มันไม่ใช่นิมิตหรือการมองเห็นอนาคตเป็นฉากๆ เป็นภาพแบบในหนัง ไม่ได้เห็นด้วยตาแต่มันมาเหมือนภาพที่เคยเกิดขึ้น เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนมีคนมาถามว่า “เมื่อวานนี้รับประทานอะไรมา?” แล้วเราสามารถนึกถึงอาหารที่เราเพิ่งทานไปได้ แต่สำหรับเราภาพเหล่านั้นยังไม่เกิดขึ้น กอปรกับชีวิตส่วนตัวของเธอเองที่เติบโตมาในครอบครัวที่ชำนาญในเรื่องของศาสตร์มงคลจีน เช่นเรื่องการดูฮวงจุ้ย การดูโหงวเฮ้ง ความเชื่อต่างๆ การดูลายมือ ดูไพ่ ดูดวง ทำให้เธอเกิดความสนใจและมีโอกาสได้ศึกษาศาสตร์ต่างๆ เหล่านี้ เมื่อมาประกอบสิ่งที่มีติดตัวราวกับเป็น ‘พรสวรรค์’ จึงเป็นการผสมผสานที่ลงตัว

และสำหรับที่มาของชื่อ ‘เมย์มีเซนส์’ นั้นเธอได้เล่าว่า “เมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว ได้มีโอกาสทำรายการ ‘ศึกน้ำผึ้งพระจันทร์’ ของบริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัดซึ่งตอนนั้นทางรายการอยากได้ช่วงสั้นๆ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของความรัก โชคดีที่ได้รับโอกาสจากผู้บริหารที่สนใจในสไตล์การพูดของเรา ก็เลยได้เข้าไปอยู่ในรายการ อยู่ในช่วงของ ‘เมย์มีเซนส์’ ค่ะ เป็นการใช้ความสามารถที่มีในด้านความเชื่อเรื่องเซนส์สัมผัสที่เรามีมาตั้งแต่เด็กในการช่วยเหลือคน และเมื่อเป็นการใช้เซนส์ความรู้สึกจึงเป็นที่มาของชื่อ ‘เมย์มีเซนส์’ ค่ะ”

สำหรับคนที่ชอบดูดวงอยู่เป็นนิจอาจเคยได้ยินว่าการใช้เซนส์ความรู้สึกในการดูดวงแต่ละครั้งจะต้องใช้พลังงานอย่างหนัก แต่สำหรับเมย์ กลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอเล่าว่า “จริงอยู่ว่าการใช้เซนส์แต่ละครั้งจะมีลิมิต แต่ก็ไม่ใช่การใช้พลังมหาศาลอย่างที่เข้าใจกัน ยกตัวอย่างจะคล้ายกับการตั้งใจฟังเรื่องเครียดของคนๆ หนึ่งแล้วเรารู้สึกอินไปกับเรื่องราวของเขา การใช้เซนส์ของเมย์ก็จะเป็นการสัมผัสว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้น อารมณ์ของมันจะประมาณไหน จะต้องใช้สมาธิตั้งใจอย่างมาก และยิ่งเมื่อเป็นเรื่องราวของคนๆ หนึ่งซึ่งตามความเชื่อก็จะมีเรื่องของกรรมที่ติดตัวของแต่ละคน เรื่องของเจ้ากรรมนายเวร เป็นต้น ดังนั้นบางกรณีปรึกษาที่ปัญหาค่อนข้างหนักจะเหมือนเราเอาตัวเองไปร่วมแบกรับสิ่งนั้นๆ ไปด้วย ก็จะเหนื่อยตรงจุดนี้”

“การช่วยเหลือในแบบของเมย์คืออย่างแรกเลยคือเมย์ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวก่อนจึงจะเข้าไปยุ่งได้ และจากประสบการณ์ที่ผ่านมามันสอนให้เมย์ได้รู้ว่า บางครั้งความหวังดีเกินไป อยากให้ทุกอย่างที่ร้ายๆ กลายเป็นดีนั้นมันก็เป็นไปไม่ได้ แต่ละคนก็วิบากหนักเบาไม่เหมือนกัน มีเมย์ไม่สามารถแก้กรรมให้ใครเพราะเมย์ก็ไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้ แต่เมย์ช่วยได้ในส่วนของการพูดเพื่อเตือนสติ ให้เขามีกำลังใจที่จะสู้ชีวิต สู้กับสิ่งที่กำลังเจอ แต่ทั้งนี้มันต้องขึ้นอยู่กับเจ้าตัวด้วย เราทำเท่าที่จะสามารถทำได้ เมย์ว่าดวงมันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่เหลือคือสภาพสังคมของแต่ละคนที่ต่างกัน บวกกับใจที่จะเปิดใจเรียนรู้ ยอมรับ แก้ไข เพื่อให้ปัจจุบันและอนาคตที่ดีขึ้น เมย์จะบอกเสมอว่าอย่าคาดหวังนะ เราบอกได้แค่ควรไปทางซ้ายหรือทางขวา เลือกทางไหนผลจะเป็นอย่างไร ส่วนการตัดสินใจเลือกเส้นทางเป็นสิทธิส่วนบุคคลเมย์จะไม่ก้าวก่าย ให้เขาเลือกเอง”

นอกจากนี้ เธอยังรู้ทางด้านการบริหารและการจัดการมาผนวกกับเซนส์และศาสตร์ที่ได้ศึกษามาจากประสบการณ์การทำงานประจำมาก่อนหน้านี้ ปัจจุบันนอกจากงานใช้เซนส์รักปรึกษาปัญหาชีวิต เธอยังมีบทบาทเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรต่างๆ ด้วย ทั้งรับปรึกษาแบบโปรเจคต์ระยะสั้นๆ และโปรเจคต์ระยะยาว และยังเขียนคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับความเชื่อ เรื่องดูดวงของแต่ละราศี เผยแพร่ทางสื่อโซเชียงต่างๆ รวมถึงเพจ และช่องยูทูปของตัวเอง

การใช้สัมผัสพิเศษในการช่วยเหลือ แนะนำ แม้จะเหนื่อยแต่ก็มีเรื่องราวประทับใจให้ได้รู้สึกดีและหายเหนื่อยราวปลิดทิ้ง “เวลาที่เมย์ได้ให้คำแนะนำแล้วเขาเอากลับไปคิด ลองทำตามที่คำแนะนำแล้วได้ผลดีและเมื่อเขาส่งข่าวมาให้เราได้รู้ว่าชีวิตเขาดีขึ้นยังไงจากการตัดสินใจที่ถูกต้องเราก็พลอยรู้สึกยินดีไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นมีอยู่กรณีหนึ่งเป็นผู้หญิง เป็นคนเก่ง มีความมั่นใจสูงมาก ไม่เคยยอมใคร ทำงานได้ดี แต่มักมีปัญหาแตกคอกับพาร์ทเนอร์จนต้องมาปรึกษา เพราะเขาก็รักงานของเขามาก แต่หากต้องทะเลาะกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจบ่อยๆ ก็คงไม่ไหว สงสัยว่าจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่า พอมาปรึกษาแล้วกลับไปพยายามปรับความคิด ปรับพฤติกรรม ปรับมุมมองใหม่ตามที่เราได้แนะนำ ทุกวันนี้เขาแฮปปี้มีความสุขมาก เข้ากับนายได้ดี ได้เลื่อนขั้นได้รับโอกาสดีๆ ชีวิตการทำงานสนุกขึ้นมาก พอได้รู้ก็ยินดีไปกับเขาและรู้สึกมีความสุขไปกับเขาด้วย ช่วยใครได้เมย์ก็อยากช่วยค่ะ”

“เมย์เชื่อว่าหากเราคิดดี ทำดี ตั้งใจดี สิ่งดีๆ จะตามมาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำธุรกิจถ้าเราอยากขายของให้ได้ดีๆ เราก็ต้องมีความจริงใจ นำเสนอในสิ่งที่เป็นความจริง ถ้าเรามีพื้นฐานที่ดี เจตนาที่ดี เมย์เชื่อว่าจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน การใช้ตัวช่วยทางลัดต่างๆ อาจจะได้ผลแต่ก็ไม่ยั่งยืน สมมุติว่าเปิดร้านขายของ แต่ของไม่มีคุณภาพไม่มีความตั้งใจที่ดี คนซื้อเขาไม่ประทับใจก็ไม่ย้อนกลับมาซื้อใหม่อีกครั้ง จะใช้เครื่องรางของขลังอะไรก็ช่วยไม่ไห้ขายดีไปกว่าที่ควรจะเป็นไปได้ หรือแม้แต่ในเรื่องของความสัมพันธ์ ถ้าเราอยากเป็นที่รักของทุกคน เราก็ต้องมีความจริงใจ เป็นมิตรที่ดี เชื่อว่าสิ่งดีๆ ที่มาจากใจจะดึงดูดคนที่ดีๆ มาอยู่รอบตัวเราแน่นอน”

ตลอดการสนทนาเราสัมผัสได้ถึงพลังงานดีๆ จากผู้หญิงคนนี้ แม้คำถามที่ลืมไม่ได้อย่างวิธีการปรับความคิดรับมือกับสถานการณ์โควิดแบบไม่ให้เครียดจนเกินไป เธอก็ให้คำแนะนำดีๆ ว่า “อย่างแรกเลยต้องเข้าใจว่ามันเป็นสถารการณ์ที่เจอกันทั่วโลก หลีกหนีไม่ได้ ไปที่ไหนก็เจอ จริงอยู่ที่ว่ามันกระทบกับการงานของใครหลายๆ คน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เล็งเห็นโอกาสที่เกิดขึ้นในวิกฤติแบบนี้และรู้จักหาช่องทางที่ดีและสุจริตในการทำเงิน สร้างอาชีพใหม่ๆ หรือจะลองมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่มาเตือนสติให้เรารู้จักระวังในเรื่องของการใช้จ่าย หรือกระเตื้องให้เราหันมาเก็บเงินมากขึ้น รวมไปถึงมีสติทุกครั้งเวลาที่ออกไปข้างนอกบ้าน สุดท้ายเราก็ต้องใช้ชีวิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่าง ‘ไม่ประมาท’ กลัวไม่มีเงิน ก็กลับมาดูตัวเองว่าที่ผ่านมาเราใช้เงินอย่างไร?.. กลัวติดโควิด ก็สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่างไม่เข้าไปในที่สุ่มเสี่ยง.. หรือตกงาน หันมาขายทางออนไลน์ ไม่ต้องเสียค่าเช่าหน้าร้าน เมย์เชื่อว่าในทุกวิกฤติมีโอกาส ทุกความทุกข์มีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับใจเราว่าสามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน ปรับตัวได้ขนาดไหน มองตามความจริง อย่ามองตามอารมณ์ เดินหน้าอย่าจมอยุ่กับความเศร้า ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเราค่ะ”

ติดตามเรื่องราวดีๆ จาก ‘เมย์มีเซนส์’ ได้ที่ Facebook: เมย์มีเซ้นส์-May me Zense Official / Youtube :maymezense official

0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0