7 เรื่องจริงของความโสด ที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจซะใหม่
ฮัลโหล..ฉันโสดดด..ดด..ดดดด…ดดด….
เดี๋ยวนี้น่าจะมีน้อยคนที่กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มปากว่าเป็นคนโสด เพราะความโสดสำหรับบ้านเรายังดูแปลก ๆ งง ๆ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านที่ไม่มีทางเข้าใจเลยว่าความโสดสงวนไว้สำหรับคนที่เลือกจะโสดเท่านั้น
คนส่วนใหญ่จะมีภาพจำของความโสดอยู่ไม่กี่อย่าง โสดเพราะไม่มีใครเอาบ้าง โสดแล้วต้องอยู่คนเดียวบ้าง โสดแล้วจะเหงา ไม่มีใครดูแลบ้าง เอาเป็นว่าจะโสดโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ภาพจำของความโสดเหล่านี้ก็ผิดจากความเป็นจริงไปเยอะเลยทีเดียว
จริง ๆ แล้วความโสดไม่น่ากลัวขนาดนั้น มาตีแผ่ 7 เรื่องจริงของความโสดที่หลายคนยังเข้าใจผิดกันซะเลยดีกว่า จะได้รู้กันไปเลยว่าการจะเป็นโสดต้องสตรองเบอร์ไหน
1. โสดคือทางเลือก ไม่ใช่ปัญหา
“โสดก็ไม่ได้หนักหัวใคร” ไม่อยากใช้คำรุนแรงแต่บางทีก็อยากจะพูดออกมาดัง ๆ ซักครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นแล้วยังคงสงวนสถานะความโสดไว้ได้แบบไร้วี่แวว ทำให้คนใกล้ตัวไม่ค่อยพอใจนัก จนอยากจะบอกออกไปดัง ๆ “โสดคือทางเลือก ไม่ใช่ปัญหา” ใคร ๆ ก็โสดแบบสตรองได้ทั้งนั้น
เข้าใจว่าคนรอบข้างมีภาพจำของความโสดที่ค่อนข้างน่ากลัว รวมถึงคนโสดบางคนด้วย แต่ความโสดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด บนโลกนี้มีหลายคนเลือกที่จะโสดด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ความโสดก็ไม่ใช่ปัญหาของใครทั้งนั้น บางคนมองว่าความโสดเป็นของมีค่าด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะเลือกโสดได้อย่างที่อยากเป็น
สำหรับคนที่ไม่ได้เลือกแต่ดันต้องตกอยู่ในสถานะโสดด้วยภาวะจำยอม ลองถามตัวเองอีกทีว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มันไม่ดี ไม่ใช่แบบที่ต้องการจริงหรือเปล่า ความอิสระเสรีที่อยากจะทำอะไรก็ทำแบบนี้ เราไม่ชอบจริง ๆ ใช่ไหม บางทีความโสดที่อยู่กับเราตอนนี้ อาจเป็นคำตอบที่ทำให้เราไม่อยากมีคนรักอีกก็เป็นได้
2. โสดไม่จำเป็นต้องเหงา และไม่ได้แปลว่าต้องอยู่คนเดียว
คนส่วนใหญ่มีภาพจำกับความโสดแบบนี้เสมอ ทั้งที่ความจริงแล้วการอยู่คนเดียวกับความเหงาแทบจะเป็นคนละเรื่องกันเลย เพราะบางคนอยู่คนเดียว ทำไร่ไถนาคนเดียวก็ไม่ได้รู้สึกเหงา แต่บางคนแม้จะอยู่กับเพื่อนมากมาย กลับเหงาขึ้นมาจับใจ
เพราะฉะนั้นความโสด ความเหงา และการอยู่คนเดียวก็ไม่มีอะไรที่สัมพันธ์กันเลย จะเหงาหรือไม่เหงาอยู่ที่ใจเราเอง บางคนเลือกที่จะโสด และเลือกที่จะอยู่คนเดียวเพราะมีความสุขมากกว่า
จริง ๆ แล้วความเหงาไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราอยู่คนเดียว แต่ความเหงาเกิดจากความไม่มั่นใจในคุณค่าของตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย ไม่ทัดเทียมคนอื่น แม้จะรวย หรือประสบความสำเร็จก็ยังรู้สึกเหงาได้ ถ้ายังไม่รู้จักคุณค่าของตัวเองดีพอ
3. โสดมีตังค์ อยู่ลำพังก็ไม่ตาย
ในเมื่อเข้าใจผิดว่าโสด = อยู่คนเดียว ก็เลยพาลให้เข้าใจผิดไปด้วยว่าอยู่คนเดียวไม่ต้องใช้เงินเยอะ แต่ความจริงก็คือไม่ว่าจะโสดหรือไม่โสดก็ต้องวางแผนการเงินเป็นอย่างดีด้วยกันทั้งนั้น
คนมีครอบครัวก็ต้องวางแผนการเงินสำหรับครอบครัว ส่วนคนโสดเค้าก็มีแผนการเงินสำหรับความโสด แก่ตัวไปจะอยู่ที่ไหน อยู่ยังไง ใครจะดูแล ซึ่งเป็นเรื่องที่คนโสดระวังเป็นพิเศษ เพราะบางทีความโสดแบบสวย ๆ ก็ต้องใช้เงินมากกว่าที่คิด
คนโสดส่วนใหญ่พอเริ่มคิดว่าจะเป็นโสด สิ่งที่จะวางแผนอันดับแรกก็คือเรื่องการเงิน จะทำยังไงให้เงินของเราคนเดียวเพียงพอสำหรับอนาคตในวันที่ต้องเกษียณตัวเอง ก็เลยเริ่มออมเงิน วางแผนการเงินอย่างบ้าคลั่ง และคนโสดก็มักมีแนวโน้มในด้านการเงินที่ดีซะด้วย ทีนี้พอเป็นคนโสดมีตังค์ จะอยู่ยังไงก็ได้แล้วแหละ จริงไหม..
4. โสดไม่ได้น่าสงสารและไม่ใช่ไม่มีใครเอา
เลิกเข้าใจผิด ๆ กันซะทีว่าคนโสดคือคนที่ไม่มีใครเอา บอกแล้วไงว่าโสดเป็นทางเลือก ไม่ใช่ปัญหา ไม่ต้องมาสงสาร และไม่ต้องห่วงว่าโสดแล้วยิ่งอายุมากขึ้น จะน่าสงสารมากขึ้น นี่สมัยไหนกันแล้ว ตอนนี้การเป็นโสดคือเรื่องปกติธรรมดาสำหรับคนยุคใหม่ ที่มุมไหน ๆ ของโลกก็มีคนโสดด้วยกันทั้งนั้น
เพราะนี่คือความโสดที่เราเลือกเอง เลือกที่จะไม่รับใครเข้ามาใช้ชีวิต เพราะพอใจกับสถานะแบบนี้ก็เลยดูแลตัวเองอย่างดี วางแผนการเงินอย่างดี พออายุมากขึ้นก็ทำให้มีเสน่ห์มากขึ้น ไม่ใช่น่าสงสารและไม่มีใครเอาอย่างที่ใคร ๆ คิด
5. โสดไม่ได้แปลว่าต้องแห้งตาย
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าคนโสดจะต้องเหี่ยวแห้งและตายไปอย่างไร้ความต้องการทางเพศ อารมณ์ทางเพศเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ทั้งนั้น ดังนั้นอารมณ์อย่างว่านี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับความโสด เพราะจะโสดหรือไม่โสดก็มีความต้องการที่จะถูกเติมเต็มเรื่องเพศด้วยกันทั้งนั้น
คนโสดร้อยทั้งร้อยรู้จักวิธีปลดปล่อยพลังทางเพศด้วยตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงจะมีสารพัดวิธีที่จะทำให้ผ่อนคลายเรื่องทางเพศได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบมีคู่ต่อสู้ที่ไร้นามหรือไม่มีคู่ต่อสู้เลย แต่มีเพียงจินตนาการอันล้ำเลิศก็สามารถจบศึกนี้ได้ด้วยตัวเองก็ได้
ฉะนั้นใครคิดว่าโสดแล้วจะไม่สนุก จะไม่บันเทิงเรื่องเพศ ขอให้คิดเสียใหม่ เพราะเผลอ ๆ คนโสดจะสร้างความหฤหรรษ์ได้มากกว่าคนมีคู่ซะอีก
6. ทุกคนมีโอกาสเจ็บและตายอย่างโดดเดี่ยวทั้งนั้น
ไอ้ความคิดที่ว่าถ้าอยู่เป็นโสดแล้ว เวลาเจ็บป่วยใครจะดูแล เวลาตายไปใครจะทำศพ เป็นความคิดฝังหัวต้องทำความเข้าใจกันซะใหม่เสียที เพราะไม่ว่าจะโสดหรือมีคู่ ทุกคนทุกคนมีโอกาสเจ็บและตายไปอย่างโดดเดี่ยวด้วยกันทั้งนั้น
คนแก่คนเฒ่ามากมายตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่มีลูกมีหลานหลายสิบคน แต่กลับต้องใช้ชีวิตและเจ็บป่วยอยู่ในเพิงที่ไม่มีใครดูแล และจบชีวิตลงโดยที่ไม่มีแม้แต่ลูก ๆ มาดูใจ แบบนี้น่าสงสารกว่าคนโสดที่ต้องเจ็บและตายคนเดียวซะอีก
เพราะฉะนั้นคนทุกคนมีสิทธิ์เจ็บและตายโดยไม่มีใครดูแลทั้งนั้น ถ้าไม่รู้จักวางแผนการใช้ชีวิตและการเงินไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ คนมีคู่ที่หวังพึ่งพาลูกหลานซะอีกที่อาจต้องโดดเดี่ยวยามเจ็บป่วย เพราะคนโสดส่วนใหญ่ เค้ารู้อยู่แล้วว่าจะต้องดูแลตัวเองยังไงเมื่อเจ็บป่วย
7. โสดได้ ก็มีความสุขได้
อย่างที่บอกว่าโสดคือทางเลือก ไม่ใช่ปัญหา เพราะฉะนั้นโสดได้ก็ย่อมต้องมีความสุขได้ อย่าเพิ่งไปคิดแทนใครว่าการไม่มีคู่จะต้องไม่มีความสุข เพราะเผลอ ๆ คนโสดจะมีความสุขไร้กังวลได้มากกว่าคนมีคู่ซะอีก
สมัยนี้ทุกคนมีวิถีทางของตัวเอง จะเป็นโสดแบบสตรองโดยไม่มีคู่เลยก็ได้ หรือจะมีคู่แต่คบกันโดยไม่แต่งงาน ไร้ข้อผูกมัดใด ๆ ก็ยังได้อีก หรือจะแต่งงานมีคู่ชีวิตก็เป็นเรื่องปกติ คนเราจะเลือกแบบไหนต่างก็มีทั้งทุกข์และสุขได้ทั้งนั้น
เลิกภาพจำแบบเก่า ๆ ว่าถ้าโสดแล้วจะต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ซะที เดี๋ยวนี้คนเลือกที่จะโสดเยอะแยะ และไม่ใช่เพราะไม่มีใครเอา แต่เพราะเค้าเลือกที่จะใช้ชีวิตด้วยตัวเองอย่างมีความสุขต่างหาก