ในยุคที่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กลายเป็นหนึ่งในวิธีการเก็บเงินที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้มีฐานะทางการเงินสูง ตลาดบ้านหรูในประเทศไทยยังคงเติบโต
โดยเฉพาะในโครงการบ้านหรูจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่ไม่เพียงแต่แข่งกันสร้างด้วยมูลค่าราคาแพงขึ้น แต่ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือระดับ ความหรูหราที่ไม่เหมือนใคร และความเป็นส่วนตัวในระดับสูงสุด เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ TOP คนบนยอดพีระมิด ตั้งแต่คนรวย เศรษฐีตระกูลเก่า เรื่อยไปจนถึงเศรษฐีหน้าใหม่ในยุคธุรกิจออนไลน์เฟื่องฟูขีดสุด
ต้องยอมรับว่า การมีบ้านหรูสักหลังในยุคนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องสะท้อนถึงความสำเร็จทางการเงิน และมีหน้าที่แค่การเป็น “ที่อยู่อาศัย” เท่านั้น หากแต่แสดงออกถึงสถานะทางสังคม, เศรษฐกิจ และการลงทุนที่มั่นคงน่าสนใจอีกด้วย
เพราะมีข้อมูลปรากฏชัดเจนว่า โครงการระดับ Ultra luxury สามารถสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าได้ในราคาสูง ยิ่งอยู่ในทำเลทอง ยิ่งกลายเป็นโปรดักส์ระดับแรร์ ในอนาคตยังทำกำไรจากการขายต่อได้ราคาสูง
เช่น ย่านกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ที่ได้กลายเป็นฮับของเศรษฐีไทย พบราคาประเมินที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้นถึง 170% ภายในระยะเวลา 10 ปี และปัจจุบันมีมูลค่า 170,000 บาทต่อตารางวา ขณะคนที่ซื้อบ้านในโซนนี้ สามารถปล่อยเช่าได้ในราคาเฉลี่ย 300,000 – 600,000 บาท/เดือน ขณะบางโครงการในทำเลนี้ (CINQ Royal Krugthep Kreetha ขนาด 1,015 ตร.ม.) ทำราคาปล่อยเช่าล่าสุดไปแตะที่ 1,000,000 บาท/เดือน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะราคาของ “บ้านหรู” ในเมืองไทยบางโครงการ เริ่มต้นที่หลักสิบล้านบาท ไปจนถึงเริ่มต้น 100 ล้านบาท แต่หากต้องการบ้านที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก อาจต้องเพิ่มงบประมาณขึ้นไปถึง 200 ล้าน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดินและการออกแบบที่สอดคล้องกับความหรูหราอย่างแท้จริง เช่น บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยหลายพันตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว, ห้องออกกำลังกาย, และวิวเมืองหรือทะเลที่สวยงาม
เปิดทำเนียบ “บ้านหรู เมืองไทย” จากแบรนด์ดัง มีที่ไหนบ้าง?
หมายเหตุ : โครงการข้างต้นเป็นท็อปแบรนด์แค่บางส่วนของผู้พัฒนาอสังหาฯเบอร์ต้นๆในตลาดเท่านั้น
ข้อมูลอินไซต์จากเจ้าของแบรนด์คฤหาสน์ดัง “แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด” อย่าง SC Asset ที่เตรียมทำสถิติใหม่ในปีนี้ จากการเปิดขายโครงการ “ซันเล เรสซิเดนเซส” ในราคาเริ่มต้นหลังละ 200 ล้านบาทนั้น เผยว่า 5 ทำเลเด่น บ้านหรู เมืองไทย ปี 2025 ประกอบไปด้วย
1. ปิ่นเกล้า - บรมราชชนนี
2. ราชพฤกษ์
3. สุขสวัสดิ์ - พระราม 3
4. กรุงเทพกรีฑา
5. พรานนก (ตัดใหม่)
ขณะตลาดลูกค้าระดับ luxury แม้ขนาดไม่ใหญ่ แต่ลูกค้ามีความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งเลือกโครงการจากปัจจัยทำเล และ แบรนด์เป็นอันดับต้นๆ อีกทั้งสัดส่วนการซื้อบ้านด้วย “เงินสด” อยู่ในระดับสูง
ย้อนไปเจ้าพ่อ Ultra luxury อย่าง “กรณ์ ณรงค์เดช” แห่ง บมจ.ไรมอนแลนด์ ระบุว่า ใน 1-2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มคนมั่งคั่งในประเทศไทยมีมากขึ้น และเห็นเทรนด์การลงทุนเก็บสินทรัพย์ที่เปลี่ยนไป จากเดิมเศรษฐีเน้นเก็บหุ้น เก็บบอนด์ เก็บเงินสด แต่ปัจจุบันหันมาให้ความสนใจกับอสังหาฯ เพราะมูลค่ามีแต่จะเพิ่ม อีกทั้งส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้ ที่สำคัญ 90% ของกลุ่มมีศักยภาพซื้ออสังหาฯ ด้วยเงินสด
ถ้าถามว่า ในประเทศไทย มีกลุ่มคนรวย หรือคนที่ถูกเรียกว่า มีความ “มั่งคั่งสูง” ซึ่งวัดจากการครอบครองสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 33 ล้านบาท) มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องบอกว่า ข้อมูลเมื่อปี 2022 อยู่ที่ 104,000 คน
ซึ่งตั้งแต่ปี 2016-2022 ที่ผ่านมา จำนวนกลุ่มคนดังกล่าวมีการเติบโตเฉลี่ยราว 10.2% ต่อปี ขณะที่ล่าสุด วิจัย LH (ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) คาดว่าภายในปี 2026 จะเพิ่มขึ้นเป็น 162,000 คน เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เปิดทำเนียบ “บ้านหรู เมืองไทย” ปี 2025 มีเงิน 100 ล้าน ก็ (อาจ) ไม่พอซื้อ
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath