โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

เที่ยวปักกิ่ง Once in a life time!!

บันทึกคนขี้เที่ยว

เผยแพร่ 01 ส.ค. เวลา 10.41 น.

Once in a life time!! กับการสัมผัสความที่สุดของโลกด้วยตาเนื้อ

ทั้งสิ่งมหัศจรรย์และเหล่ามรดกโลกอันยิ่งใหญ่ ที่ทริปปักกิ่งครั้งนี้จะปรนเปรอให้เราแบบฉ่ำ ๆ

รับรองว่าการเตรียมตัวไปกรี๊ดกับการเดินทางครั้งนี้จะมีแต่คำว่าควรค่าคู่ควร

เพราะเรารวบตึงมาให้ตั้งแต่เดินเที่ยวชมวังหลวง หมุนตัวบนจัตุรัสสุดอลัง

ลั้นลาแท็กมือกับคาแรกเตอร์ตัวโปรดในธีมปาร์คที่ใหญ่ที่สุดในโลก

มาถึงถิ่นก็ต้องหาสตรีทฟู้ดและอิ่มฟินกับเป็ดปักกิ่งพร้อมเช็กอินทั้งตลาด

ถนนชอปปิงระดับโกลบอลที่เขาผสานอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันไว้อย่างลงตัว

ขึ้นชื่อว่าเป็นมหานครสองเวลา มีเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่อง การเดินทาง การจ่ายเงิน การจองตั๋วที่ทันสมัย สะดวกสบายสำหรับการท่องเที่ยวขึ้นหลายสิบเท่า

ไม่เชื่อก็มาเปิดประสบการณ์ไปพร้อม ๆ กันได้เลย

.

เรื่องการเดินทางก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AirAsia เค้าดูแลเพราะตอนนี้เขามีบินตรงกรุงเทพฯ ดอนเมือง (DMK) - ปักกิ่งต้าชิ่ง (PKX)ไว้คอยให้บริการแล้ว เที่ยวได้ทันใจ เพราะบินตรงเวลา ราคาคุ้มสุด มั่นใจ บินตรงไปกับแอร์เอเชีย

ข้อควรรู้ก่อนไปปักกิ่ง

1.ตอนนี้คนไทยเที่ยวจีนฟรีวีซ่าแล้วน้าาา

2.โหลด App Alipay เงินสดแทบไม่ได้ใช้ เพราะประเทศจีนจะเป็นตัวแม่แห่ง Cashless Society จะจ่ายเงินที่ไหนก็ต้องผ่าน App เท่านั้น และแนะนำให้เชื่อมต่อให้เรียบร้อยจากเมืองไทยไปเลย

3.วิธีการผูกบัตรเดบิต/เครดิต กับ Alipay เพื่อไว้ใช้จ่ายที่จีนก็ง่ายมาก ๆ เลย

-โหลดแอป Alipay

-กดเข้าลงทะเบียน สามารถใช้ OTP เบอร์ไทยได้

-หลังจากนั้นก็ยืนยันตัวตนโดยใช้ Passport และถ่ายรูปใบหน้า

-เมื่อหน้าแอปขึ้น Verified แล้วก็สามารถผูกบัตรได้โดยเลือกตรง Bank Card และใส่ข้อมูลบัตรให้ครบถ้วน

-เมื่อผูกบัตรเสร็จเรียบร้อยก็สามารถใช้จ่ายได้ทั้ง Scan จ่าย หรือใช้ QR ของเราให้ทางร้านค้าเป็นฝ่ายสแกนก็ได้

4.Apple Maps ถือเป็นผู้นำทางที่ดีที่สุด ใครใช้ Andriod ควรใช้ Baidu Map สำหรับ Apple Maps ในจีนถือว่าฉลาดมาก บอกละเอียดว่าขึ้นรถที่สถานีไหน ลงที่สถานีไหน ที่สำคัญเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวเรื่องภาษา

5.ฝึกใช้ Google Translate ให้คล่อง แม้ว่าสมัยนี้คนจีนบางคนจะพอพูดอังกฤษได้บ้าง แต่คนในประเทศเขาก็ยังเน้นพูดจีนเป็นหลัก การสื่อสารที่ง่ายที่สุดก็คือใช้ App Google Translate สำหรับถามทาง ซื้อของ ต่อราคาได้ แปลเมนูอาหารอันนี้ใช้บ่อยมาก

6.ด้านการเดินทางจะเน้นรถไฟฟ้าใต้ดิน แนะนำว่าให้ Activate QR Code สำหรับใช้สแกนเข้ารถไฟฟ้าในฟังก์ชัน Transport ของ Alipay ไว้เลย สามารถใช้สแกนเข้าออกแล้วตัดเงินในบัตรทันทีแบบไม่ต้องไปต่อคิวซื้อตั๋ว สะดวกสุด ๆ

  • แนะนำโหลดแอปฯ รถไฟใต้ดินจีน Metro China Subway ให้เลือกเมือง “ปักกิ่ง” เมนูเป็นภาษาอังกฤษ

8.ปักกิ่งคือเมืองต้น ๆ ของจีนที่ควรไปเยือนเลย เพราะมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ต้องเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม แถมยังมีดินแดนแห่งความสุขความสนุกอย่างยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง ซึ่งเป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลแห่งที่ 5 และจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

  • ตอนนี้แอร์เอเชียมีบินตรงไปปักกิ่งทุกวันแล้วน้า อยากไปสัมผัสความอลังการของนครสองเวลาเมื่อไหร่ก็กดตั๋วไปได้ทุกเมื่อ

𝐃𝐚𝐲 𝟏

▪️ 𝐔𝐧𝐢𝐯𝐞𝐫𝐬𝐚𝐥 𝐒𝐭𝐮𝐝𝐢𝐨𝐬 𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠

𝐃𝐚𝐲 𝟐

▪️ 𝐑𝐞𝐝𝐁𝐫𝐢𝐜𝐤 𝐀𝐫𝐭 𝐌𝐮𝐬𝐞𝐮𝐦

▪️ 𝐑𝐞𝐝𝐁𝐫𝐢𝐜𝐤 𝐂𝐚𝐟𝐞

▪️ 𝐒𝐮𝐦𝐦𝐞𝐫 𝐏𝐚𝐥𝐚𝐜𝐞

𝐃𝐚𝐲 𝟑

▪️ 𝐓𝐢𝐚𝐧𝐚𝐧𝐦𝐞𝐧

▪️ 𝐆𝐮𝐛𝐞𝐢 𝐖𝐚𝐭𝐞𝐫 𝐓𝐨𝐰𝐧

▪️ 𝐒𝐢𝐦𝐚𝐭𝐚𝐢 𝐆𝐫𝐞𝐚𝐭 𝐖𝐚𝐥𝐥

𝐃𝐚𝐲 𝟒

▪️ 𝐓𝐢𝐚𝐧𝐭𝐚𝐧 𝐓𝐞𝐦𝐩𝐥𝐞 𝐨𝐟 𝐇𝐞𝐚𝐯𝐞𝐧

▪️ 𝐓𝐡𝐞 𝐅𝐨𝐫𝐛𝐢𝐝𝐝𝐞𝐧 𝐂𝐢𝐭𝐲

▪️ 𝐉𝐢𝐧𝐠𝐬𝐡𝐚𝐧 𝐏𝐚𝐫𝐤

▪️ 𝐖𝐚𝐧𝐠𝐟𝐮𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐏𝐞𝐝𝐞𝐬𝐭𝐫𝐢𝐚𝐧 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭

𝐃𝐚𝐲 𝟓

▪️ 𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐜𝐢𝐭𝐲 𝐋𝐢𝐛𝐫𝐚𝐫𝐲

▪️ 𝐐𝐢𝐚𝐧𝐦𝐞𝐧 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭

ที่พัก : 𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐗𝐢𝐧𝐪𝐢𝐚𝐨 𝐇𝐨𝐭𝐞𝐥

𝐁𝐮𝐝𝐠𝐞𝐭 𝟓 𝐃𝐚𝐲𝐬 𝟒 𝐍𝐢𝐠𝐡𝐭𝐬

เดินทาง 2 คน งบประมาณ 18,015 บาท/คน (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)

-ที่พัก Beijing Xinqiao Hotel4 คืน : 1,1600 บาท **

- ค่าเข้า Universal Studios Beijing: 2,460 บาท

- ค่าเข้า Red Brick Art Museum : 750 บาท

- ค่าเข้า Summer Palace : 150 บาท

- บัตรเข้าชมเมืองกู๋เป่ยสุ้ยเจิ้น+บัตร&กระเช้าเข้ากำแพงเมืองจีน : 1,385 บาท

- ค่าเข้า Tiantan Temple of Heaven : 170 บาท

-ค่าเข้าพระราชวังต้องห้าม : 300 บาท

-ค่าอาหารและจิปาถะ : คนละ 4,500 บาท***

-ค่าเดินทาง : คนละ 2,500 บาท (ค่า DiDi รถบัส และรถไฟฟ้า)

……………………….

**ราคาที่พักหาร 2 และอาจเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา

*** ค่าอาหาร เครื่องดื่ม จิปาถะ ขึ้นอยู่กับงบประมาณส่วนบุคคล

ด้านการเดินทางทั้งจากสนามบินเข้าเมือง และไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนใหญ่สามารถเดินทางโดย‘รถไฟฟ้า’ ที่ค่อนข้างครอบคลุมไปทั่วเมือง แถมยังคำนวณเวลาในการเที่ยวได้ด้วย หากต้องการความม่วนจอยจะลอง‘รถประจำทาง’ ก็ไม่ติด ซึ่งราคาจะถูกกว่ารถไฟนิดหน่อย ตามป้ายรถบัสเขามีตารางเวลาบอกด้วย แต่หากเป็นสายสบายแบบเราแนะนำให้โหลดแอป‘Didi’ เพื่อเรียกรถส่วนตัวไปโลด โดยแอปนี้เราจ่ายได้ผ่านAlipay ข้อดีคือคนขับทราบจุดหมายที่ชัดเจน รู้ราคาตั้งแต่ก่อนเรียก ยิ่งหารกับเพื่อนก็ยิ่งคุ้ม ซึ่งจากสนามบินเข้าเมืองราคาประมาณ100 หยวน(500 บาท) มีจุดขึ้นรถที่E-Hailing Point ได้เลย

นาทีนี้เรื่องบินตรงกรุงเทพฯ ดอนเมือง (DMK) - ปักกิ่งต้าชิ่ง (PKX) สายการบินเดียวที่คิดถึงต้องยกให้AirAsia กับมงสายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุด15 ปีซ้อน

พร้อมเส้นทางอื่น ๆ ที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ถึง12 เส้นทางจากกรุงเทพ(ดอนเมือง) สู่กวางโจว, เซินเจิ้น, เฉิงตู, ฉางซา, ฉงชิ่ง, คุนหมิง, หางโจว, ซัวเถา, อู่ฮั่น, ซีอาน เซี่ยงไฮ้โดยเส้นทางบินตรงไปปักกิ่งจะมีบินตรงทุกวัน
ขาไปออกจากDMK 22:55 น. ถึงPKX 04:40 น.
ขากลับออกจากPKX 05:50 น. ถึง DMK 09:45 น.
กดจองได้ง่ายสุด ๆ ที่ www.airasia.com และแอปAirAsia MOVE

ที่สุดแรกของโลกที่AirAsia พาเรามาสัมผัสคือ‘สนามบินต้าซิง’ สนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีพื้นที่ถึง700,000 ตารางเมตร ลักษณะเป็นอาคารหลังเดี่ยว2 ชั้น แต่มีปีกแผ่ขยาย ได้รับแรงบันดาลใจจากนกฟีนิกซ์ สัตว์มงคลในตำนานของจีน เวลาที่เรามาถึงเป็นช่วงเช้าตรู่ หลังจากผ่านตม. รับกระเป๋าเรียบร้อยก็มาแวะอาบน้ำก่อน ซึ่งเขามีบริการผ้าขนหนูให้ฟรี เพียงกดปุ่มก็มีพี่สาวใจดีเอามาให้ และห้องน้ำคือสวย สะอาดมาก ถือเป็นก้าวแรกที่ปักกิ่งต้อนรับเราได้อย่างน่าประทับใจ

𝐃𝐚𝐲 𝟏

𝟎𝟎𝟏 𝐔𝐧𝐢𝐯𝐞𝐫𝐬𝐚𝐥 𝐒𝐭𝐮𝐝𝐢𝐨𝐬 𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠

วันแรกนี้ขอใช้พลังงานชีวิตที่สะสมไว้มาระเบิดกันให้หมดแมกซ์ไปเลยกับ‘𝐔𝐧𝐢𝐯𝐞𝐫𝐬𝐚𝐥 𝐒𝐭𝐮𝐝𝐢𝐨𝐬 𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠’ โลกคู่ขนานระหว่างความเป็นจริงและดินแดนสุดมันส์ แห่งที่ 5 ของโลก แห่งที่ 3 ของเอเชีย และเป็น Universal ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กินพื้นที่ถึง 2,500 ไร่ ให้เราได้ใกล้ชิดกับคาแรกเตอร์ตัวโปรดของUniversal Pictures ไม่ว่าจะเป็นทรานส์ฟอร์เมอร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ มินเนี่ยน ฯลฯ แบ่งได้ถึง7 โซน เดินถ่ายรูปได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ เดี๋ยวเราจะพาไปดูว่าสาขาปักกิ่งนี้เขาทำถึงขนาดไหน

🚉 Huanqiu Dujiaqu Station

💸 528 หยวน(2,640 บาท)

โซนแรกที่มาแรงไม่เคยดรอป‘The Wizarding World of Harry Potter’ ย่างกรายเข้าสู่โลกพ่อมดที่น่าค้นหา ลัดเลาะไปในหมู่บ้านHogsmeade แวะดื่มบัตเตอร์เบียร์หอมหวานเย็นชื่นใจ เลือกซื้อไม้กายสิทธิ์ สัตว์วิเศษ ชุดนักเรียนพ่อมดแม่มด ก่อนเข้าคลาสเรียนในHogwarts พร้อมผจญภัยตีลังกากับ Hippogriff และชมการแสดงอีกมากมาย ใครเป็นแฟนคลับแฮร์รี่นี่บอกเลยว่าฟินไปหลายตลบแน่นอน

และช่วงเวลาที่พลาดไม่ได้เลยคือการแสดงแสงสีเสียง ที่ทำให้Hogwarts ดูมีชีวิตขึ้นทันตา พร้อมกับไฟส้มตามทางเดินของหมู่บ้านก็ยิ่งทำให้ที่นี่เหมือนโลกพ่อมดได้สมจริงเข้าไปอีก โดยโชว์นี้จะใช้เวลา6 นาที และเล่นห่างกันทุก ๆ15 นาทีจนถึงเวลาสวนสนุกปิด ฉะนั้นไม่ต้องรีบนะจ๊ะ มาช้ามาเร็วก็ได้ดูอยู่ดี 🧙🏻‍♀️

ส่วนโซนอื่น ๆ ก็ทำได้ดีทำได้ปังไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นโซนไฮไลต์อย่าง‘Transformers Metrobase’ ฐานทับลับสุดล้ำสไตล์Cybertronian ให้เราวิ่งวนใกล้ชิดBumblebee อัดเครื่องเล่นเรียกเสียงกรี๊ดมาแน่น ๆเลย

.

ต่อมา‘Kung Fu Panda Land of Awesomeness’ ทำออกมาได้จีนตะโกนเข้าธีมสุด ๆ ทั้งการตกแต่ง การเล่นแสงสี และการใช้ภาษาเราชอบม้าหมุนเก๋งจีนของโซนนี้มากเพราะข้างในมีตัวละครครบและไม่ใช่แค่ใกล้ชิดแต่เราได้ขี่หลังพวกนางไปเลยค่า

.

ใครชอบการแสดงมันส์ ๆ แนะนำให้มาที่‘WaterWorld’ กับโชว์แอ็กชันเหนือผิวน้ำ งานเสียงแน่น งานระเบิดเนียนทำเอาหนังหน้าร้อนผ่าวกันเลยทีเดียว

.

ทาสรักจูราสสิคเชิญทางนี้‘Jurassic World Isla Nublar’ พาทุกคนย้อนไปในโลกยุคดึกดำบรรพ์พบความยิ่งใหญ่ของพี่ ๆ ไดโนเสาร์ที่เดินไปมาแบบมีชีวิตจริง ๆเสียงคำรามชวนสะพรึง พร้อมเครื่องเล่นเร้าใจอีกมากมาย

.

น้องเหลือง‘Minion Land’ ก็ไม่น้อยหน้า กับหมู่บ้านที่เหมือนหลุดออกมาจากอนิเมชันเป๊ะ!! พร้อมมินเนี่ยนหลายร้อยตัวโผล่มาซุกซนรอบ ๆ กาย ชวนปวดหัว บอกเลยว่ามุมถ่ายรูปเพียบ!! แถมมีรถไฟเหาะเสียวเล็ก ๆ สำหรับครอบครัวให้เล่นด้วย

.

ใครหิวแนะนำให้ไปที่โซน‘Hollywood’ ถนนเส้นงามที่รวมร้านค้า พร้อมการแสดงเอฟเฟกต์เบื้องหลังการถ่ายหนังแบบเรียล ๆ และยังมีMel’s Drive-in ร้านอาหารสไตล์เรโทรแสนเก๋ให้เราได้ถ่ายรูปเช็กอิน

แอ๊วเอินแต่ละโซนเสร็จเราก็มายืนรอชมขบวนพาเหรด นอกจากรถพาเหรดที่ตกแต่งอย่างอลังการงานสร้างแล้ว พี่ ๆ นักเต้นที่นำแต่ละขบวนคือคอสตูมเลิศ เต้นมันส์จนอยากเข้าไปร่วมวง การแสดงก็สมบทบาทร่าเริงไม่มีดรอป ถ้าเธอเป็นติ่งใครแนะนำให้เตรียมกล้อง เตรียมเสียงกรี๊ดไว้ให้พร้อม จะได้ไม่พลาดทุกช็อตเด็ด ซึ่งแต่ละช่วงจะมีเวลาแตกต่างกันไปแนะนำให้เช็กใน Official APP / Miniprograms กันก่อนนะฮะ

𝐃𝐚𝐲 𝟐

𝟎𝟎𝟐 𝐑𝐞𝐝𝐁𝐫𝐢𝐜𝐤 𝐀𝐫𝐭 𝐌𝐮𝐬𝐞𝐮𝐦

เข้าวันที่สองเราเน้นเที่ยวแบบชิล ๆ แพลนหลวม ๆ พักร่างจากที่ทุ่มเทเอเนอร์จีทั้งหมดไปกับเครื่องเล่นเมื่อวาน โลเคชันแรกอยู่ที่‘𝐑𝐞𝐝𝐁𝐫𝐢𝐜𝐤 𝐀𝐫𝐭 𝐌𝐮𝐬𝐞𝐮𝐦’ พิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่พื้นที่รวม20,000 ตารางเมตร จัดแสดงงานศิลปะงานสะสมเต็ม ๆ10,000 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยโครงสร้างอิฐสีแดงที่วางซ้อนกันอย่างมีมนต์ขลัง เหมือนจะเก่าแก่แต่ทว่าเป็นการออกแบบที่โมเดิร์น โดยผู้ออกแบบคือDONG Yugan ศาสตราจารย์ด้านสถาปัตยกรรมของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง โดยที่นี่จะเน้นจัดแสดงผลงานร่วมสมัยทั้งของจีนและนานาอารยประเทศ และยังมีโซนสวนแสนร่มเย็นพร้อมกำแพงอิฐสีเทาเข้มเป็นโฟโต้สป็อตยอดฮิตอีกด้วย

🚉 Laiguangying Station

🚍 no.944 to HeGeZhuang bus stop

💸 150 หยวน(750 บาท)

**มิวเซียมปิดทุกวันจันทร์**

𝟎𝟎𝟑 𝐑𝐞𝐝𝐁𝐫𝐢𝐜𝐤 𝐂𝐚𝐟𝐞

ภายในสวนของพิพิธภัณฑ์ยังมีคาเฟ่ตั้งตระหง่านอยู่ใต้เงาต้นไม้ใหญ่เป็นอาคารทรงจั่ว สีสันของอิฐแดงตัดกับสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างดี ภายในเป็นแบบเปิดโล่งเพดานสูง ติดตั้งกระจกรอบด้านเหมือนกรอบรูป เผยวิวธรรมชาติเขียวฉ่ำตาระดับมาสเตอร์พีซ เราลองสั่งเค้กช็อกโกแลตมา รสชาติหวานอ่อน ๆ ดีงามม๊าก มูสสัมผัสละมุนตัดกับแป้งเหนียวนุ่มที่เป็นเลเยอร์ได้อย่างลงตัว โดยร้านจะเปิดตั้งแต่10:00 - 19:30 น. ปิดทุกวันจันทร์นะจ๊ะ

𝟎𝟎𝟒 𝐒𝐮𝐦𝐦𝐞𝐫 𝐏𝐚𝐥𝐚𝐜𝐞

ช่วงบ่ายเรากดแอปเรียกรถมุ่งตรงไปยัง‘𝐒𝐮𝐦𝐦𝐞𝐫 𝐏𝐚𝐥𝐚𝐜𝐞’ ชื่อจีนเรียกว่า อี้เหยอหยวน เป็นสถานที่พักตากอากาศของเหล่าราชวงศ์ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ พร้อมบรรดาศาลาจีนแบบโปร่งดูเย็นสบายแม้แดดภายนอกจะแผดเผา ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของสถาปัตยกรรม ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่12 แรกเริ่มเป็นวังหลวงของกุบไลข่าน ก่อนถูกต่อเติมใหม่สมัยราชวงศ์หมิงและชิง ใช้เวลานานกว่า60 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ ก่อนถูกเผาทำลายจากสงครามต่าง ๆ และฟื้นฟูขึ้นใหม่โดยซูสีไทเฮา จึงมีสิ่งปลูกสร้าง ประติมากรรมอันตระการตาอีกมากมายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็จะเห็นความงดงามแตกต่างกันไป

🚉 Xiyuan Station

🚍 no.944 to HeGeZhuang bus stop

💸 30 หยวน(150 บาท)

𝐃𝐚𝐲 𝟑

𝟎𝟎𝟓 𝐓𝐢𝐚𝐧𝐚𝐧𝐦𝐞𝐧

ลิสต์วันนี้เราจะออกล่าความเป็นนครสองกาลเวลา ความเป็นที่สุดของโลกกันแบบสับ ๆ กับที่แรก ‘𝐓𝐢𝐚𝐧𝐚𝐧𝐦𝐞𝐧’ แลนด์มาร์กอันยิ่งใหญ่ประจำประเทศจีน ตั้งอยู่ด้านหน้าประตูของพระราชวังต้องห้ามที่มีอายุ 600 ปีมาแล้ว เดิมจัตุรัสแห่งนี้เริ่มสร้างขั้นสมัยราชวงศ์หมิง ใช้เป็นประตูหลักเข้า-ออกวังขององค์จักรพรรดิ หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในปี 1651 จัตุรัสเทียนอันเหมินได้ถูกขยายขนาดขึ้นเป็น 257 ไร่ จุคนได้ 2 ล้านคน กลายเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก และป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองจีนมากมาย รอบ ๆ จึงมีทั้งที่ว่าการ พิพิธภัณฑ์ และอนุสาวรีย์วีรชนตั้งอยู่สป็อตนี้เราใช้เวลาไม่นานแค่แวะถ่ายรูปเอาฟีลว่ามาถึงปักกิ่งแล้วจริง ๆ

🚉 Tian'anmendong Station

𝟎𝟎𝟔 𝐆𝐮𝐛𝐞𝐢 𝐖𝐚𝐭𝐞𝐫 𝐓𝐨𝐰𝐧

จุดสำหรับสายคอนเทนต์ที่แท้ทรู‘𝐆𝐮𝐛𝐞𝐢 𝐖𝐚𝐭𝐞𝐫 𝐓𝐨𝐰𝐧’ หมู่บ้านกู่เป๋ยสุ่ยเจิ้น สถานที่ที่เหมือนหลุดไปในหนังจีนกำลังภายใน แต่ที่นี่ไม่ใช่หมู่บ้านเก่าแก่แต่อย่างใด แต่เป็นการสร้างขึ้นใหม่ (เหมือนเมืองโบราณบ้านเรา) ด้วยโลเคชันที่โอบล้อม Mandarin Duck Lake อยู่ใกล้กับกำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไถและมีแม่น้ำกู๋เป่ยไหลผ่านจึงมีทัศนียภาพที่งดงาม บวกสถาปัตยกรรมทางตอนเหนือ สมัยราชวงศ์ชิงตอนปลายก็ยิ่งปังเข้าไปใหญ่ เน้นใช้โครงสร้างสมจริงทั้งรูปทรงสะพานโค้งตัดลำคลอง บ้านริมน้ำ ถนนหนทางใช้วัสดุอิฐ หิน และไม้ หากใครอยากดื่มด่ำก็สามารถเช่าเรือพายโบราณพาชมเมืองได้

💸 บัตรเข้าชมเมืองกู๋เป่ยสุ้ยเจิ้น + บัตรเข้ากำแพงเมืองจีน+ กระเช้าขึ้นกำแพงเมืองจีน (ขาไปและกลับ) ราคา 280 หยวน (1,385 บาท)วิธีการซื้อตั๋ว สามารถ walk in ไปซื้อห้องตั๋วด้านหน้าทางเข้าเมืองกู๋เป่ยสุ้ยเจิ้นได้เลย

ที่นี่เราจะสนุกไปกับการชอป ชิม แชะ!! กับมุมถ่ายรูปที่จัดไว้ให้เพียบคุ้มค่าตั๋ว แนะนำว่าให้มาช่วงหน้าร้อน-ฤดูใบไม้ผลิ เพราะธรรมชาติโดยรอบคือสมบูรณ์ กวาดตาไปมุมไหนก็สดใส เหมาะที่จะเช่าชุด แต่งหน้า ยกเครื่องผมฟีลองค์หญิงมาเดินเล่น แอบแวะคาเฟ่สักหน่อยก็พบว่าขนมเครื่องดื่มนั้นดีงามเช่นกัน กาแฟหอมกลมกล่อม ส่วนชีสเค้กก็มีความนัวหนึบหวานอ่อน ๆ รสชาติเหมาะกับคนยุคใหม่สุด ๆ

𝟎𝟎𝟕 𝐒𝐢𝐦𝐚𝐭𝐚𝐢 𝐆𝐫𝐞𝐚𝐭 𝐖𝐚𝐥𝐥

สป็อตระดับตำนานกับ1 ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่อยู่ใกล้หมู่บ้านโบราณมากที่สุดคือ‘𝐒𝐢𝐦𝐚𝐭𝐚𝐢 𝐆𝐫𝐞𝐚𝐭 𝐖𝐚𝐥𝐥’ กำแพงเมืองจีนด่านซือหม่าไถ จุดสุดปังของกำแพงเมืองจีน เพราะเป็นแห่งเดียวที่ยังคงสภาพเดิมตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง มีความยาวถึง 5.6 กิโลเมตร บนความสูงชันของแนวภูเขาซึ่งแม้จะเดินอยู่บนกำแพงหินแต่ก็ขอแนะนำให้ใส่รองเท้าผ้าใบที่เดินสบาย ๆ มาเผื่อด้วย เพราะบางช่วงจะมีความชันและขรุขระสะดุดง่าย แต่บอกเลยว่าสองข้างทางคือสวยงามยิ่งใหญ่สมมง หากใครนอนค้างในหมู่บ้านกู่เป๋ยสุ่ยเจิ้นแนะนำให้ลองมาเดินตอนกลางคืนเขาจะเปิดไฟส้มไปตามทางได้ไวบ์โรแมนติกไปอีกแบบด้วย

𝐃𝐚𝐲 𝟒

𝟎𝟎𝟖 𝐓𝐢𝐚𝐧𝐭𝐚𝐧 𝐓𝐞𝐦𝐩𝐥𝐞 𝐨𝐟 𝐇𝐞𝐚𝐯𝐞𝐧

ที่นี่เราสามารถconnect กับสวรรค์ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ𝐓𝐢𝐚𝐧𝐭𝐚𝐧 𝐓𝐞𝐦𝐩𝐥𝐞 𝐨𝐟 𝐇𝐞𝐚𝐯𝐞𝐧 สถานที่บวงสรวงสวรรค์ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์หมิงและใช้ต่อเนื่องมาถึงราชวงศ์ชิง ผ่านมานานกว่า600 ปี ที่นี่ก็ยังแสนตระการตา กับพื้นที่กว้างถึง2.73 ล้านตารางเมตร ห้อมล้อมไปด้วยตำหนักอันงดงามจนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งแต่ก่อนการทำพิธีที่นี่ถือเป็นการมูเตลูครั้งใหญ่ของประเทศ ที่สร้างขวัญกำลังใจแก่ปวงประชา ในเรื่องการทำเกษตร ภัยพิบัติทางธรรมชาติ สร้างความอยู่เย็นเป็นสุข โดยจะมีการทำพิธีปีละ2 ครั้ง ไฮไลต์คือตำหนักฉีเหนียนเตี้ยน อาคารทรงกลมที่ทำจากไม้ มีเสาต้นใหญ่รวม28 ต้น พร้อมงานสลักอันงดงามสื่อความหมายทุกกระเบียดนิ้ว แสดงความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์สมัยนั้นได้อย่างดี

🚉 Tiantan Dongmen Station

💸 34 หยวน(170 บาท)

มุมถ่ายรูปตรงตำหนักคนก็จะเยอะ ๆ หน่อย เราแนะนำให้มาเดินตรงสวนสาธารณะรอบ ๆ ดู เขาจัดสวนได้ชิลเว่อร์ แถมต้นไม้ยังสูงใหญ่เหมือนเดินในป่ามากกว่าอยู่กลางเมือง ชมนก ชมไม้เพลิน ๆ ก็เห็นเหล่าอากงอาม่าออกลวดลายรำไทเก๊ก เดาะลูกขนไก่ เห็นหนุ่มสาวมาออกเดต เด็กตัวเล็ก ๆ มาวิ่งเล่น ฉะนั้นนอกจากจะเป็นแหล่งรวมความเชื่อแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของชาวเมืองได้มาพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

𝟎𝟎𝟗 𝐓𝐡𝐞 𝐅𝐨𝐫𝐛𝐢𝐝𝐝𝐞𝐧 𝐂𝐢𝐭𝐲

ใครเป็นแฟนซีรีส์จีนแนะนำให้เช่าชุดพร้อมเมคอัพเตรียมตัวเป็นองค์หญิงมาเดินถ่ายรูปตามรอยซีรีย์ได้เลยฟิน ๆที่ ‘𝐓𝐡𝐞 𝐅𝐨𝐫𝐛𝐢𝐝𝐝𝐞𝐧 𝐂𝐢𝐭𝐲’ ยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือจนต้องร้องขอชีวิตตั้งแต่ทางเดินเข้า จนอยากจะส่งขันทีสมัยนั้นไปแข่งวิ่งมาราธอน แข่งเดินเร็วคงได้แชมป์โอลิมปิกมาครองแน่นอน เพราะเขาต้องทำงานอยู่ในพื้นที่ขนาด720,000 ตารางเมตรนี้ ผังของพระราชวังต้องห้ามนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อย ประกอบด้วยอาคาร980 หลัง เชื่อว่าแต่ก่อนสามารถแบ่งห้องได้ถึง9,999 ห้อง ซึ่งถือเป็นเลขมงคลของจีน แต่ละจุดหลัก ๆ เราจะเห็นการตกแต่งสุดวิจิตร งานสลักอันแสนบรรจง พร้อมหลักฮวงจุ้งปัง ๆ ที่แอบซ่อนอยู่ทุกจุด ทั้งป้องกันภัย เสริมบารมี เรียกทรัพย์สิน ใครเป็นสายประวัติศาสตร์รับรองว่าฟินแน่นอน

🚉 Tian'anmen West หรือTian'anmen East

💸 60 หยวน(300 บาท)

จองล่วงหน้าผ่าน https://bookingticket.dpm.org.cn/

𝟎𝟏𝟎 𝐉𝐢𝐧𝐠𝐬𝐡𝐚𝐧 𝐏𝐚𝐫𝐤

สำหรับมุมจึ้ง ๆ ที่ใครมาพระราชวังต้องห้ามจะต้องแวะเก็บภาพสักแชะอยู่ที่‘𝐉𝐢𝐧𝐠𝐬𝐡𝐚𝐧 𝐏𝐚𝐫𝐤’ สวนสาธารณะที่มีเนินเขาจิงซ่านตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพระราชวัง บริเวณยอดเขาตรงกลางถือเป็นจุดสูงสุดของปักกิ่ง จากบนนี้เราจะได้เห็นวิวพระราชวังต้องห้ามจากมุมสูงอย่างเต็มตา แต่ที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือประวัติ เพราะภูเขาที่เรายืนอยู่สร้างขึ้นโดยน้ำมือมนุษย์ เพื่อบังกระแสลมเหนือให้แก่พระราชวัง มียอดเขาทั้งหมด 5 ยอด แทนธาตุทอง ดิน น้ำ ไม้ ไฟ พอเราได้หามุมหลบแดดแล้วมองไปรอบ ๆ ก็จะเห็นผู้คนมาเดินเล่น บ้างซ้อมดนตรี ร้องเพลงประสานเสียง ดูมีชีวิตชีวา บวกกับความเขียวสบายตาแล้วมันชิลเกินต้านจริง ๆ

𝟎𝟏𝟏 𝐖𝐚𝐧𝐠𝐟𝐮𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐏𝐞𝐝𝐞𝐬𝐭𝐫𝐢𝐚𝐧 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭

จบค่ำคืนสุดท้ายด้วยการเอาใจสายชอปที่‘𝐖𝐚𝐧𝐠𝐟𝐮𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐏𝐞𝐝𝐞𝐬𝐭𝐫𝐢𝐚𝐧 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭’ ย่านธุรกิจอันยิ่งใหญ่ของปักกิ่งที่มีประวัติยาวนานกว่า700 ปี บนความยาว1.6 กิโลเมตรนี้คึกคักไปด้วยผู้คนตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืน นอกจากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านค้าแบรนด์ดัง อาทิZARA Nike Popmart แบรนด์สินค้าจีน สตรีทฟู้ดแล้ว ยังมีเช็กอินสป็อตให้เราได้เที่ยวชม อย่างSt. Joseph's Cathedral โบสถ์คาทอลิกอันโอ่อ่าที่สร้างขึ้นในสไตล์Neo-Romanesque ถือเป็นโบสถ์เก่าแก่อันดับสองของเมือง ก็เป็นจุดที่ไม่ควรพลาด

🚉 Wangfujing Station

𝐃𝐚𝐲 𝟓

𝟎𝟏𝟐 𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐜𝐢𝐭𝐲 𝐋𝐢𝐛𝐫𝐚𝐫𝐲

วันสุดท้ายขอปักหมุดที่ปัง ๆ เน้นทำคอนเทนต์กันสักหน่อยอย่าง‘𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐜𝐢𝐭𝐲 𝐋𝐢𝐛𝐫𝐚𝐫𝐲’ ห้องสมุดสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำออกมาได้สวยตาแตกจนต้องร้องว้าวทุกย่างก้าว ไฮไลต์คือฟอรัมต้อนรับที่สูงกว่า16 เมตร รอบด้านเป็นกระจกให้รับแสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง มีบันไดทอดยาวเป็นเส้นคดโค้ง ล้อกับฟอร์มของหุบเขา ท่ามกลางความเงียบสงบของผู้คนที่ตั้งใจมานั่งอ่านหนังสือ ในนี้เหมือนเป็นโลกอีกใบที่ตัดขาดจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง แถมการออกแบบของเขายังเน้นความยั่งยืนพยายามลดคาร์บอนคำนึงทั้งเรื่องแสงสว่าง ระบบควบคุมเสียง การเก็บน้ำฝน และระบบไฟฟ้าแบบโซลาร์เซลล์ ถูกใจสายeco อย่างเราสุด ๆ

อ๊ะๆ ต้องขอย้ำไว้เลยว่า ไปถ่ายรูปแล้วต้องช่วยกันรักษาความสงบด้วยน้า เคารพกฎและคนที่มาอ่านหนังสือกันด้วยล่ะ :)

🚉 เราเดินทางด้วยการเรียก DiDi สามารถนั่งรถบัสมาได้เช่นกัน ดูสายรถบัสที่แอปฯ Baidu Maps ได้เลย

𝟎𝟏𝟑 𝐐𝐢𝐚𝐧𝐦𝐞𝐧 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭

ที่นี่เราเห็นคนนิยมมาตอนกลางคืน แต่ความจริงกลางวันแบบนี้ก็เที่ยวได้เหมือนกัน‘𝐐𝐢𝐚𝐧𝐦𝐞𝐧 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭’ อีกชอปปิงสตรีทโบราณที่มีเรื่องราวยาวนานกว่า570 ปีตลอดระยะทาง 840 เมตร ถูกประกบด้วยอาคารทรงคลาสสิกสมัยปลายราชวงศ์ชิง เดิมเป็นตลาดเครื่องประดับ เสื้อผ้า ไปจนถึงตลาดขายเนื้อ ปัจจุบันก็ยังคงเป็นแหล่งค้าขายเช่นเดิมแต่ร้านรวงออกจะโกลบอลขึ้น มีร้านคราฟต์ขายของแฮนด์เมด พร้อมร้านอาหารพื้นเมืองอย่างเป็ดปักกิ่งรสเลิศที่สายกินจะต้องตาวาว แถมราคายังน่ารักน่าคบหาอีกด้วย

🚉 Qianmen Station

เดินอยู่ใน 𝐐𝐢𝐚𝐧𝐦𝐞𝐧 𝐒𝐭𝐫𝐞𝐞𝐭 ต้องไม่พลาดที่จะจัดทีเด็ดอย่างเป็ดปักกิ่ง เอาจริงแล้วแนะนำไม่ถูกเลยว่าร้านไหนเด็ดสุด เพราะย่านนี้มีร้านให้เลือกนั่งเยอะมาก และดูน่ากินทุกร้าน แต่หากเป็นร้านที่เราเลือกนั้น คือร้าน Judehuatian

และนี่คือภาพตัวอย่างของเป็ดปักกิ่งในเมืองปักกิ่งของแทร่!!! เป็ดปักกิ่งของที่นี่จะแตกต่างจากไทยตรงที่เขามาทั้งเนื้อและหนัง มีชั้นมันแทรกกำลังดี พอกัดไปคำแรกจะเจอกับหนังกรอบ ๆ พร้อมความนุ่มจุยซ์ของเนื้อและมัน กลิ่นเป็ดหอมฟุ้งไปทั่วจมูก กินเปล่า ๆ ว่าอร่อยแล้ว พอกินกับแป้งเหนียวนุ่มร้อน ๆ ราดซอสฮอยซินหวานเค็มกลมกล่อม แกล้มด้วยต้นหอม พริก และแตงกวาคือเอาไปเลยเต็มสิบ!!

𝟎𝟏𝟒 𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐗𝐢𝐧𝐪𝐢𝐚𝐨 𝐇𝐨𝐭𝐞𝐥

ทุกค่ำคืนในปักกิ่งเราเลือกพักที่‘𝐁𝐞𝐢𝐣𝐢𝐧𝐠 𝐗𝐢𝐧𝐪𝐢𝐚𝐨 𝐇𝐨𝐭𝐞𝐥’ โรงแรมใจกลางเมืองที่หลับสบายเต็มตา ตื่นสดชื่นทุกเช้า ถ้าเป็นสายชิลก็สามารถเดินเที่ยวรอบ ๆ ไปยังพระราชวังต้องห้าม จัตุรัสเทียนอันเหมิน และWangfujing ได้เลย หรือจะนั่งรถไฟฟ้าก็ไม่ติดเพราะอยู่ใกล้กับรถไฟใต้ดินด้วยภายในมีล็อบบีอันหรูหรา ฟิตเนสพร้อม ร้านอาหารจีนอร่อยมาก และห้องนอนมีให้เลือกหลายแบบหลายดีไซน์ จะมาเป็นคู่ มาเป็นครอบครัวก็ตอบโจทย์ได้หมด

สามารถจองโรงแรมผ่าน Booking.com ได้เลยน้า

🚉 Xinqiao Station

💸คืนละ 2,900 บาท

ขากลับเรานั่ง DiDi ไปสนามบินต้าชิงปักกิ่งเพื่อความสะดวกเรื่องกระเป๋าเดินทาง ก็แหมมม ของฝากเต็มกระเป๋าขนาดนี้ นี่แหละความดีงามคือไม่ว่าจะไปเมืองไหนของจีนก็หมดห่วงเรื่องค่าเดินทาง ไม่ว่าจะขนส่งสาธารณะต่าง ๆ แท็กซี่ DiDi ก็ราคาน่ารัก ทำให้เราเลือกวิธีที่สบายให้ตัวเองได้แบบไม่หนักใจที่จะต้องจ่ายเลย
สำหรับขากลับเราก็ยังเลือกบินกลับไปกับแอร์เอเชียเช่นเดิม
โดยบินจากสนามบินปักกิ่งต้าชิ่ง05:50 น. และถึงสนามบินดอนเมือง 09:45 น. เวลาบินกำลังน่ารัก ถึงบ้านแล้วพักผ่อนได้ต่อแบบไม่เพลีย

เที่ยวจีนทีไรมันเพลินจนลืมวันกลับไปเลย ยิ่งเป็นปักกิ่งเมืองที่ยังคงรักษาอดีต มีปัจจุบันที่ดีขึ้น และอนาคตที่ดูจะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง สร้างความประทับใจทั้งเรื่องประวัติศาสตร์อันเฟื่องฟู จนถึงเทคโนโลยี สถาปัตยกรรมแบบใหม่แบบสับที่ผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ทำให้เราอยากกลับมาเที่ยวซ้ำแล้วซ้ำอีก เที่ยวจีนครั้งหน้าเราจะพาไปเมืองไหนอย่าลืมติดตามกันต่อด้วยนะ

แต่สิ่งที่จะลืมไปไม่ได้เลยคือไม่ว่าจะเที่ยวจีนในครั้งไหนก็ต้องบินไปกับแอร์เอเชีย ตัวจริงเรื่องบินจีน

กดจองได้ง่ายสุด ๆ ที่ www.airasia.com และแอปAirAsia MOVE

ด้วยรัก

บันทึกคนขี้เที่ยว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 3

  • N U T`
    ปักกิ่งดีมากกกกจริงๆ
    02 ส.ค. เวลา 05.34 น.
  • Ploy559
    คราวก่อนโน้นไปเที่ยวจีนอดขึ้นกำแพงเมืองจีนเพราะฝนตกหนักเลยไม่ได้ขึ้น
    15 ส.ค. เวลา 08.48 น.
  • 🥀m@m_p@Ch♣️♦️🦋
    ปักกิ่งน่าไปเที่ยวมากค่ะ
    02 ส.ค. เวลา 07.07 น.
ดูทั้งหมด