ปิดจ็อบ"โรดแมปโยโกฮามา" อมตะเล็งขยายนิคมสมาร์ท

ทีม YUSA ทำแผนศึกษา Smart City ให้ “อมตะ” เสร็จแล้ว เตรียมเปิดโรดแมปฉบับสมบูรณ์ “โยโกฮามา-ฮิตาชิ” ก.พ. 62 ลุยจีบจีน ตั้ง “โครงการอมตะ-หนานจิง สมาร์ทซิตี้” และเกาหลีพัฒนาเพิ่ม เผยเป็นต้นแบบ smart ให้ทุกนิคมที่ลง ตปท. ล่าสุดลาวลุ้นผ่าน EIA พร้อมเปิดปีหน้า 

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเมืองอัจฉริยะ (smart city) หลังจากที่อมตะฯลงนามความร่วมมือ (MOU) กับทางเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี ให้เป็น Smart City ว่า ล่าสุดทีม Yokohama Urban Solution Alliance (YUSA) ได้ทำการศึกษาวางกรอบใหญ่ทั้งหมดของแผนแม่บท (roadmap) เสร็จแล้วเมื่อเดือน ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา แต่ยังต้องแก้ไขในรายละเอียดอีกบางส่วน คาดว่าจะสามารถเปิดเผยฉบับสมบูรณ์ได้ในเดือน ก.พ. 2562

เป้าหมายการทำ smart city ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรีนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ส่วนที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงพื้นที่ทั้งหมดภาพใหญ่ของนิคม หรือ smart industry park ที่จะประกอบไปด้วยออฟฟิศ อาคารพาณิชยกรรม ห้างสรรพสินค้า สถานที่จัดประชุมธุรกิจ MICE พื้นที่แสดงงานศิลปะ แหล่งบันเทิงและนันทนาการ

และ 2.ส่วนที่ฮิตาชิจะเข้ามาพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมทั้ง 700 โรงที่เป็นลูกค้าตั้งอยู่ภายในนิคม หรือ smart factory ในเบื้องต้นทางฮิตาชิ จะเริ่มพัฒนาและยกระดับโรงงานที่เป็นบริษัทในเครือก่อน จากนั้นโรงงานญี่ปุ่นและโรงงานที่เหลือแล้วแต่ความสมัครใจของโรงงานนั้น ๆ ซึ่งคาดว่า smart city ทั้งหมดจะเสร็จภายในระยะเวลา 4-5 ปี

“สิ่งที่เริ่มทยอยทำไปแล้วอย่างโครงการอมตะเน็ตเวิร์ก ที่ร่วมกับทาง AIS ทำเรื่องของไฟเบอร์ออปติก คือการเอาพวกสายไฟมาลงดินเป็นการจัดระเบียบภายในนิคม พร้อมไปกับการพัฒนาด้านอื่น ๆ ให้เป็น smart มากขึ้น”

นายวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อำนวยการสายงานพัฒนาที่ดิน AMATA กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะนำโมเดล smart city ไปใช้ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะฯที่อยู่ในต่างประเทศทั้งหมด เช่น ที่โฮจิมินห์ เวียดนาม และขณะนี้เตรียมเปิดอีกแห่งที่ฮาลอง ส่วนที่ลาวพื้นที่ 20,000-30,000 ไร่ ทางตอนเหนือได้อยู่ระหว่างการทำรายงานการวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้านไปแล้ว 6 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2562 ขณะที่เมียนมายังอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study : FS) โดยเฉพาะเงื่อนไขกฎระเบียบของการทำ EIA

ล่าสุดอมตะฯจับมือกับทางธุรกิจเคมิคอล บริษัทเอสซีจี และกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย สร้างถนนพลาสติกรีไซเคิลเส้นแรกในนิคม ต้นแบบเมืองอัจฉริยะอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) โดยจะเริ่มระยะแรกที่ 1 กม. ใช้ขยะจากถุงพลาสติกที่เกิดขึ้นภายในนิคมจำนวน 1.3 ตัน หรือ 1 แสนใบ ซึ่งจะแล้วเสร็จเริ่มใช้ได้กลางปี 2562 จากนั้นจะทดลองใช้ถนนเส้นนี้ 1 ปี และจะขยายการสร้างถนนให้รอบนิคมทั้งหมด 140 กม. คาดว่าจะลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ยางมะตอยลง 20-30%

ถือเป็นส่วนหนึ่งในการทำด้านสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (smart environment) ที่เป็น 1 ใน 6 ด้านของเกณฑ์การทำ smart city ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่วางเป้าหมายสนับสนุนให้เกิดสมาร์ทซิตี้โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

นางลีน่า อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นอกจากความร่วมมือกับเมืองโยโกฮามาแล้วนั้น นิคมที่เป็นพื้นที่ใหม่ต้องถูกพัฒนาเป็น smart ทั้งหมด เช่นเดียวกับที่เตรียมจับมือกับเมืองหนานจิง ประเทศจีน ตั้งโครงการอมตะ-หนานจิง สมาร์ทซิตี้ในนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี มีพื้นที่ประมาณ 1 ตร.กม. รองรับนักลงทุนจากจีนโดยเฉพาะ จะแบ่งเป็นส่วนของการตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นสูง ชิ้นส่วนยานยนต์แห่งอนาคต ในรูปแบบอาคารสูง

นอกจากนี้ ได้มีการศึกษาในรายละเอียดร่วมกับนักลงทุนเกาหลีใต้ พัฒนานิคมพื้นที่สำหรับรองรับเฉพาะนักลงทุนจากเกาหลีใต้ให้เป็น smart city เช่นเดียวกันกับจีนที่จะใช้พื้นที่ประมาณ 1 ตร.กม.เช่นกัน